2020 Audi A4 Avant (2020 อาวดี้ เอ4 อวานต์) ประกาศพร้อมเปิดตัวในประเทศไทยในวันที่ 18 สิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยมาพร้อมการปรับโฉมใหม่เพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยวรอบคัน ขณะเดียวกัน ต้องลุ้นว่าอาวดี้ ประเทศไทย จะเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ ของเครื่องยนต์หรือไม่ และจะเคาะราคาจำหน่ายลงมาจากเดิมหรือไม่
แม้การวางราคาจำหน่ายของอาวดี้ เอ4 อวานต์ ซึ่งเป็นตัวถังแบบเดียวของโมเดลนี้ที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทย ด้วยเครื่องยนต์ตัวแรงรหัส 45TFSI กับค่าตัว 3.249 ล้านบาทจะถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับสมรรถนะและอุปกรณ์ที่ได้ แต่ดูเหมือนว่าอาวดี้นั้นจะสั่งลุยในระเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำราคาที่เรียกว่าดุเดือด
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Audi A5 ใหม่ ที่ลดราคาลงไปมากกว่าครึ่งล้านบาท หรือการเปิดราคาจำหน่ายรถยนต์ในตระกูล RS ที่เริ่มเพียง 5.299 ล้านบาทเท่านี้น ทำให้แฟน ๆ ชาวสี่ห่วงเองก็คาดหวังว่าอาจจะมีเซอร์ไพร์สในการเปิดราคารถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขาตามมาอีกเช่นกัน กับการเปิดตัวอาวดี้ เอ4 อวานต์ในครั้งนี้
เอ4 รุ่นใหม่ได้รับการปรับโฉมที่ภายนอกอย่างชัดเจน ด้วยการใช้กระจังหน้าแบบซิงเกิลเฟรมที่มีขนาดกว้างขึ้น สะดุดตามากขึ้นด้วยเส้นสายรอบตัวรถที่ชัดเจนและการตกแต่งด้วยโครเมียม เน้นเส้นสายของตัวรถที่ค่อนข้างต่ำเน้นความปราดเปรียว ไฟหน้าออกแบบลงตัวขึ้น รุ่นท็อปมาพร้อมไฟแมทริกซ์ แอลอีดี
แต่ลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อตัวท็อปก็เลือกไฟดังกล่าวพร้อมออพชั่นไฟสูงอัตโนมัติเป็นทางเลือกได้ในตลาดต่างประเทศ ไฟท้ายและแผงกันชนท้ายได้รับการออกแแบบใหม่ให้มีขนาดกว้างขึ้น มีการลดความเป็นสันคมของตัวรถที่ภายนอก ทำให้ตัวรถในภาพรวมมีความโค้งมนของตัวถังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ล่าสุด การแสดงผลผ่านหลักทำผ่านหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง และมีการปรับปรุงระบบนำทางให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถเลือกมาตรวัดได้ 3 รูปแบบ แบ่งออกเป็นแบบอนาล็อก 2 รูปแบบ และแบบเวอร์ชวล ค็อกพิทอีกรูปแบบ
อาวดี้ ประเทศไทย ตัดสินใจทำตลาดเอ4 ด้วยตัวถังและรุ่นย่อยเพียง 1 รุ่นเท่านั้น ได้แก่ Audi A4 Avant 45 TFSI quattro S-Line Black Edition เจ้าของค่าตัว 3.249 ล้านบาท เพื่อแลกกับท็อปไลน์ของโฉมนี้ ที่เป็นรองแค่ตระกูล RS4 Avant ที่แปะราคาขายกันอยู่ที่ 5.899 ล้านบาทเท่านั้น สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย
ในเวอร์ชั่นปกติจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 1,984 ซีซี. พร้อมกับระบบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 4,500 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควอตโตร
แน่นอนว่าแม้จะปรับโฉมไปแล้ว แต่เครื่องยนต์รุ่นนี้ก็น่าจะยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักในการทำตลาดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่้ต้องลุ้นก็คือ จะมีเวอร์ชั่นปกติอย่าง 40TFSI หรือแม้แต่เครื่องยนต์อื่น ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อให้ราคาจำหน่ายนั้นน่าคบหามากขึ้นกว่าเดิมไปอีกนิดหน่อย
18 สิงหาคมนี้ มีรายละเอียดเพิ่มเติมจะรีบมานำเสนอให้ทราบกันโดยถ้วนหน้า
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}