เปรียบมวย BYD Seal vs Honda Accord ในงบ 1.5 ล้าน อยากใช้ไฟฟ้าหรือมาไฮบริด?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเข้ามาของ BYD Seal (บีวายดี ซีล) นั้นทำให้รถหลายเซกเมนต์ต้องสั่นสะเทือน เพราะด้วยราคาและสิ่งที่ได้นั้นมีความคุ้มค่า รวมถึงรูปร่างหน้าตาที่โดนใจใครหลายคน 

แม้ BYD Seal จะเกิดขึ้นมาเพื่อต่อกรกับ Tesla Model 3 โดยตรง แต่ตัวรถนั้นมาพร้อมระยะฐานล้อที่ 2,920 มม. ซึ่งสามารถแข่งขันกับรถ D-Segment เครื่องสันดาปได้สบาย เมื่อรวมกับราคาเปิดตัวที่ 1,325,000 - 1,599,000 บาทแล้ว หลายคนก็คงอดเปรียบเทียบรถทั้งสองรูปแบบนี้ไม่ได้

ขณะเดียวกันนี้ Honda Accord e:HEV เจเนอเรชั่นที่ 11 เปิดตัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาคาดการณ์จาก Honda เองทั้ง 3 รุ่นย่อยที่ไม่เกิน 1,530,000 - 1,800,000 บาท เราจึงมาลองเปรียบเทียบรถทั้งสองรุ่นว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

เปรียบเทียบมิติตัวถัง

มิติตัวถัง BYD Seal Accord e:HEV
ความยาว (มม.) 4,800 4,962
ความกว้าง (มม.) 1,875 1,862
ความสูง (มม.) 1,460 1,449
ระยะฐานล้อ (มม.) 2,920 2,828
ระยะต่ำสุดใต้ท้องรถ (มม.) 120 134

เปรียบเทียบสมรรถนะ

BYD Seal สเปคไทยมาพร้อมขุมพลังให้เลือกถึง 3 รูปแบบด้วยกัน โดยรุ่นที่แรงที่สุด AWD Performance เมื่อรวมกำลังมอเตอร์หน้า-หลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 530 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 82.56 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ (iTAC)

ส่วนในรุ่น Premium จะมีพละกำลังรองลงมา มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 312 แรงม้า (230 kW) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าที่ 82.56 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 650 กม. ตามมาตรฐาน NEDC 

และสุดท้าย รุ่นเริ่มต้น Dynamic นั้นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 61.44 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 510 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

สำหรับระบบการชาร์จ BYD Seal สามารถรองรับการชาร์จแบบ DC ที่ความเร็วสูงสุด 150 kW และสิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้ง 3 รุ่นย่อยนี้สามารถรองรับระบบ V2L ได้ทุกรุ่น

ส่วน Honda Accord e:HEV มาพร้อมขุมพลังเดียวกันทั้ง 3 รุ่นย่อย คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวและชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุด 207 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร และอัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 25 กม./ลิตร จับคู่กับเกียร์ E-CVT

Accord e:HEV มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พร้อมเพิ่มโหมด Individual ที่สามารถปรับแต่งด้วยตัวเองมาให้แล้ว

เปรียบเทียบภายนอก

BYD Seal คือหนึ่งใน BYD Ocean Series ซึ่งออกแบบจากความสวยงามของศิลปะแห่งท้องทะเล มีการออกแบบด้านหน้ารถแบบ X-Shaped Design พร้อมหลังคากระจกแบบพานอรามิคที่ทอดยาวทั้งห้องโดยสาร 

ตัวรถมาพร้อมไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating เส้นสายที่ออกแบบให้บาง และ ลดแรงต้านอากาศของเลนส์ทำให้ไฟหน้าเพรียวบางขึ้น ไฟเดย์ไลท์ LED พร้อมรองรับ Follow Me Home ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ทุกรุ่นย่อย

BYD Seal มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วใน 2 รุ่นบน และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นเริ่มต้นซึ่งมีลวดลายสปอร์ตไม่แพ้กัน

ส่วน Honda Accord e:HEV ใหม่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Creative Black Tie” ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่สนุกสนาน สะท้อนถึงการออกแบบตัวรถให้มีเสน่ห์ลงตัว มีไฟหน้า ไฟเดย์ไลท์ และไฟท้ายแบบ LED ในรุ่นท็อป e:HEV RS ยังมาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ sequential อีกด้วย

ตัวรถที่ยังคงเอกลักษณ์การใช้เส้นสายแนวนอน เพื่อเน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซปต์ Low & Wide พร้อมด้วยการใช้ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำ อีกทั้งมีการออกแบบให้ท้ายลาด ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูปราดเปรียว

ล้ออัลลอยในรุ่นเริ่มต้นจะมีขนาด 17 นิ้วสีเงิน (รุ่น e:HEV E) และขนาด 18 นิ้วดีไซน์สปอร์ตสีดำแบบทูโทน (รุ่น e:HEV EL และ RS) 

