Honda – Mitsubishi หอบเงินลงทุนพัฒนา-ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซีย เน้นส่งออก

Honda (ฮอนด้า) ตกเป็นข่าวว่าจะย้ายโรงงานผลิตรถยนต์จากประเทศอินเดียไปสู่ประเทศอินโดนีเซียในอีกไม่ช้า ขณะที่ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เตรียมเพิ่มเม็ดเงินลงทุนขยายฐานการผลิตในแดนอิเหนา

เว็บไซต์ CNN Indonesia รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของอากัส กุมิวาง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียว่า Honda จะย้ายฐานการผลิตบางส่วนในอินเดียมายังอินโดนีเซีย พร้อมประกาศขยายการลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่และเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ

“Honda มีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนเม็ดเงินกว่า 5.2 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ และยังต้องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศของเรา” กุมิวาง กล่าวหลังจากเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ย้ายฐานการผลิตจากอินเดียไปอินโดนีเซีย

ข่าวการย้ายฐานการผลิตของ Honda สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร Honda Prospect Motor (HPM) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Honda ในอินโดนีเซียที่ระบุว่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ เพื่อขยายกำลังการผลิต

ปัจจุบัน HPM มีโรงงาน 2 แห่งในคาราวางและชวาตะวันตก ทำการผลิตรถยนต์ CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ) และ Brio (ฮอนด้า บริโอ) มีกำลังการผลิต 200,000 คันต่อปี

ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้เพิ่มประกาศยุติสายการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในอินเดียหลังจากยอดขายลดลงเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในแดนโรตีและตลาดส่งออกในยุโรป

Mitsubishi จ่อผลิต Xpander Hybrid

ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า Mitsubishi ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มเติมอีก 11.2 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) ในอินโดนีเซียเพื่อพัฒนารถยนต์ไฮบริดอย่างน้อย 2 รุ่น และขยายกำลังการผลิตเพิ่มจาก 220,000 คันเป็น 250,000 คัน

รถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของ Mitsubishi ในอินโดนีเซียคือ Xpander Hybrid (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ไฮบริด) และอีกรุ่นจะเป็นปลั๊กอินไฮบริดที่คาดว่าคือ Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) เจนเนอเรชั่นใหม่ นอกจากนี้มีแนวโน้มด้วยว่า Eclipse Cross PHEV (มิตซูบิชิ อีคลิปส์ พีเอชอีวี) ก็จะขึ้นสายการผลิตในอินโดนีเซียเช่นกัน

ข่าวระบุด้วยว่าการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้จะทำให้ Mitsubishi สามารถส่งออกรถยนต์ไปยังปลายทางเพิ่มเติมจากเดิม 30 ประเทศเป็น 39 ประเทศ