สหรัฐอเมริกามีสำนักความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติ National Highway Traffic Safety Administration กำลังอัปเดตการสอบสวนระบบ Autopilot ของ Tesla (เทสล่า) ซึ่งมีข้อมูลใหม่ชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ของผู้ผลิตรายอื่นมีโอกาสน้อยที่จะชนในขณะที่ใช้เทคโนโลยีที่เทียบเท่ากัน
รายงานจากสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องพบว่า ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายที่มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัตโนมัติบางส่วน สามารถควบคุมความรับผิดชอบในการขับขี่บางอย่างได้ด้วยการแทรกแซงของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าระบบ Autopilot ในเทสล่า ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ค่ายรถอื่มเคลมปัญหาน้อย
General Motors บอกกับทางบริษัทว่าระบบ Super Cruise ของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเพียงสามครั้งตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอ้างว่าไม่ใช่ความผิดของระบบ Super Cruise นับแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2560 บริษัทมียอดขายรถยนต์ที่ติดตั้งระบบนี้มากกว่า 34,000 คัน และยังไม่มีลูกค้าร้องเรียนโดยตรง
Nissan (นิสสัน) ซึ่งติดตั้งระบบ ProPilot Assist ในรถยนต์กว่า 560,000 คัน ก็ไม่มีเหตุขัดข้องให้รายงานในขณะเดียวกันทางด้าน Ford ก็ไม่มีเหตุขัดข้องจากการรายงานผู้ใช้ในรถที่ติดตั้ง BlueCruise ซึ่งรายนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ระบบของพวกเขาเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ส่วนอีกกลุ่มบริษัทรถหนึ่งคือ Stellantis กล่าวว่ามีการขัดข้องเพียง 2 ครั้งที่ได้รับรายงานเกี่ยวข้องกับระบบของตนเอง
ความคืบหน้าการสืบสวน
การสอบสวนระบบ Autopilot ของ Tesla นั้นเกิดจากสำนักความปลอดภัยฯ NHTSA ดังกล่าว ได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุ 207 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับ Autopilot ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รวมถึง 16 กรณีที่ยานพาหนะชนเข้ากับรถฉุกเฉินที่ต้องฝ่าไฟแดง
อุบัติเหตุจำนวนหนึ่งเกิดจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของระบบ เช่น รถยนต์คันอื่นๆ ที่พุ่งชนเข้า แต่ยังมีอีก 106 ครั้งซึ่งไม่สามารถโทษรถยนต์คันอื่นๆ ได้ เมื่อสืบสวนลึกลงไปพบว่าในจำนวน 106 ครั้งนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งจะเกิดจากผู้ขับขี่ที่ตอบสนองต่อคำสั่งของรถช้าเกินไป และ 1 ใน 4 เกี่ยวข้องกับการใช้ออโตไพลอตในสถานการณ์ที่เทสลาระบุว่าระบบอาจมีปัญหาตรวจจับไม่พบ
หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวว่า จะพิจารณาว่าระบบช่วยขับขี่ ว่ามีส่วนร่วมกับคนขับรถอย่างเพียงพอหรือไม่ NHTSA เขียนว่าการอนุญาตให้ผู้ขับขี่ดำเนินการควบคุมดูแลอย่างเหมาะสมคือ “การพิจารณาด้านความปลอดภัยที่สำคัญ”
อ่านเพิ่มเติม : ระบบ AutoPilot ใน Tesla คืออะไร? เรียกว่าเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้หรือไม่?
มีสัดส่วนจำนวนรถมาก
แม้ว่า Autopilot จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุมากกว่าระบบอัตโนมัติบางส่วนของคู่แข่งรายอื่น แต่ก็ยังใช้งานได้นานกว่า และใช้กับยานพาหนะจำนวนมากกว่าระบบอื่นๆ ส่วนใหญ่ Tesla มีการติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์ประมาณ 830,000 คัน แต่รายงานเดียวกันพบว่าอัตราการชนต่อ 1,000 คันยังคงสูงกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอย่างมาก
ผู้ขับ Tesla มั่นใจรถเกินไป
ปัญหาที่ซับซ้อนนี้อาจเป็นไปได้จากที่ผู้ขับขี่ของ Tesla ใช้ระบบนี้มากกว่าผู้ขับขี่รายอื่นๆ เนื่องจากไม่ได้จำกัดเฉพาะทางหลวงอย่าง Super Cruise ของ GM ทำให้อัตราการชนที่ต่ำลง อาจเกี่ยวข้องกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นมีแนวทางตั้งค่าให้อยู่ในเซฟโซน และการเปิดตัวระบบ ADAS โดยโฆษณาชวนเชื่อน้อยลง ทำให้ผู้คนอาจจะไม่ได้วางใจใช้งานอย่างเต็มที่แบบในเทสล่า
อ่านเพิ่มเติม : ระบบ Tesla Autopilot ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะปลอดภัยกว่ารถทั่วไปในแดนมะกันถึง 8 เท่า!?
ผลสรุปจะเผยในไม่ช้า
การผลสรุปข้อมูลการสืบสวนที่รวบรวมจากทั้ง Tesla และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น จะปรากฎผลลัพธ์ในเร็ว ๆ นี้ คาดว่าบันทึกหลักฐานความปลอดภัยของระบบ Autopilot จะถูกแยกออกมาจากกรณีของถยี่ห้ออื่น หากระบบนี้มีทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว NHTSA จะทำได้เพียงยกประโยชน์ให้เทสล่าทั้งหมด หรือในทางกลับกัน หากมันก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ก็อาจบังคับให้มีการเรียกคืนรถก็เป็นได้
สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เราน่าจะโทษคนขับ Tesla ที่มั่นใจในระบบช่วยขับนี้มากเกินไป จนละเลยการควบคุมซะเอง ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจมาก ที่หลายคนเสียชีวิตเพราะไว้ใจระบบช่วยขับนี้
อ่านเพิ่มเติม : ผลวิจัยเจ้าของรถหลายคัน พบ Tesla เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถคันอื่น 50% สวนทาง Porsche