ภายในของ BYD Seal

เปรียบเทียบภายใน

BYD Seal ตกแต่งภายในด้วยสีดำ ผสานความหรูหราและสปอร์ตเข้าด้วยกัน และยังให้ความกว้างขวางและสะดวกสบาย หน้าจอสัมผัสตรงกลางขนด 15.6 นิ้วแบบหมุนได้ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียง มีหัวเกียร์ไฟฟ้าแบบคริสตัล 

ในรถยังมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ได้แก่ เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ใน 2 รุ่นบนจะให้เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy ฝั่งคนขับมีระบบปรับดันหลังได้ 4 ทิศทาง (Lumbar support) พร้อม Memory Seat และเบาะนั่งคนขับเลื่อนอัตโนมัติเมื่อสตาร์ท-ดับรถอีกด้วย

นอกจากนี้ อุปกรณ์ภายในที่โดดเด่น ได้แก่ แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ช่อง ระบบปรับอากาศกรอง PM2.5 ระบบเครื่องเสียง Dynaudio Audio พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง รวมถึงเบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง ปรับพับแยกได้แบบ 60:40

สำหรับภายในของ Honda Accord e:HEV ออกแบบให้ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย มอบทัศนวิสัยที่ดีโดยเน้นคุณภาพภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ Comfort การเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว Intelligence การจัดวางฟังก์ชั่นที่ยืดหยุ่นสะดวกสบาย และ Advance ความเรียบหรูล้ำสมัย

สิ่งแรกที่เราจะเห็นจากภายในของรถคันนี้คือ ดีไซน์แบบมินิมอลเช่นเดียวกับ Honda ในยุคใหม่ แต่เราจะเห็นปุ่ม Experience Selection Dial โดดเด่นขึ้นมาสำหรับการปรับฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ บนหน้าจอสัมผัสตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งรองรับ Google Built-in มาตรวัดเป็นแบบดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้วพร้อม Head-Up Display ขนาด 11.5 นิ้วบนกระจกบังลม

นอกจากนี้ อุปกรณ์ภายในที่โดดเด่น ได้แก่ ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) แท่นชาร์จไร้สาย ระบบเสียงจาก BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งในทุกรุ่นย่อย ระบบฟอกอากาศ Plasmacluster เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้ำ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ

เทียบระบบความปลอดภัย

BYD Seal มาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety ที่ช่วยเหลือการขับขี่ครบทุกรุ่นย่อย ดังนี้

  • ระบบช่วยแจ้งเตือนการคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
  • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
  • ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
  • ระบบช่วยเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-B)
  • ระบบช่วยรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA)
  • ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
  • ระบบช่วยความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
  • ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC)
  • ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAW)

ระบบความปลอดภัยพื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ด้านหน้า-หลัง, ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)

นอกจากนี้ BYD Seal ใน 2 รุ่นท็อปจะมีระบบล็อกประตูป้องกันเด็กไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น AWD Performance) กระจกมองข้างปรับองศาอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และระบบบันทึกตําแหน่งกระจกมองข้างมาให้ด้วย

สำหรับ Honda Accord e:HEV ก็ไม่แพ้กัน เพราะให้ Honda Safety Sense มาอย่างครบครันในทุกรุ่นย่อย ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก 
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ 
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน 
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะในรุ่นท็อป
  • ระบบ Honda LaneWatch

นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานยังมีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ เซ็นเซอร์กะระยะ ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยมาให้ด้วย

BYD Seal และ Honda Accord e:HEV ทั้งคู่ถือเป็นรถที่น่าใช้ในแง่มุมที่ต่างกันออกไป Seal อาจเป็นรถไฟฟ้าที่น่าจับตามองทั้งรูปร่าง สมรรถนะ และความคุ้มค่า ส่วน Accord e:HEV ก็น่าสนใจในชื่อชั้นของแบรนด์ที่เหนือกว่า และออพชั่นที่ให้มาอย่างครบครัน หากจะเลือกรถ D-Segment สักคัน หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจไม่มากก็น้อย

อ่านเพิ่มเติม: เคาะราคา 2024 BYD Seal ที่ 1.325-1.599 ล้านบาท ทะยาน 0-100 ใน 3.8 วินาที วิ่งไกลสุด 650 กม.


 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

BYD Seal

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

ลองขับ 2023 BYD Seal แมวน้ำสายฟ้าขับดี เก็บเสียงเก่ง แต่นั่งหลังไม่สบาย รอลุ้นค่าตัวล้านกลาง | AutoFun

พรีวิว Honda Accord 2023 ไฮบริดแรงขึ้น ออพชั่นเยอะล้น รูปลักษณ์สปอร์ตสะอาดตา ลุ้นราคาอีกที | AutoFun

รีวิว 2021 Honda Accord ที่คิดว่า EL Turbo 1.499 ล้านบาท คือคุ้มค่าที่สุดกว่า e:HEV และคู่แข่งไปเลย

รีวิว แตร Accord Hella แดง แตรเดิม Honda HR-V

Honda Turbo City Civic Accord เปลี่ยนนํ้ามันเครื่องเมื่อไหร่ ?

