Tesla Supercharger Ford ฟอร์ด เทสล่า

• ชี้ลูกค้าอาจจะไม่พอใจที่ต้องรอนานขึ้น
• ฟอร์ดและจีเอ็มประกาศพร้อมใช้งาน
• ส่วนในไทยหลายค่ายยังกั๊กกันอยู่เลย

การประกาศให้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Tesla (เทสล่า) เท่านั้นสามารถใช้งานเครือข่ายสถานีชาร์จไฟของแบรนด์มาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษของผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าหลายต่อหลายรายตัดสินใจซื้อรถยนต์ของค่ายนี้ เพื่อตัดปัญหาการที่ต้องต่อคิวเพื่อชาร์จไฟในสถานีชาร์จแบบสาธารณะที่มีอยู่ไม่แพร่หลายนัก

ถามว่าเทสล่าเองนั้นมุ่งมั่นกับการขยายสถานีบริการเพียงใด ก็ต้องไปดูโครงการสถานีชาร์จไฟที่มากถึง 7,000 แห่งในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งให้บริการลูกค้าเฉพาะเทสล่ามาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเทสล่าประกาศให้ลูกค้าของแบรนด์อื่น ๆ สามารถใช้งานสถานีซูเปอร์ชาร์จของพวกเขาได้แล้วในปีนี้

เริ่มต้นมาจาก Ford (ฟอร์ด) ที่ประกาศในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่าสามารถใช้บริการได้แล้ว เพียงแค่พกหัวแปลงที่ทำให้ใช้ได้ทันที ตามมาด้วย GM (เจนเนอรัล มอเตอร์ส) ที่ประกาศช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แน่นอนว่ามีการวิเคราะห์ว่าลูกค้าของเทสล่านั้น อาจจะไม่ค่อยพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มากนัก 

ซึ่งเหตุผลของลูกค้านั้นฟังขึ้นเสมอ แต่มันจะแย่ขนาดนั้นเลยหรือ...

หลายเสียงบ่นอาจจะต้องรอนานขึ้นกว่าเดิม

ปัจจัยสำคัญในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้าก็คือข้อจำกัดในเรื่องระยะทางวิ่งและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการชาร์จไฟกลับเข้าไป ระบบชาร์จด่วนอาจจะทำให้คุณเติมพลังรถของคุณจนเพียงพอได้ในเวลา 30-40 นาที แต่หากเป็นการที่ต้องต่อคิวรอลูกค้ารถยนต์แบรนด์อื่นมาชาร์จก็คงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย นักวิเคราะห์หลายรายออกมาระบุว่า มีลูกค้าของเทสล่าหลายคน ตัดสินใจซื้อรถด้วยปัจจัยการมีที่ชาร์จเฉพาะของแบรนด์เสียด้วยซ้ำ

อ่านเพิ่มเติม: รถไฟฟ้าในอนาคตของ Ford สหรัฐฯ จะสามารถรองรับหัวชาร์จ Tesla ได้ แบบไร้อแดปเตอร์

มองในมุมกลับด้านก็อาจจะเป็นผลดีในอนาคต

แน่นอนว่าในทุกวิกฤตก็เป็นแง่มุมที่มีโอกาสเหมือนกัน โดยนักวิเคราะห์อีกรายให้ความเห็นว่า การปล่อยให้ค่ายรถอื่นมาชาร์จไฟได้อาจจะเป็นผลดีกับแบรนด์เทสล่าเองในอนาคต จากรายรับที่เพิ่มมากขึ้นจากการเก็บค่าชาร์จไฟ ซึ่งหากธุรกิจนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี ก็เป็นไปได้ที่เทสล่าอาจจะเร่งเครื่องขยายเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเพิ่มเติมในอนาคตก็ได้ ซึ่งในที่สุด ก็จะทำให้ลูกค้ามีสถานีชาร์จที่เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการกดดันให้แบรนด์คู่แข่งหันมาแข่งขันกันมากขึ้นอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: คิดถูกหรือผิด? อีลอน มัสก์ ยืนยัน Tesla เน้นกระตุ้นยอดขายมากกว่าทำกำไร

ในไทยก็เริ่มขยาย แต่บางค่ายก็ยังกั๊กไม่ให้คนอื่นได้ใช้

Tesla ในประเทศไทยเริ่มขยายเครือข่ายสถานีการชาร์จไฟความเร็วสูงไปตามสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ เน้นตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่ายังเป็นการรองรับลูกค้าของแบรนด์เป็นหลัก ขณะเดียวกัน MG (เอ็มจี) ที่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามานาน ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายรถที่กั๊กสถานีชาร์จไฟฟ้าของตนเอง ที่มักจะติดตั้งในโชว์รูมและปั้มน้ำมันหลายแห่ง แน่นอนว่าก็มีกระแสเรียกร้องให้พวงเขายอมเปิดให้ค่ายรถอื่น ๆ ได้ใช้บ้างเหมือนกัน

งานนี้แล้วแต่ใครจะมองยังไง จะกั๊กหรือใจดีก็ไม่ผิดหรอกนะ...