ทำไมเจ้าของธุรกิจ SME จึงควรจะพิจารณา Suzuki Carry เป็นทางเลือก?

เราอาจจะคิดว่า รถกระบะขนของต้องคันใหญ่ เครื่องดีเซลเท่านั้น เพราะว่าการขนส่งต้องขนของในปริมาณที่มาก เดินทางไปในระยะทางไกล ๆ ตลอดเวลา ในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกกิจการจะมีความจำเป็นที่จะต้องขนส่งของหนัก 4-5 ตัน เป็นระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในเมืองใหญ่ที่มีปัญหาฝุ่นควันและมลพิษ PM2.5 จากเครื่องยนต์ดีเซลต่าง ๆ

ด้วยเหตุนี้ แม้ท่านอาจจะคิดว่า Suzuki Carry (ซูซูกิ แคร์รี่) ไม่เพียงพอต่อการขนส่งของกิจการ แต่เดี๋ยวก่อน รถกระบะขนาดเล็กนี้มีอะไรดีกว่าที่ท่านคิดมาก เราได้รวบรวมเหตุผลที่ท่านควรจะพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจไปเอารถกระบะคันใหญ่ เครื่องโต ที่ไม่มีความจำเป็นต่อการใช้งานแม้แต่นิดเดียว!

1. มันทั้งเล็ก และใหญ่ ในเวลาเดียวกัน

มิติตัวถังภายนอกของ Suzuki Carry นั้น มีขนาดใกล้เคียงกับรถยนต์ระดับ Eco Car หลายรุ่น แต่ถึงกระนั้น ขนาดของกระบะท้ายก็มีความกว้างขวาง

ความยาวของกระบะ 2,450 มม. ความกว้าง 1,670 มม. ยาวกว่ากระบะของ Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว) ตอนเดียว ที่มีความยาวเพียง 2,315 มม. และกว้าง 1,575 มม. เท่านั้น

นี่เป็นเพราะการดีไซน์แบบ Cab-over โดยหัวเก๋งนั้นอยู่เหนือเครื่องยนต์ ทำให้พื้นที่ใช้สอยมีมากขึ้น แม้ว่าขนาดโดยรวมของตัวรถจะเล็ก อีกทั้งยังมีการใช้ผนังกระบะแบบบาง และวางกระบะเอาไว้เหนือซุ้มล้ออีกด้วย ทำให้พื้นกระบะนั้นเรียบเสมอกัน

2. กระบะท้ายนั้นอเนกประสงค์กว่ารถกระบะอื่นใด ถ้าไม่ใช่กระบะแต่ง

นอกจากความกว้างขวางของกระบะแล้ว Suzuki Carry ยังใช้กระบะแบบเปิดได้ทุกทิศทาง ทำให้การบรรทุกสัมภาระนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายกว่า

แน่นอนครับว่า ในปัจจุบันมีตัวเลือกของกระบะท้ายแบบเรียบที่สามารถเปิดได้ 3 ด้านอยู่ แต่ว่าราคาก็มักจะแพงพอสมควร แต่ Suzuki Carry นั้น ให้กระบะแบบนี้มาในรถทุกคัน! และนั่นทำให้เราต้องมาดูข้อดีถัดมา

3. ราคาจำหน่ายนั้นถูกอย่างเหลือเชื่อ!

ราคาจำหน่ายของ Suzuki Carry ที่ 385,000 บาทนั้น เรียกได้ว่า เป็นรถกระบะที่ราคาถูกที่สุด ที่มาจากแบรนด์ที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุด เป็นรองเพียงเพื่อนร่วมค่าย Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ้) เท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น ราคาที่ถูก ไม่ได้หมายความว่าของจะขาดหายไป Suzuki Carry มีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS เครื่องปรับอากาศ และวิทยุพร้อมช่องเสียบ Auxilary Jack จึงเรียกได้ว่าแม้จะไม่ได้หรูหรา แต่ก็มีของที่จำเป็นสำหรับการใช้งานครบถ้วน

รถเพื่อการพาณิชย์ เราต้องการอะไรไปมากกว่า ล้อ 4 ล้อ พวงมาลัย 1 วง กระบะใหญ่ ๆ และเครื่องยนต์ที่ทนทานเหรอครับ?

