ทุกวันนี้ Mitsubishi Lancer Evolution หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Evo กลายเป็นรถญี่ปุ่นที่ถูกตามหามากที่สุดรุ่นหนึ่งในโลกกันเลยก็ว่าได้
ด้วยประวัติอันยาวนาน ประกอบกับทั้งความแรงและความสวยงาม ใครล่ะจะไม่อยากได้มาเป็นเจ้าของ
ซื้อรถ Mitsubishi มือสองกับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
ตัวรถคันนี้ คือ 2015 Mitsubishi Lancer Evolution Final Edition หรือ Evo X เจนเนอเรชั่นที่ 10 รุ่นสุดท้ายก่อนหยุดการผลิตในปี 2015 ซึ่งจากข้อมูลมีรถอยู่เพียง 1,600 คันเท่านั้นในสหรัฐอเมริกา
สิ่งที่มีมาให้ใน Evo รุ่นนี้ที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นอื่นคือ ล้อ Enkei 18 นิ้วจากสีดำด้าน, เบรก Brembo, ช่วงล่าง BILSTEIN กับสปริง Eibach
อ่านเพิ่มเติม Mitsubishi Lancer Evo X คันสุดท้าย เปิดราคา 3.9 ล้านบาท
แปะตราสัญลักษณ์ Final Edition บริเวณฝากระโปรงท้าย, กันชนหลังสีดำเงา, และหลังคาอลูมิเนียมพ่นสีดำ สำหรับภายในตกแต่งด้วยหนังดำทั้งคัน ตัดกับตะเข็บด้ายสีแดง พร้อมบาะนั่ง Recaro พร้อมแผ่นบกหมายเลขตัวรถที่เกียร์
ใส่เครื่องยนต์เป็นเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 307 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 414 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.4 วินาที
ตามข้อมูลนั้น ตัวรถสีขาวคันนี้คือรุ่น pre production หรืรุ่นก่อนการผลิตจริงในปี 2015 และมันได้ถูกเก็บไว้เป็นเวลากว่า 3 ปีที่ Mitsubishi Motors North America ทำให้มันเป็นรถที่แทบจะไม่ได้ออกไปวิ่งเลย
และในปี 2019 นี้เอง มันก็ต้องถูกทำลายลง เนื่องจาก "เป็นรถ pre production ที่ไม่มีเลขตัวถัง ตามข้อกำหนดของรัฐบาลแล้วจึงไม่สามารถเก็บไว้ได้"
ซึ่งก็ถือว่าน่าเสียดาย เพราะน่าจะมีการเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
แน่นอนว่าการเลิกผลิตแลนเซอร์ อีโวนั้นเป็นสิ่งที่ทำให่แฟน ๆ สายซิ่งในสลายไปตาม ๆ กัน แต่ที่จริงก็เป็นเรื่องของยุคสมัย และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป รวมถึงกระแสเศรษฐกิจของตลาดโลก ทำให้รถสปอร์ตในค่ายรถธรรมดาอาจไม่สามารถยืนอยู่ได้นานนัก
อีกเหตุผลที่เป็นไปได้คือ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เอง ก็เบนเข็มการพัฒนาไปเป็นรถเอสยูวี เอ็มพีวี และรถกระบะเป็นหลักแทน เพราะมันขายดี และได้กำไรมากกว่า
รวมถึงพักหลัง มิตซูบิชิก็มักประสบปัญหาขาดทนให้เห็นได้บ่อย ๆ จนได้ Nissan (นิสสัน) มาเทคโอวอร์ไป แล้วแบ่งหน้าที่กันชัดเจน
เช่น มิตซูบิชิจะเน้นการพัฒนา SUV อย่าง Pajero ส่วนนิสสันจะยังคงทำรถยนต์นั่งต่อ เพื่อไม่ให้ทับไลน์กันเอง
และแม้จะมีข่าวลือของ Mitsubishi Lancer Evo 11 ที่ว่ากันว่าจะใชขุมพลังจาก Renault ก็อาจจะเป็นเรื่องยากด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน สาวกก็คงต้องรอต่อไปครับ
ซื้อรถ Mitsubishi มือสอง มั่นใจ ได้มาตรฐาน ต้อง CARSOME
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}