2021 MG5 ความหวังใหม่ MG ไทย คาดเปิดตัวปลายปีนี้ ด้วยราคาไม่เกิน 7 แสน

ช่วงนี้หลาย ๆ คนตามโซเชี่ยล อาจได้ยินข่าวกันหนาหู ว่า MG5 (เอ็มจี5) ใหม่อาจจะเข้ามาในไทย หรือที่ฮือฮากันใน Facebook ที่มีการปล่อยภาพโทรศัพท์พร้อมตรา MG (เอ็มจี) ออกมา ด้วยแคมเปญ MG5.5 (5 เดือน 5) นั้นคืออะไร MG จะเปิดตัวรถใหม่หรือไม่?

แท้จริงแล้ว MG5.5 คือการเปิดบริการขายรถบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และขาย MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รุ่น D ในราคา 999,000 แสนบาท จำกัดจำนวน  88 คัน เพื่อเป็นการขยายช่องทางการซื้อ

อย่างไรก็ตาม ก็อาจตีความได้ถึง MG5 เช่นกันว่าจะมีการมาเปิดตัว แต่ก็ยังไม่มีอะไรออกมา แต่ก็เคยให้การสัมภาษณ์โดยรองกรรมการผู้จัดการเอ็มจี ว่า

“ภายในครึ่งปีแรก MG จะมีรถไมเนอร์เชนจ์หนึ่งรุ่น(เปิดตัวไปแล้วคือ ปิกอัพ MG Extender) และช่วงไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวรถยนต์นั่งตัวถังซีดานที่ผลิตจากโรงงานเอสเอไอซี มอเตอร์ -ซีพี โดยเข้ามาเจาะกลุ่มซับคอมแพ็กต์ หรือเก๋งระดับบีบวก ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ซึ่งพอดูในเซกเมนท์แล้ว รถยนต์ที่กล่าวถึง ก็คงหนีไม่พ้น 2021 MG5 ที่ปรับรูปลักษณ์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น กับตัวถังซีดาน 4 ประตู สไตล์คูเป้ ในส่วนของราคา หากเทียบกับ MG5 ตัวเก่า ที่มีราคาดังนี้

การทำตลาดในเมืองไทยอาจจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรไม่มีระบบอัดอากาศ เพื่อทำราคาให้แข่งขันได้กับกลุ่มอีโคคาร์ คาดว่าโฉม 2021 MG5 ถ้าขายในไทยราคา ควรจะอยู่ประมาณ 700,000 บาท บวก-ลบ แล้วแต่รุ่นย่อยและออพชั่น

ส่องดีไซน์

กระจังหน้าได้รับดีไซน์ใหม่หมด ตกแต่งด้วยเส้นสีดำแนวตั้งพร้อมโลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED เรียวยาว เข้ากันกับกันชนหน้าทรงสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบใหม่ และช่องระบายอากาศสีดำ 2 ข้าง

ได้ล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ลายใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R16 กับ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17

ด้านท้ายสวยขึ้นด้วยไฟท้าย LED ใหม่ในแนวตั้ง 3 แถว กันชนหลังพร้อมคิ้วชายล่าง ท่อไอเสียแบบคู่ และ Diffuser

ดีไซน์ภายใน

ภายในได้ดีไซน์ใหม่หมดเช่นกัน มีมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ LCD 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงการขับขี่ MID จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว แบบ HD ที่โค้งเข้าหาคนขับ ลำโพงจาก Yamaha Hi-Fi Audio 6 ตัว เครื่องปรับอากาศ Auto

รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto รวมไปถึงระบบสั่งการด้วยเสียงที่จะรองรับภาษาไทยด้วยอย่างแน่นอน พร้อมกันฝุ่น PM 2.5

เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สปอร์ต Bucket Seat ปรับไฟฟ้า 6 ระดับด้านคนขับ กับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงท้ายตัดพร้อมหลังคาซันรูฟ

2 ขุมพลังให้เลือก

ด้านขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบคือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 120 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด 

และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 173 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 275 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดคลัตช์คู่ DCT

ใส่ MG Pilot

ระบบความปลอดภัยได้มีการใส่ MG PILOT พร้อมทั้ง 

• ระบบ ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ
• ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
• ระบบเทคโนโลยีการปรับความเร็วอัจฉริยะ
• ระบบกล้องรอบคัน 360°
• จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX 
• ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ 
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ 
• ถุงลมนิรภัย 6 จุด 
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

มาแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอติดตามว่าจะมาเปิดตัวด้วยราคาไม่เกิน 7 แสนบาทจริงหรือไม่ ซึ่งก็คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่สามของปีนี้

ซึ่งน่าจะมาแน่นอนเพราะว่าเคยมีคนได้มีภาพหลุด Spyshot ขณะขับทดสอบที่ประเทศไทย โดยเป็นทะเบียน TC (Test Car) กรุงเทพมหานครมาแล้ว