ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่พร้อมเป็นคู่แข่งกับ Tesla ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และต้องการเป็นคู่แข่งโดยตรงกับรุ่นยอดนิยมอย่าง Tesla Model 3
ผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดที่เตรียมท้าชน Model 3 มาจากแบรนด์จีนที่คนไทยอาจจะเริ่มได้ยินมาบ้างอย่าง Hozon (ฮอซอน) แต่ครั้งนี้ฮอซอนได้เปิดตัวโมเดลใหม่ Neta S ในแบบออนไลน์แทนการเปิดตัวที่ Beijing Auto Show ที่ถูกเลื่อนมาตั้งแต่มีโรคระบาด
ฮอซอนก่อตั้งแบรนด์ย่อยอย่าง Neta (เนต้า) ขึ้นในปี 2018 ซึ่งในปัจจุบันเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วสองรุ่น ได้แก่ Neta U และ Neta V โดยที่คนไทยได้เจอตัวจริงของทั้งสองรุ่นนี้แล้วในบูธของ Arun+ ของปตท. ที่งาน Motor Show 2022 ที่ผ่านมา
ซึ่ง Neta S จะเป็นรุ่นล่าสุดที่เพิ่มเข้ามา โดยในเวอร์ชั่นผลิตจริงจะค่อนข้างคล้ายกับรถต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วและมีสไตล์ที่หรูหรามากขึ้นเมื่อเทียบกับไลน์อัพก่อนหน้านี้ของฮอซอน
อ่านเพิ่มเติม : พาชม Hozon Neta U Pro คันจริงในมอเตอร์โชว์ 2022
ด้านหน้ามีไฟหน้าแบบแยกส่วนตามสมัยนิยม แต่แทบจะดูเหมือนเป็นเนื้อเดียวกันเพราะส่วนบนที่เรียวเล็ก ช่องดักลมด้านหน้าที่มีสไตล์ และดีไซน์โดยรวมที่ดูสะอาดตาทำให้ Neta S เป็นรถที่น่ามอง ด้านหลังเราจะพบไฟท้าย LED เต็มระบบ สปอยเลอร์หางเป็ดที่รวมกับฝาท้าย ดิฟฟิวเซอร์ที่ซ่อนอยู่ และแนวหลังคาที่ล้อไปกับรูปร่างของตัวรถ
ด้านมิติของตัวรถ Neta S มีความยาว 4,800 มม. ความกว้าง 2,000 มม. และความสูง 1,400 มม. และมีฐานล้อที่เหลือเฟือถึง 2,900 มม. ทำให้มันใหญ่กว่า Tesla Model 3 เล็กน้อยและมีขนาดเทียบเคียงกับคู่แข่งร่วมชาติอย่าง BMW i3, Nio ET5, BYD Seal, และ Xpeng X5
อ่านเพิ่มเติม : BYD Seal อีกหนึ่งคู่แข่งโดยตรงของ Model 3 ที่ย่อมเยากว่า ราคาเริ่ม 1.15 ล้าน
ในส่วนของภายใน สิ่งที่โดดเด่นเลยก็คือหน้าจอสัมผัส infotainment แนวตั้ง พร้อมกับจอมาตรวัดดิจิตอลแบบมินิมอล ยังมี head-up display และหน้าจอสัมผัสเพิ่มเติมในฝั่งผู้โดยสาร
นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง 1,216 วัตต์ พร้อมลำโพง 21 ตำแหน่งที่มีลำโพงอยู่บริเวณหลังคาและหัวหมอน เบาะนั่งยังสามารถอุ่น ระบายอากาศ และมีระบบนวดให้อีกด้วย มีการใช้วัสดุแบบพรีเมียมเพื่อความหรูหราด้วยวัสดุ Alcantara, หนัง, ลายไม้, และแถบโครเมียมที่ถูกเน้นด้วย ambient light
Neta S ถือเป็นรถรุ่นแรก ๆ ที่ได้ใช้แพลทฟอร์มใหม่อย่าง “Shanhai” ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มแบบโมดูล่าร์ที่รองรับการสร้างทั้งรถยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบ (BEV) และรถยนต์แบบ range-extender (EREV)
สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคยังไม่มีการเปิดเผยมากนัก แต่คาดว่าเวอร์ชั่นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบจะสามารถวิ่งได้ถึง 710 กม. ต่อหนึ่งการชาร์จ ในมาตรฐาน NEDC ส่วนเวอร์ชั่น EREV อาจขับได้ถึง 1,100 กม. เลยทีเดียว Neta S ยังมีประสิทธิภาพของการจัดการพลังงานที่ดีด้วยอัตราสิ้นเปลือง 12 kWh / 100 กม. จากระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ของฮอซอนอย่าง HozonEPT4.0 ที่ถูกพัฒนาร่วมกับ Huawei และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพถึง 92%
ทางด้านเทคโนโลยี Hozon ได้สร้างมาตรฐานที่สูงให้กับตัวเอง ด้วยความต้องการให้มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4 ด้วยกล้องทั้งหมด 13 ตัว เซนเซอร์อัลตราโซนิค 12 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และไลดาร์ 2 ตัว
ซึ่งถือว่ามีความมั่นใจมาก เพราะขณะนี้มีเพียง Mercedes-Benz เป็นผู้ผลิตรถรายแรกที่ใช้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 บนถนนได้จริง และจะเริ่มใช้ใน S-Class ในปี 2022 นี้
เราอาจยังไม่แน่ใจว่า Hozon Neta S จะทำตลาดนอกประเทศจีนหรือไม่ แต่หากมองว่าทั้งสองรุ่นแรกของค่ายนั้นยังมาทำตลาดในไทยได้ Neta S ก็คงมีความเป็นไปได้อยู่เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม : สรรพสามิตยันต้องลดราคาอีวีไม่น้อยกว่า 1.5 แสนบาท เผย Hozon รายที่ 3 เข้าร่วมโครงการปีนี้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}