หลาย ๆ คนอาจจะเคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องเรียกรถซีดาน (Sedan) ว่ารถเก๋ง แล้วทำไมต้องรถว่ารถซีดาน อีกทั้งคำว่าเก๋งเฉย ๆ เนี่ยมันมาจากภาษาอะไรกันแน่ ถ้าคุณสงสัยเรื่องเหล่านี้ วันนี้เรามีคำตอบที่จะทำให้ท่านได้รู้ที่มาของคำเหล่านี้ บอกเลยว่า อ่านแล้วเล่าได้อีกนาน
รากของคำว่า "ซีดาน"
เดิมทีคำนี้มีที่มาจากภาษาละติน sedēre แปลว่า "นั่ง" มีรากมาจากภาษาอิตาลีคือคำว่า "sedia" แปลว่า เก้าอี้ โดยคำว่า Sedan (ซีดาน) เริ่มมีการใช้ครั้งแรกในศตวรรษที่ 17 หมายถึง a covered chair แปลเป็นภาษาไทยแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ คือ เก้าอี้ที่หลังคา
หลังจากที่มีการนวัตกรรมรถยนต์เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 คำนี้ก็ได้กลายเป็นนิยามของรถยนต์จากทางฝั่งอเมริกา โดยหลายถึงรถยนต์ที่มี 2 หรือ 4 ประตูและมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารได้ 4 คน
ส่วนประเทศอังกฤษหรือโซนสหราชอาณาจักร ใช้คำว่า "saloon" (ซาลูน) ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศส คำว่า salon (ซาลอน)แปลว่า ห้องที่มีขนาดใหญ่ โดยในบริบทของยานยนต์ หมายถึงรถยนต์ที่มีจำนวน 4 - 5 ที่นั่ง มี 2 หรือ 4 ประตู มีการแยกกันระหว่างฝั่งผู้ขับและฝั่งผู้โดยสาร
อ่านเพิ่มเติม : BYD Han พิสูจน์ Moose Test พบว่าดีเทียบเท่ารถยุโรป แต่ไม่ถึงกับเป็น “สปอร์ตซีดาน”
แล้วทำไมต้องเรียกรถซีดานว่า "รถเก๋ง"
ก่อนที่จะเข้าใจคำว่ารถเก๋ง เราต้องแยกสองคำนี้ออกจากกัน คำแรกคือคำว่า "รถ" โดยคำนี้มาจากภาษาสันสกฤต रथ (rátha) และภาษาบาลี แปลว่า ยานที่มีล้อสําหรับเคลื่อนไป ใช้ได้กับทุกอย่างที่ขับเคลื่อนด้วยล้อ ไม่ว่าจะเป็น รถม้า รถไฟ รถศึก รถยนต์
ส่วนคำว่า "เก๋ง" เป็นคำภาษาจีนแต้จิ๋ว 宮/宫 (gêng) แปลว่าวัง โดยบริบทในภาษาไทยนั้น เดิมทีคำนี้ใช้กับสถานที่มีรูปทรงศิลปะแบบจีน เช่น พระที่นั่งเก๋งจีน(พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ), เรือเก๋ง หมายถึง เรือที่มีหลังคาแบบทรงจีน
อ้างอิงจากเว็บไซค์ ศิลปวัฒนธรรม คำว่า "รถเก๋ง" นั้นมาจากการที่ชาวบ้านเห็นรถยนต์ ที่ชาวต่างชาตินำมาขับในประเทศสยาม มีลักษณะคล้ายกับเรือเก๋ง จึงเรียกว่ารถเก๋ง และกลายเป็นคำที่นิยมพูดจนกลายเป็นคำที่มีความหมายเดียวกับคำว่า รถยนต์
อ่านเพิ่มเติม : รวมรถเก๋งซิ่ง Toyota และ Honda ในงาน Bangkok Auto Salon เผยราคาของแต่งเป็นแสนบาท
รู้หรือไม่เดิมดีคำว่ารถยนต์นั้นเป็นคำที่ใหม่มากในสังคมไทย ทำให้มีการเรียกที่หลากหลายแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ เช่น ชาวเชียงใหม่จะใช้คำว่า "รถสี่ล้อ" ชาวสุพรรณใช้คำว่า "รถกูบ" ส่วนนิยามตามราชบัณฑิตยสถานหมายถึง ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ ตามปรกติมี 4 ล้อมีหลายแบบหลายชนิดเรียกชื่อต่าง ๆ กันตามความมุ่งหมายที่ใช้
ส่วนรถยนต์ในทางกฏหมายอ้างอิงจาก “พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522” มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “รถยนต์” หมายความว่า รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล
อ่านเพิ่มเติม : Toyota เปิดตัวกระบวนการผลิตรถอีวีใหม่ ลดเวลา 24 ชั่วโมงเหลือ 20 นาที
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}