Suzuki (ซูซูกิ) มั่นใจตลาดเครื่องยนต์สันดาปภายในยังไปได้ต่อ แม้รัฐบาลหนุนยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ลั่นเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 1 รุ่นในปีนี้ พร้อมชูจุดขายความคุ้มค่าให้กับสินค้าที่ทำตลาดอยู่ ลุ้นรถเล็ก Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) หรือ Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ทิก้า) มาเสริมทัพ
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะเดินหน้าสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการต่าง ๆ แต่ซูซูกิมองว่าตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในก็จะยังเติบโตอยู่สำหรับตลาดประเทศไทย
"เรามองว่าผู้บริโภคยังมองที่การใช้งานเป็นหลัก และหากมองไปที่ความคุ้มค่าในการใช้งานแล้ว รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงสูงก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ ทำให้ซูซูกิจะเดินหน้าทำตลาดสินค้ากลุ่มเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีนี้"
และมีเป้าหมายที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในด้านยอดจำหน่ายเช่นกัน!!!
แม้จะไม่ได้เปิดเผยว่ารถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวจะเป็นรุ่นใด แต่วัลลภก็เชื่อมั่นว่าจะเข้ามาเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับแบรนด์ได้อย่างแน่นอน โดยในปีนี้ ซูซูกิตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายที่ 3 หมื่นคัน เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 2.23 หมื่นคัน ซึ่งหากตลาดรถยนต์มีการขยายตัวไปที่ 8.4 แสนคัน ก็จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์เพิ่มเป็น 3.5% จากแชร์ 3% ในปีล่าสุดที่ผ่านมา
การทำตลาดของซูซูกิจะเน้นไปที่การสร้างความคุ้มค่าให้กับตัวสินค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง สามารถแข่งขันได้ในทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นตลาดครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งอย่าง Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) ที่เตรียมประกาศราคารุ่นตัวถังแบบทูโทน ก็มีความคุ้มค่าที่สุดในตลาด หรือแม้แต่ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) อีโคคาร์ก็จะมีการสร้างความคุ้มค่าในการทำตลาดให้เหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน
หากมองปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบจากภายนอกแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการแพร่ระบาดระลอก 4 ของโควิด-19 จะส่งผลต่อยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย แต่วัลลภมองว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบที่รุนแรงเหมือนในช่วงที่มีการระบาดระลอกแรก โดยเฉพาะหากไม่มีการล็อกดาวน์จากทางภาครัฐ ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้ต่อไป ผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ อยู่แน่นอน
นอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าใหม่มาทำตลาดเพิ่มเติมในปีนี้ วัลลภระบุว่าการพัฒนาเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยก็เป็นสิ่งที่จำเป็น และจะทำให้สามารถให้บริการลูกค้าทั่วประเทศไทยได้ โดยในปัจจุบัน ซูซูกิมีเครือข่ายผู้จำหน่ายในประเทศไทยจำนวน 127 ราย และจะมีเพิ่มเป็น 130 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเพียงพอต่อการดูแลลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
หากไม่นับตัวถังสีทูโทนของเอ็กซ์แอล7 รถยนต์รุ่นใหม่ที่วัลลภกล่าวถึงน่าจะหนีไม่พ้นรถเล็กที่ฟื้นคืนชีพมาในช่วงโควิดอย่าง Suzuki Celerio ที่ทำยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นมาเป็นขวัญใจผู้ซื้อรถรายใหม่ หรือรถยนต์มินิเอ็มพีวีอย่าง Suzuki Ertiga ซึ่งในช่วงหลัง ๆ มียอดจำหน่ายอืด ๆ ไปบ้างจากการมาถึงของเวอร์ชั่นยกสูง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคันไหนก็น่าสนใจและสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายได้ทั้งสิ้น
แต่ถ้าอยากขายดี ขอลุ้นเซเลริโอไปเลยก็แล้วกัน!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}