4. เครื่องยนต์ของ Suzuki Carry พิสูจน์แล้วถึงความทนทาน

Suzuki Carry ใช้เครื่องยนต์ชนิดเดียวกับ Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า) และ Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอกซ์แอล7) และเป็นเครื่องตระกูลเดียวกับ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์)

เครื่องยนต์ชนิด K15B เป็นแบบ 4 สูบ เชื้อเพลิงเบนซิน สร้างพละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อัตราทดสั้น ทำให้สามารถลากน้ำหนักของสัมภาระได้มากกว่าที่คิด

และถ้าหากคิดว่าเครื่องที่เหมือนรถเก๋งนี้จะไม่ทนทานต่อการใช้งาน เครื่องยนต์ชนิดดังกล่าวนี้เป็นเครื่องแบบเดียวกับ Suzuki Carry รุ่นเดิมในอดีต ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้ใช้งานว่า ทนทายาท แม้จะดัดแปลงให้ใช้ระบบเชื้อเพลิง LPG ก็ยังทนทานไม่จุกจิก วิ่งได้หลายแสนกิโลเมตรแบบไม่มีปัญหาอะไรเลย Suzuki Carry รุ่นเดิมนั้น ไม่จุกจิก จนมีราคาขายต่อที่ดีมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถมือสอง

มันทนทานเสียจนหนึ่งในเหตุผลที่เราอาจจะเห็น Suzuki Carry ใหม่ไม่มากเท่าที่ควร ก็เพราะผู้ประกอบกิจการหลายท่านมองว่า คันเก่ายังไม่พังเลย นั่นแหละครับ

5. เห็นทรงดูตลก แต่มันคือรถกระบะของจริง

Suzuki Carry อาจจะมีหน้าตาปุ๊กลุก และดูมีขนาดไม่ใหญ่บึกบึนขนาดนั้น แต่ Suzuki Carry ใช้แชสซีแบบเหล็กกล่องขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ช่วงล่างเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ในด้านหน้า และคานแข็งพร้อมแหนบในด้านหลัง ด้วยเหตุนี้ ในเรื่องของความทนทานเมื่อบรรทุกหนัก จึงไม่มีอะไรให้กังวล

และนั่นทำให้ Suzuki Carry สามารถบรรทุกสัมภาระตามกฎหมายกำหนดได้มากไม่ต่างจากกระบะค่ายอื่น ๆ แค่อาจจะไปอย่างช้า ๆ เล็กน้อยเพราะเครื่องยนต์ไม่มีกำลังเทียบเท่านั่นแหละครับ แต่ถึงกระนั้น ถ้าหากการใช้งานอยู่ในเมืองที่รถติดตลอดเวลา เครื่องยนต์ของ Suzuki Carry ก็ประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่พอสมควร จึงเหมือนเป็นข้อแลกเปลี่ยนกันครับ

สรุป

คงไม่มีอะไรต้องปิดบังครับว่า ผู้เขียนชื่นชอบเจ้ารถกระบะ Suzuki Carry นี้มาก ผู้เขียนคิดว่านี่คือหนึ่งในรถที่ผู้คนมองข้ามไปมากที่สุด และเราก็เข้าใจได้ เราอาจจะคิดว่าการซื้อรถเพื่อการใช้งานนั้น ซื้อเผื่อดีกว่าซื้อขาด

แต่บ่อยครั้ง ถ้าหากเราพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้งานจริง ๆ แล้ว Suzuki Carry ก็เป็นรถบรรทุกของที่ตอบโจทย์ทุกสิ่งอย่างที่เราต้องการได้อย่างเหลือเฟือ อีกทั้งยังประหยัดทั้งค่าตัวรถ และค่าน้ำมันอีกด้วยถ้าหากใช้งานในเมืองเป็นหลัก