เจ.ดี.พาวเวอร์ ชี้ Volvo – Hyundai ครองตำแหน่งผู้นำค่ายรถที่มีนวัตกรรมมากที่สุด

เจ.ดี.พาวเวอร์ เปิดเผยผลการสำรวจบริษัทรถยนต์ที่สร้างนวัตกรรมมากที่สุด ผลปรากฏว่า Volvo (วอลโว่) รั้งผู้นำในกลุ่มรถพรีเมียม ขณะที่ Hyundai (ฮุนได) ครองอันดับ 1 กลุ่มรถกระแสหลัก

การศึกษาดัชนีประสบการณ์ใช้งานเทคโนโลยีหรือ TXI (Tech Experience Index) ของเจ.ดี. พาวเวอร์ในสหรัฐอเมริกาเป็นการศึกษาประเภทใหม่ล่าสุดที่ใช้วิธีสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าก่อนนำมาจัดอันดับบริษัทรถยนต์ที่มีการสร้างนวัตกรรมและสามารถนำออกสู่ตลาดได้มากที่สุด 

ผลการศึกษาระบุว่า Volvo ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบริษัทรถยนต์พรีเมียม โดยทำได้ที่ 617 คะแนน ตามมาด้วย BMW ทำได้ 583 คะแนนและ Cadillac อยู่ที่ 577 คะแนน

สำหรับในกลุ่มบริษัทรถยนต์กระแสหลัก Hyundai นำมาเป็นอันดับ 1 ที่ 556 คะแนน ขณะที่อันดับที่ 2 เป็นของ Subaru ทำได้ 541 และอันดับที่ 3 เป็นของค่ายรถเกาหลีเช่นกันอย่าง Kia ทำได้ที่ 538 คะแนน ทั้งนี้ คะแนนเฉลี่ยของการศึกษา TXI ประจำปี 2020 อยู่ที่ 522 คะแนน

แล้วบริษัทรถยนต์รายใดทำคะแนนได้ต่ำที่สุด?

บริษัทรถยนต์ที่ทำคะแนนได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมีหลายแบรนด์ MINI คว้าอันดับบ๊วยมาครองด้วยการทำได้ 444 คะแนน รองลงมาเป็นค่ายรถสมรรถนะสูงอย่าง Porsche ทำได้ 453 คะแนน ส่วน Jeep ทำได้ 486 คะแนน ขณะที่ Honda และ Acura ทำได้เท่ากันที่ 488 คะแนน

บริษัทรถพลังงานไฟฟ้า Tesla ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำไม่ได้ถูกนำมาจัดเรตติ้งอย่างเป็นทางการ โดยเจ.ดี. พาวเวอร์ อ้างว่า Tesla ไม่ยินยอมให้มีการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าใน 15 รัฐของสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าดูจากผลการสำรวจใน 35 รัฐที่เหลือพบว่า Tesla ทำได้ ที่ 593 คะแนน รั้งอันดับ 2 เป็นรอง Volvo เล็กน้อย

ผู้บริโภคชื่นชอบเทคโนโลยีการแสดงผลมากที่สุด

ผลการสำรวจดัชนี TXI ในสหรัฐอเมริกายังพบข้อมูลสำคัญที่ระบุว่า ผู้บริโภคชื่นชอบฟังก์ชั่นที่เกี่ยวกับกล้องตรวจจับและการแสดงผลมากที่สุด โดยเฉพาะกล้องมองภาพด้านหลังที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

ในทางกลับกัน ระบบล้ำ ๆ อย่างการสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย (gesture control) เป็นฟังก์ชั่นที่ผู้บริโภคไม่ชอบมากนักเนื่องจากมักมีปัญหาในการใช้งาน

ขณะเดียวกัน ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติก็ได้เสียงตอบรับอยู่ในระดับปานกลาง ลูกค้าประมาณครึ่งหนึ่งชื่นชอบเพราะช่วยแบ่งเบาภาระและผ่อนคลายความเครียดในการขับขี่ ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งมองว่าระบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