เปิดสเปค 2023 Ford Ranger Stormtrak พร้อมจุดเด่น 3 ประการ ที่ทำให้ลืม Wildtrak ไปเลย

• มี E-Shifter ครั้งแรก
• การตกแต่งใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน
• ราวหลังคาและสปอร์ตบาร์ เพิ่มประโยชน์ใช้สอย

เปิดตัว 2023 Ford Ranger Stormtrak (2023 ฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทรค) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รุ่นย่อยใหม่ที่มาพร้อมการตกแต่งที่เพิ่มความดุดันให้มากขึ้นกว่าเดิม และยังเติมประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะของรถให้มากขึ้น

ในรุ่นย่อยใหม่นี้จะเป็นการเพิ่มเติมความดุดัน รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นจากรุ่น Wildtrak ที่มีราคาในรุ่น 4x2 และรุ่น 4x4 ตัวท็อปสุดอยู่ที่ 1,174,000 บาท และ 1,314,000 บาท ตามลำดับ ทำให้ Stormtrak จะมีราคาที่เหนือกว่านั้นแน่นอน

เราพบว่า 2023 Ranger Stormtrak มีจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งหมด 3 ประการ ที่ทำให้แม้จะมีค่าตัวที่เพิ่มขึ้น แต่รับรองว่าถูกใจสายลุยแน่นอน

1. เครื่องยนต์เดิม เพิ่มเติม E-Shifter

Ranger Stormtrak มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร พร้อมตัวเลือกระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 และ 4x2 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter เป็นครั้งแรกสำหรับกระบะที่ไม่ใช่ Ranger Raptor

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแหนบซ้อน มาพร้อมโช้คอัพคู่หน้าและหลังแบบโมโนทิวบ์เช่นเคย ส่วนระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกหน้าและหลัง พร้อมครีบระบายความร้อน 

2. เพิ่มการตกแต่งใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน ใครเห็นก็รู้

การออกแบบภายนอกเพิ่มความดุดัน มีสไตล์ ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่น Stormtrak ที่มีกระจังหน้าสีดำเงาตัดกับสีของตัวรถ ตัวอักษรบ่งบอกชื่อรุ่นด้านหน้าสีดำที่เพิ่มความดุดัน และเส้นสีส้มด้านใต้ป้ายทะเบียนเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้

ด้านข้างของรถเราจะเห็นสติ๊กเกอร์ตกแต่งใหม่รอบคันเพื่อเพิ่มความดุดันไปอีกขั้น ช่องระบายลมด้านข้างสีดำ ขนาดของล้ออัพเกรดจาก 18 มาเป็น 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20 ในลวดลายที่คล้ายกับ Everest สีดำเงา พร้อมขลิบด้วยสีส้มโทนที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน

สำหรับสิ่งที่ยังมีอยู่เดิมนั้นมีให้อย่างครบครัน ได้แก่ ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟ DRL ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบ LED

นอกจากนี้ยังมี ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ บันไดข้างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้าย พื้นปูกระบะท้าย พร้อมช่องต่อไฟ 12V และ 230V (400W) และฝาท้ายแบบผ่อนแรง 

ภายในของรถมาพร้อมเบาะหนังและหนังสังเคราะห์ภายในตกแต่งใหม่ด้วยสีดำ-แดง ในสไตล์ Stormtrak โดยเฉพาะ ทำให้มีความหรูหราและยังคงความดุดันไว้อยู่ 

และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์ ติดไฟ AUX Lamp ที่จะทำงานเมื่อเปิดไฟสูง ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในทุกสภาพอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับเวลากลางคืน 

อุปกรณ์ภายในที่ให้ความสะดวกสบายยังมีให้อย่างครบครัน ได้แก่ เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ 

นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB 4 จุด ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร

3. เสริมสปอร์ตบาร์ เพิ่มประโยชน์ใช้สอย

ในรุ่น Stormtrak ยังมาพร้อมราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) ให้ผู้ขับขี่ปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ด้วยเลื่อนจุดล็อคได้ 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว รองรับการติดตั้งหรือขนย้ายอุปกรณ์เพื่อการผจญภัยและการทำงานได้หลากหลายรูปแบบอย่างง่ายดาย รองรับน้ำหนักสูงสุด 80 กก. (ขณะขับ) และ 250 กก. (ขณะจอด)

การเชื่อมต่อและความบันเทิงภายในรถยังครบครันเช่นเคย

Ford Ranger Stormtrak มาพร้อมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ได้แก่ หน้าจอกลางแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ 

นอกจากนี้ยังรองรับ การเชื่อมต่อบลูทูธ การเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น FordPass Connect ช่องต่อ USB 4 จุด และระบบเสียงลำโพง 6 ตำแหน่ง

อุปกรณ์ความปลอดภัยที่จัดเต็ม

สำหรับอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย Ranger Stormtrak นั้นยังครบครันเช่นเดียวกับรุ่น Wildtrak ตัวท็อป ได้แก่ 

ถุงลมนิรภัย 7 จุด ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง กล้อง 360 องศา ระบบ ABS EBD ESP TCS ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation) รวมถึงเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ auto hold

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูงที่นำมาจากรุ่น Wildtrak ด้วยเช่นกัน ได้แก่

• ดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 4x4)
• ระบบเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมด แบบหมุน (เฉพาะรุ่น 4x4) 
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
• ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน 
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
• ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System - BLIS® with cross-traffic alert)
• ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
• ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ 

มี 4 สีตัวถังให้เลือก

2023 Ford Ranger Stormtrak มีสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White ที่มาแทนสีขาว Snowflake White Pearl, สีเทา Meteor Grey, สีดำ Absolute Black และสีส้ม Sedona Orange (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งฝาปิดกระบะท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า (Power Roller Shutter) จากโรงงานเพิ่มเติม รวมถึงแผ่นรองกันกระแทกใต้ท้องรถเป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ 2022 Ford Ranger Wildtrak ตัวท็อป 1.299 ล้านบาท