รีวิว Accord 1.5 Turbo ภายนอก ภายใน เบื้องต้น

ข่าวล่าสุด

Hyundai เสริมทัพ Stargazer X ตัวท็อปใหม่ พร้อมสั่งลาด้วย H1 Elite FE

บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เผยโฉม Hyundai Stargazer X มีตำแหน่งการตลาดเป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมความดุดันกว่าเดิม และเสริมอุปกรณ์พิเศษ Stargazer X โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยด้วยราคาจำหน่าย 939,000 บาท มีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล, สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก, สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก และ สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างยังสามารถสั่งซื้อสีพิเศษ สีแดง ดรากอน เรด เพิร์ล โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่นทั้ง กระจั

MG5 10th Anniversary Special Edition ราคา 589,900 บาท แต่งเข้มฉลอง 10 ปีกิจการ MG ในไทย

MG5 10th Anniversary Special Edition คือรุ่นแต่งพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปีกิจการ MG ในไทย นำรถรุ่นเล็กมาเพิ่มความคุ้มค่า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ปอร์ตคูเป้ซีดานกยิ่งขึ้นด้วยราคา จำหน่ายในราคาเพียง 589,900 บาท จุดเด่นที่การออกแบบดี MG5 (เอ็มจี5) ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 จนถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมแล้วกว่า 21,000 คัน ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นจนคว้ารางวัลการออกแบบระดับโลกอย่าง “Good Design Award 2021” สาขา “Compact S

Tesla สู้ศึกค่ายรถจีน ปรับใหม่ Model 3 และ Model Y เริ่มต้น 1.599 ล้านบาท

Tesla (เทสล่า) นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นปรับปรุงใหม่ทั้ง Model 3 และ Model Y สู้ศึกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่กำลังถล่มตลาดเมืองไทย Model 3 โฉมใหม่จะออกทำตลาด 2 รุ่น มีราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท สำหรับรุ่น RWD และ 1,899,000 บาท สำหรับรุ่น Long Range AWD มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกล้อใหม่ที่เป็นล้อ Photon ขนาด 18 นิ้ว และ Nova ขนาด 19 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบคัลเลอร์บล็อคเพื่อลดแรงลากเสียดสี ภายในห้องโดยสารตกแต่งใหม่ทั้งหมด ผู้ใช้สามารถปรับแต่งไฟบรรยากาศในแบบของคุณเอง ระบบเสียงที่ถูกอัพเกรดด้ว

เปิดตัว 2024 Honda Prologue เอสยูวีไฟฟ้าใหญ่กว่า CR-V วิ่งไกลสุด 483 กม. คาดเริ่ม 1.6 ล้าน

2024 Honda Prologue เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีการเผยโฉมไปเมื่อปีที่แล้ว เอสยูวีไฟฟ้าคันนี้คาดว่าจะขายเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น แต่สเปคแบบนี้หากขายไทยรับรองว่ามียอดจองกันถล่มทลายแน่นอน Prologue เป็นรถอีวีรุ่นแรกที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Honda และ General Motors โดยได้รับการออกแบบโดยสตูดิโอดีไซน์สองฟากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ผสมผสานเอกลักษณ์การออกแบบในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านบาท สิ่งที่น่าสนใจคือการประกาศที่ว่า ราคาของรถคั

ราคาใหม่ 2023 BMW XM 50e เริ่มต้น 6.799 - 6.999 ล้านบาท ใช้ปลั๊กอินไฮบริด 476 แรงม้า

ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย BMW XM 50e อยู่ที่ 6,799,000 บาท และ BMW XM 50e รุ่น (Shadow Line) อยู่ที่ 6,999,000 บาท กับสเปคปลั๊กอินไฮบริดที่แรงน้อยลงกว่าเดิม ราคาถูกกว่ารุ่นท็อปเกินครึ่ง BMW XM 50e จากเดิมเมื่อต้นปีนี้เปิดตัวเป็นรถนำเข้าราคา 14,899,000 บาท ล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ แบบประกอบในประเทศ ลดพละกำลังลงเล็กน้อย โดยยังคงรูปร่างสปอร์ต กับภายในพรีเมี่ยมสุดขีด และที่สำคัญ มีราคาถูกลงเกินครึ่ง ภายนอกมีรุ่นแต่งพิเศษ รูปลักษณ์ภายนอกของ BMW XM 50e ใหม่ ยังคงเป้นรถประเภทเอสยูวี หรื

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

BYD Seal
เช็คทันที