Nio (นีโอ) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่มาแรงจากจีน เปิดตัวโมเดลใหม่ Nio ET5 (นีโอ อีที 5) คอมแพ็คลักชัวรี่ซีดานขนาดเล็กกว่า ET7 รุ่นพี่ คาดว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model 3 และ BMW i4
หากมองจากเส้นสายภายนอกโดนรวมจะคล้ายกับ ET7 รุ่นพี่ของมันอยู่มาก ในด้านของภายในก็เช่นกัน เส้นสายของ ET5 จะคล้ายกับ ET7 ที่อยู่ในรูปทรงที่เล็กกว่าเท่านั้น ถ้าไม่นำอะไรมาวัดก็คงแยกภายในของทั้งสองรุ่นยากสักหน่อย
แต่อย่างไรก็ตาม Nio ET5 ก็เป็นโมเดลเริ่มต้นของค่ายที่ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัย โดยมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.24
มิติของตัวถัง ET5 มีความยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,790/1,960/1,499 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,888 มม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงของมันอย่าง Tesla Model 3 ที่มีความยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,694/1,849/1,433 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,875 มม.
ขุมพลังของ Nio ET5 ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขนาด 150 kW ที่ด้านหน้า และขนาด 210 kW ในด้านหลัง เมื่อรวมกันจะมีกำลัง 360 kW หรือ 483 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด ที่ 700 นิวตันเมตร
ตัวเลขจากโรงงานที่ทางผู้ผลิตเคลมว่า Nio ET5 มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.3 วินาที พร้อมระบบเบรคที่ทางนีโอพัฒนาขึ้นเอง ด้วยเบรคขนาด 4 pot หล่อด้วยอะลูมีเนียม ทำให้ใช้ระยะเพียง 33.9 เมตร เพื่อหยุดรถจากความเร็ว 100 กม./ชม.
จากมาตรฐานของ CLTC ระบุว่า Nio ET5 ในรุ่น Standard Range Battery สามารถขับได้ระยะทาง 550 กม. ต่อหนึ่งการชาร์จ ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 75 kWh และรุ่น Long Range Battery ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh สามารถขับได้กว่า 700 กม. และยังมีรุ่น Ultralong Range Battery ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 150 kWh สามารถขับได้กว่า 1,000 กม. ต่อหนึ่งการชาร์จ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของนีโอคือ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ NIO Autonomous Driving (NAD), NIO Aquila Super Sensing และ NIO Adam Super Computing systems ซึ่งทางผู้ผลิตอีวีจากจีนเคลมว่าจะทำให้เรา “ค่อย ๆ มีประสบการณ์การขับขี่อัตโนมัติที่ปลอดภัยและมั่นใจในสถานการณ์ เช่น ทางด่วน พื้นที่เมือง และการสลับแบตเตอรี่”
ระบบ NAD ในเวอร์ชั่นเต็มระบบจะค่อย ๆ เปิดให้ใช้หลังจาก “การตรวจสอบการพัฒนา” และเริ่มปล่อยแก่ลูกค้าชาวจีน โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นสมาชิกประมาณ 3,500 บาทต่อเดือน ภายใต้ ADaaS (AD as a Service)
อ่านเพิ่มเติม : NIO จับมือ Shell สร้างสถานีสลับแบตเตอรี่ ทั้งในประเทศจีนและยุโรป
นอกจากเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่จัดเต็ม เทคโนโลยีภายในรถก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ในห้องโดยสารแบบมินิมอลของ ET5 จะมีจอมาตรวัดหลังพวงมาลัยขนาด 10.2 นิ้วแบบ HDR และมีหน้าจอขนาดใหญ่คล้ายแท็บเล็ตอยู่ตรงกลาง และยังมี PanoCinema ที่คิดค้นโดยนีโอ เป็นห้องโดยสารแบบดิจิตอลที่มีเทคโนโลยี AR และ VR
ทางนีโอมีการร่วมมือกับ NREAL และ Nolo เพื่อทำกระจกสำหรับ AR และ VR ตามลำดับ โดยรุ่นก่อนสามารถฉายที่ขนาด 201 นิ้ว ในระยะ 6 เมตร และในรุ่นหลังจะใช้วิธีแบบกล้องส่องทางไกล พร้อมความละเอียด 4K
นอกจากนี้ในด้านภายในสามารถเลือกสี ambient light ได้ 256 สี และมีระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.4 surround sound และมีกุญแจรถแบบ UWB
Nio ET5 จะเริ่มจำหน่ายที่ประเทศจีนตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 328,000 หยวน หรือประมาณ 1.7 ล้านบาทก่อนการช่วยเหลือของรัฐบาล และเริ่มที่ 258,000 หยวนเมื่อใช้ร่วมกับบริการ BaaS (Battery-as-a-Service)(เช่าซื้อแบตเตอรี่)
อย่างไรก็ตาม ทางนีโอยังไม่มีการเปิดเผยว่า ET5 จะจำหน่ายในต่างประเทศเมื่อไหร่ นอกจากนี้ Nio ET5 ยังได้รับ 5 ดาวจากการทดสอบทั้งมาตรฐาน C-NCAP และ Euro NCAP
นอกจากนี้ ในงาน NIO Day 2021 ทางผู้ผลิตรถยนต์กล่าวว่า Nio ET7 ซีดานเรือธงของค่าย จะเริ่มยืนยันคำสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2022 และเริ่มส่งมอบตั้งแต่ 28 มีนาคม 2022
และนีโอยังได้เผยแผนการขยายการจำหน่ายไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากจีน เยอรมนี และนอร์เวย์ ไปยังเนเธอร์แลนด์ สวีเดน และเดนมาร์กในปี 2022 และอีก 22 ประเทศ และขยายไปยังทั่วโลกภายในปี 2025
อ่านเพิ่มเติม : ค่ายรถในจีนขาดบุคลากร Tesla – Nio ใช้เงินแก้ปัญหาด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูงลิบ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}