Review: 2019-2020 Audi e-tron เอสยูวีพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า

Audi (อาวดี้) ค่ายรถยนต์หรูจากยุโรป ส่งรถเอสยูวีอเนกประสงค์หรูพลังงานไฟฟ้าอย่าง 2019-2020 Audi e-tron (ออดี้ อี-ทรอน) สุดยอดยนตกรรมไฟฟ้า ด้วยราคาเริ่มต้น 5.099 ล้านบาทในรุ่น Audi e-tron55 quattro และในรุ่น Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line ราคา 5.299 ล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 360 แรงม้า

Audi e-tron รถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์สมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน จากค่ายรถยนต์หรูเยอรมัน โดยรุ่น Audi e-tron 55 quattro เปิดตัวในไทยในต้นปี 2019 ต่อมาในปลายปี 2020 ก็ได้เปิดตัว Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวให้กำลังมากถึง 360 แรงม้า ชาร์จหนึ่งครั้งสามารถเดินทางได้ระยะทางมากกว่า 400 กิโลเมตร

ราคา

• Audi e-tron 55 quattro ราคา 5,099,000 บาท
• Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line ราคา 5,299,000 บาท

การออกแบบภายนอก

ดีไซน์ภายนอกของ Audi e-tron มีความโฉบเฉี่ยว แต่ด้านหน้ายังคงมีกระจังความเป็น Audi ที่มีขนาดใหญ่และมีเส้นในแนวนอนแบบชุบโครเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังออกแบบตัวรถตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ให้การไหลผ่านและการระบายอากาศดีเยี่ยม สำหรับ Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line ยังมีชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line ที่ช่วยให้ Audi e-tron ดูสปอร์ตขึ้นไปอีก

ส่วนระบบไฟเป็น LED ทั้งคัน ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้าและหลัง (Light staging) มาพร้อมไฟ Daytime แบบ LED สำหรับขับขี่ในเวลากลางวันที่ช่วยการขับขี่มั่นใจขึ้น มีระบบไฟสามารถปรับสูงอัตโนมัติ กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ กระจกมองข้างตัดแสงสามารถปรับและพับไฟฟ้าได้ พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง นอกจากนี้ Audi e-tron หลังคาพาโนรามาเลื่อนเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความหรูให้กับรถ

การออกแบบภายใน

การตกแต่งภายใน  Audi e-tron ให้ดีไซน์ที่มีความเป็นสปอร์ต เน้นความสะดวกสบายทั้งของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อุปกรณ์มีการจัดวางใช้งานง่ายผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย การตกแต่งภายในเป็นลายอะลูมิเนียมแบบด้าน เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona มีการออกแบบกระชับตัวและปรับเข้ากับสรีระ ทำให้สามารถขับขี่เป็นเวลานานได้โดยไม่เมื่อย เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบ Sports ส่วน Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line เป็นแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line เบาะนั่งผู้ขับมาพร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง (Memory seat) พร้อมการให้ Heated Seats ที่จะทำให้อบอุ่นเมื่อรู้สึกว่าแอร์ภายในรถเย็นจนเกินไป

ส่วนแผงคอนโซลหน้าด้านบน ที่วางแขนแผงประตู และพื้นที่ส่วนล่างบริเวณคอนโซลกลางของ Audi e-tron หุ้มหนังแท้ทั้งหมด ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างาม ระบบปรับอากาศจะเป็นแบบอัตโนมัติและใช้งานแบบแยกอิสระเป็น 4 โซน จึงทำให้อากาศภายในห้องโดยสารเย็นสบายทั่วคัน

สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบบันเทิง

Audi e-tron ติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกผสานกับดีไซน์การออกแบบภายในได้อย่างลงตัว พวงมาลัยเป็นมัลติฟังก์ชั่นก้านคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Audi สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อม Paddle Shift ช่วยในการขับขี่ ภายในของ Audi e-tron ที่ด้านหน้าของคนขับจะมีจอแสดงผลเครื่องยนต์และทุกอย่างภายในรถด้วยระบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว ให้ภาพคมชัดและการแสดงผลที่ดูง่าย

จุดเด่นของ Audi e-tron คือ 2 จอแบบสัมผัสอยู่ตรงกลาง นั่นคือจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วที่มาพร้อมระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response กับจอควบคุมมัลติฟังก์ชั่นแบบสัมผัสพร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว ทางด้านระบบความบันเทิงระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมของ Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ และมีระบบรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth มีช่อง USB สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ Audi e-tron ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิก่อนการเริ่มขับขี่อย่าง Comfort Stationary air conditioning ที่ช่วยปรับอุณหภูมิเมื่อเกิดความร้อนภายในรถ โดยช่วยระบายอากาศภายในรถอย่างรวดเร็วที่สุด ทำให้สามารถขึ้นรถได้อย่างสบายใจ อีกทั้งยังมีกุญแจแบบ Comfort Key พร้อมระบบเปิดปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ เมื่อเปิดประตูอย่าง Soft Close ที่ใช้ในรถยนต์สาย Luxury Car เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ระบบความปลอดภัย

Audi e-tron มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ทั้งปกป้องและป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electronic Parking Brake) ระบบล็อคเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi Hold Assist) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างที่ช่วยในการทำรถเข้าถอยจอด

ขุมพลัง

Audi e-tron ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวในการขับเคลื่อน ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลัง 170 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลัง 190 แรงม้า เมื่อ boost ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า มอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และมอเตอร์ด้านหลังให้กำลัง 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร เมื่อ boost แล้วจะเพิ่มแรงบิดเป็น 664 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติที่ช่วยให้ตอบสนองได้ทันใจ

สมรรถนะ

Audi e-tron เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (quattro) ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถเดินทางได้หลากหลายสภาพพื้นผิว อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 6.6 วินาที แต่เมื่อ boost แล้วจะใช้เวลาเพียง 5.7 วินาทีเท่านั้น Audi e-tron ให้ความเร็วสูงสุดประมาณ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้านความจุแบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ขนาด 95 KWh การชาร์จหนึ่งครั้งใน Audi e-tron 55 quattro สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางประมาณ 411 กิโลเมตร

ส่วนใน Audi e-tron Sportback 55 quattro S Line การชาร์จหนึ่งครั้งสามารถให้ระยะทางได้ประมาณ 463 กิโลเมตร เนื่องจากการพัฒนาระบบขับขี่ เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกก็จะส่งผลให้เกิดพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) ซึ่งเมื่อหากเหยียบเบรกที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะสามารถนำพลังงานกลับเข้าไปได้สูงสุดถึง 300 นิวตันเมตร และ 220 กิโลวัตต์หรือมากกว่า 70% ของกำลังมอเตอร์ปกติ เมื่อมีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่จึงทำให้เพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากถึง 30%

Audi e-tron เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าล้วนที่เป็นสุดยอดยนตกรรมจากค่ายดังอย่าง Audi ที่ได้พัฒนาออกแบบมาเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีดีไซน์โฉบเฉี่ยว โดดเด่น ภายในตกแต่งหรู เน้นการใช้งาน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก หากใครทีต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเน้นใช้งาน แต่ยังคงดีไซน์สวยหรู Audi e-tron ก็นับว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้รถยนต์ของค่ายอื่น สำหรับใครที่อยากสัมผัสตัวจริงหรือทดลองขับก็สามารถสอบถามรายละเอียดหรือทดลองขับได้ที่โชว์รูม Audi ทั่วประเทศ