ซูซูกิแนะนำ 2020 Suzuki Swift GL Max Edition แต่งสปอร์ต เพิ่มค่าตัว 5,000 บาทเท่านั้น

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดแนะนำ 2020 Suzuki Swift GL Max Edition (ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอล แม็กซ์ เอดิชั่น) รุ่นพิเศษ หวังสานต่อความสำเร็จในตลาดอีโคคาร์

Swift GL Max Edition รุ่นตกแต่งพิเศษ มาพร้อมแนวคิดเติมแต่งความเร้าใจทุกมุมมอง ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยถูกพัฒนามาจากรุ่น SWIFT GL ด้วยการยกระดับความสปอร์ตเร้าใจให้เหนือขึ้นไปอีกขั้นกับชุดแต่งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษรอบคัน

รถอีโคคาร์เวอร์ชั่นพิเศษนี้สวมชุดแต่งดีไซน์ใหม่ เริ่มจากสเกิร์ตรอบคันและสปอยเลอร์หลังเติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้นไปอีกขั้น พร้อมด้วยเสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ และชุดท่อไอเสียคู่เสริมความดุดันเร้าใจ

นอกจากนี้ยังมีชุดสติกเกอร์ Max Edition ที่ด้านข้างตัวรถ เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบในความโดดเด่นและแตกต่างไม่ซ้ำใคร

เครื่องยนต์ยังคงเป็นบล็อกเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 23 กม.ต่อลิตร

Swift GL Max Edition มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีเทาอ่อน Star Silver Metallic, Mineral สีเทาเข้ม Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 541,000 บาทและ สีขาว Pure White Pearl มีค่าตัวอยู่ที่ 546,000 บาท

เตรียมพร้อมลุยงาน Big Motor Sale หวังสานต่อความสำเร็จ

Swift GL Max Edition จะออกโชว์ตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกภายในงาน Big Motor Sale 2020 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 21-30 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์การแสดงสินค้า ไบเทคบางนา

ภายในงานดังกล่าว ซูซูกิจะนำเสนอแคมเปญสุดพิเศษเพื่อให้เป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์รุ่นนี้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ได้แก่ขับฟรี 90 วัน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี

นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2561 รถซับคอมแพ็กต์รุ่นนี้สามารถสร้างยอดขายรวมไปได้แล้วทั้งสิ้น 30,387 คัน (ถึงเดือนกรกฎาคม 2563) ซูซูกิแนะนำ Swift GL Max Edition เพื่อเดินหน้าเพื่อสานต่อความสำเร็จ และจะเป็นตัวที่มาช่วยเสริมทัพอีโคคาร์ของซูซูกิให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี 2563 นี้