MG (เอ็มจี) ระบุโควิด-19 ทำแผนขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จไม่เป็นไปตามเป้า เร่งเครื่องให้ครบ 500 สาขาในปีหน้า ประกาศจับมือพันธมิตรรองรับทุก 150 กิโลเมตร ชี้หากเพียงพออาจะเปิดให้ยี่ห้ออื่นมาใช้ พันธมิตรอย่างบางจากพร้อมร่วมลุยทุกแบรนด์
ผลกระทบจากโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา นอกจากจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ด้านต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นยอดจำหน่ายหรือแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่โครงการต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน
นั่นก็รวมไปถึงแผนการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ของเอ็มจี ที่เดิมทีตั้งเป้าหมายที่จะขยายให้ครบ 500 แห่งในปีนี้ แต่ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามแผนงานดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้รองรับความต้องการของลูกค้าของแบรนด์ได้อย่างไม่เต็มที่
จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าเอ็มจีจะเดินหน้าสนับสนุนโครงการขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จความแรง 120 กิโลวัตต์ชั่วโมงในประเทศไทยต่อไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ล่าสุด ได้ร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันบางจาก เปิดให้บริการสถานีซูเปอร์ชาร์จในจังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรีและสมุทรปราการในเบื้องต้น 13 แห่ง และจะมีการขยายเครือข่ายให้เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
จางบอกว่าผลกระทบจากโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทสามารถขยายเครือข่ายสถานีซูเปอร์ชาร์จไปได้เพียง 120 แห่งในปัจจุบัน และได้เตรียมที่จะขยายเพิ่มให้ครบ 500 แห่งในปีนี้ หากไม่มีผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้สามารถครอบคลุมระยะการเดินทางทุก ๆ 150 กิโลเมตรได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
"เป้าหมายหลักของเอ็มจีในการขยายเครือข่ายสถานีบริการ ก็คือการดูแลลูกค้าของบริษัทให้เกิดความอุ่นใจระหว่างการเดินทางและการใช้งานรถ" เอ็มจีจึงยังจะไม่เปิดให้ค่ายรถยี่ห้ออื่นนำรถมาใช้บริการที่สถานีซูเปอร์ชาร์จทั้งหมดในเร็ววันนี้ แต่ในอนาคต หากมีเครือข่ายที่เพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว ก็จะพิจารณาเพื่อให้รถยนต์ยี่ห้ออื่นมาใช้งานได้ด้วย
จางกล่าวว่าเอ็มจีเป็นผู้นำในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) และ MG EP (เอ็มจี อีพี) ก่อนใครในประเทศไทย และยังยืนยันที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย หากนโยบายของภาครัฐมีความชัดเจน บริษัทก็พร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนเพื่อเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปัจจุบันบางจากมีสถานีชาร์จไฟในสถานีบริการน้ำมันทั้งสิ้น 67 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 100 แห่งในปีนี้ ก่อนที่จะขยายเป็น 200 แห่งในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย
ในส่วนของโครงการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ขณะนี้ยังศึกษาความต้องการของตลาดว่ามีความพร้อมเมื่อใด เนื่องจากต้องการเป้าหมายไม่น้อยกว่า 1 แสนคันต่อปีในการผลิต แต่ได้มีการติดต่อเพื่อจัดหาแร่ลิเธียมปีละ 6,000 ตัน ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตแบตเตอรี่เอาไว้แล้ว และอาจจะศึกษาโครงการอื่น ๆ อาทิ แบตเตอรี่สำรองไฟเพิ่มเติม
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}