2023 Haval H6 PHEV (ฮาวาล เอช6 พีเอชอีวี) เปิดตัวในไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว พวกเรา AutoFun Thailand ได้ลองขับในรอบสื่อกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้ เราก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทาง GWM ให้รถยืมรถคันนี้มาใช้แบบเต็ม ๆ
ทำให้เราได้เห็นจุดต่าง ๆ ที่ยังไม่เคยได้เห็นจากการใช้งานจริงมากขึ้น ทั้งข้อดีที่น่าใช้งาน และจุดที่ขัดใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หากปรับปรุงได้ก็จะน่าใช้ยิ่งขึ้น
- ข้อดี: การขับขี่ ออพชั่น
- จุดที่ยังขัดใจ: ตำแหน่งการนั่ง พวงมาลัย เครื่องเสียง
- เหตุผลของค่าตัว 1.699 ล้านบาท
ขับสบาย ประหยัดได้จากระบบไฮบริด
2023 H6 PHEV นั้นมาพร้อมขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ให้แบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 34 kWh เคลมไว้ว่าสามารถวิ่งในโหมดอีวีได้ถึง 201 กม. ซึ่งพอมาใช้งานจริงแล้ว เราสามารถขับรถคันนี้ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้อย่างน้อย 180 กม. แบบสบาย ๆ
อัตราเร่งของรถคันนี้มีให้อย่างเพียงพอด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ที่กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้าและ 530 นิวตันเมตร แม้จะไม่ได้แรงจนหลังติดเบาะ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
การขับขี่ของ H6 PHEV นั้นให้ความนุ่มนวลเป็นหลัก หากรวมกับตัวถังของรถที่มีความกว้าง โปร่ง โล่งสบาย ซันรูฟขนาดใหญ่ ทำให้รถคันนี้เหมาะกับการเป็นรถครอบครัวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ แม้รถจะมีระบบขับเคลื่อนแบบ PHEV ที่ไม่ได้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เท่ารถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถรองรับการชาร์จเร็วเหมือนกับรถอีวีทั้งหลายในท้องตลาด รวมทั้งยังมีโหมดการขับขี่ E-Paddle ซึ่งเป็นการหน่วงมอเตอร์ทุกครั้งที่ยกคันเร่ง การหน่วงลักษณะนี้นอกจากจะช่วยลดการใช้เบรกแล้ว ยังช่วยปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ 2022 Haval H6 PHEV แรงขึ้นละขับดีไหม 201 กม. โหมดอีวีทำได้หรือไม่
ออพชั่นครบครัน ใช้งานได้ง่าย
หากมองสเปกจากกระดาษจะพบว่า H6 PHEV มีออพชั่นล้นคัน บางอย่างมีมากกว่าคู่แข่งเซกเมนต์เดียวกัน สำหรับออพชั่นที่น่าสนใจของรถคันนี้ ได้แก่ ระบบ Adaptive Cruise Control สามารถควบคุมความเร็วตามรถคันหน้าได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง
กล้อง 360 องศาที่มีความละเอียดที่ชัดเจน สามารถกะยะรอบคันได้สบาย, ฝาท้ายแบบเตะเปิดหรือ kick sensor ช่วยเปิดท้ายรถได้โดยไม่ต้องใช้มือ แถมยังทำงานได้ง่ายอีกด้วย
บางอย่างที่ยังขัดใจ
แม้การขับขี่ของ 2023 H6 PHEV โดยรวมนั้นมีความสะดวกสบาย แต่ยังมีจุดที่ยังขัดใจคือ ความยาวของเบาะรองนั่งของรถทั้งด้านหน้าและหลังที่สั้นไปเล็กน้อย ทำให้เมื่อขับทางไกลอาจเมื่อยได้ง่าย
สำหรับพวงมาลัยของรถคันนี้มีน้ำหนักค่อนข้างเบา อาจเหมาะสมกับการใช้งานในเมือง เพราะคล่องตัว หมุนพวงมาลัยได้สบาย แต่สำหรับสายสปอร์ตที่ชอบความเร็ว พวงมาลัยแบบนี้อาจไม่ได้ให้ความมั่นใจในการขับขี่เท่าไหร่นีก
การออกแบบให้ภายในมีปุ่มน้อยลงทำให้มองแล้วดูสะอาดตา แต่การใช้งานบางอย่าง เช่น ระบบปรับอากาศ ที่ต้องปรับจากบนหน้าจอนั้นไม่สะดวกต่อการใช้งานมากนัก เพราะอาจต้องใช้หลายขั้นตอน และรบกวนการขับขี่ได้
เครื่องเสียงของรถจะเน้นที่เน้นมิติของเสียงแหลมและเสียงกลางเป็นหลัก ส่วนเสียงเบสนั้นบางเบาแม้จะปรับ EQ แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ระบบช่วยเหลือและระบบเตือนต่าง ๆ ของรถมีความอ่อนไหว อาจทำให้หลายคนเกิดความรำคาญในการขับขี่ได้ รวมถึงเสียงไฟเลี่ยวที่ค่อนข้างดัง
อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว 2023 Haval H6 PHEV วิ่ง EV ได้ 201 กม. ออพชั่นครบอยู่แล้วยังเพิ่มอะไรอีก?
ค่าตัว 1.699 ล้านบาทนั้นมีเหตุผล
2023 Haval H6 PHEV มีราคาค่าตัวที่ 1.699 ล้านบาท ใครหลายคนอาจมองว่ามีราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้แล้ว ค่าตัวระดับนี้ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน
เพราะในปัจจุบัน เราไม่สามารถหารถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่วิ่งโหมดไฟฟ้าล้วนได้เกือบ 200 กม./ชาร์จ ได้แน่ หากการใช้งานหลักของเราเป็นการขับขี่ในเมืองที่ไม่เกิน 200 กม./วัน ใน 1 สัปดาห์เราอาจจะแทบไม่ต้องใช้น้ำมันเลย เพราะกลับบ้านมาเราก็สามารถเสียบชาร์จที่บ้านได้
หากในกรณีที่เดินทางไกล เราก็ยังสามารถใช้รถคันนี้ได้อย่างหายห่วง เราสามารถสลับการใช้งานระหว่างระบบไฟฟ้าล้วนและระบบไฮบริดเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ การชาร์จไฟระหว่างการเดินทางก็จะช่วยเรื่องค่าน้ำมันได้บ้าง แต่หากไม่ชาร์จไฟก็ขับด้วยระบบไฮบริดได้แบบไม่ต้องกังวลอะไร
2023 Haval H6 PHEV อาจเป็นรถที่ตอบโจทย์มากที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ครอบคลุม เนื่องจากรถคันนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ความเป็นรถคันเดียวในบ้านได้
ด้วยราคาค่าตัวที่ 1.699 ล้านบาทอาจทำให้คนที่ซื้อรถในแบรนด์ทั่วไปต้องคิดหนัก แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของรถคันนี้แล้ว สิ่งที่ได้มาก็ดูคุ้มค่ากับที่จ่ายไปไม่น้อย