รถรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ มักจะดีกว่าโฉมเดิม พัฒนาต่อยอดข้อดีเพิ่มขึ้น หรือลบจุดด้อยเดิมออกไป เพื่อให้สร้างความแตกต่าง จนสามารถแข่งกันกับคู่แข่งที่พัฒนามากขึ้น แต่ในรถ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) โฉม FB นั่นมีความแตกต่างจากการพัฒนารถรุ่นใหม่ทั่วไป จนทำให้คนไม่นิยมซื้อรุ่นนี้ใช้ และมันไม่ประสบความสำเร็จเอาอย่างแรงเลย เพราะอะไรกัน

ดีไซน์สัดส่วนเดิม

ด้วยความสำเร็จอย่างมากของ Civic FD ในรุ่นก่อน ทำให้เป็นการบ้านที่ยาก หากคิดทำรุ่นใหม่ให้ดีกว่าเดิม โดยต้องคมต้นทุนให้สามารถขายในระดับราคาไม่สูงจากเดิมมาก ทางทีมงานฮอนด้าจึงเลือกที่จะใช้ดีไซน์แบบหน้าลิ่ม ท้ายยื่นเป็นรถเก๋ง อันเป็นสัดส่วนแบบเดิมที่เคยใช้ในรุ่นก่อนมาแล้ว จากนั้นก็ออกแบบรายละเอียดใหม่หมด เปลี่ยนไฟหน้าที่โค้งและแหลม กลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมตรง ขยายช่องดักลม เพิ่มขนาดเส้นโครเมียมหน้าให้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา กลายเป็นว่า ผู้คนไม่ชอบสไตล์อนุรักษ์นิยมอย่างนี้ เพราะกลุ่มที่ชอบความอนุรักษ์นิยม ไปซื้อรถค่ายคู่แข่งหมดแล้ว

ตัวถังเล็กลง

มิติตัวถังของ Honda Civic FB มีความยาว 4,525 มม. กว้าง 1,755 มม. สูง 1,434 มม. ระยะฐานล้อ ยาว 2,670 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า Civic FD จะพบว่า ความกว้างและความสูงเท่ากัน แต่ระยะฐานล้อลดลงจากเดิม 30 มม. ทำให้ความยาวของตัวถัง ลดลงจากเดิมไป 15 มม. นัยว่าหวังผลให้ Civic รุ่นนี้มีความกะทัดรัด ไม่เทอะทะ ความคล่องตัว แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ห้องโดยสารแคบกว่ารุ่นเดิม ทำให้หลายคนไม่ชอบในส่วนนี้เพราะด้อยกว่ารุ่นก่อน เหมือนจ่ายเงินแพงขึ้น แต่ได้ปริมาณลดลง

เครื่องยนต์เดิม

ขุมพลังของ Honda Civic FB ยังคงหยิบเอาบล็อกเดิมจาก Civic FD มาปรับจูนความประหยัดเพิ่ม ดดยที่กำลังไม่มีตก แต่ก็ไม่ได้มีความก้าวกระโดดอย่างมีนัยยะสำคัญ

Honda Civic FB รุ่นเริ่มต้น-รุ่นกลาง ใชเครื่องยนต์ 4 สูบ รหัส R18A ขนาด 1.8 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด 

รุ่นท็อปสุดได้เครื่องยนต์ 4 สูบ รหัส R20A ขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดเช่นกัน

ปัญหาคุณภาพ

ผลการทดสอบและสำรวจจาก Consumer Reports ในอเมริกาพบว่า รถรุ่นนี้เจอปัญหาคุณภาพมาก จนได้คะแนนไม่ดีพอที่จะได้รับการแนะนำให้ซื้อ โดยสำนัก CR แห่งนี้สำรวจความเห็นจากผู้ใช้รถรุ่นนี้หลายคนพบว่า รถรุ่นนี้มีเสียงยางเข้าเยอะ วัสดุคุณภาพไม่ดี ช่วงล่างไม่กระชับ เมื่อเทียบกับโฉมเดิม รวมถึงสมรรถนะ และราคา ก็ด้อยกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน

ฮอนด้าไม่เห็นด้วย

ฮอนด้าอเมริกาออกมาประกาศไม่เห็นด้วยกับการสำรวจนี้ โดยกล่าวว่า 2012 Honda Civic นี่คือความก้าวหน้าของเรา เพราะการพัฒนารถรุ่นนี้เน้นความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยยังคงความทนทานน่าเชื่อถืออยู่ รวมถึงสมรรถนะก็ปรับปรุงความแข็งกระด้าง และทำให้ออกตัวนิ่มนวลขึ้น

ขายอยู่แค่ 4 ปี

แม้ว่าฮอนด้าอเมริกา จะออกมาแย้งคำแนะนำจาก Consumer Reports แบบไม่เห็นด้วยทุกสิ่งอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยอดขายก็พิสูจน์แล้วว่า ผู้คนไม่ยอมจ่ายเงินแพงขึ้น เพื่อได้รถที่ตนเองไม่ต้องการ ทำให้ในอีก 2 ปีต่อมา Honda Civic FB ต้องรีบออกโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่อย่างเร่งด่วน ซึ่งผิดวิสัยของรถยนต์ออนด้าทั่วไป ที่มักจะปรับโฉมใหญ่ทุก 3 ปี นั่นแสดงให้เห็นว่า ฮอนด้าพยายามเร่งแก้เกมอย่างหนักหน่วง แต่ยอดขายในอเมริกาก็ยังไม่ดีนัก ทำให้ต้องรีบพัฒนารุ่นใหม่ออกมา ทั้งที่ขายโฉมนี้ไปได้แค่ 4 ปีตลอดอายุการตลาดเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic FB มือสอง โฉมที่จะน่าสนใจสำหรับคนอยากได้เครื่องไร้เทอร์โบและดีไซน์เรียบหรู

Civic FB ในไทย

Honda Civic FB เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2012 และได้ปรับโฉมในปี 2014 จากนั้นก็หยุดขายไปในปี 2016 ด้วยระยะการทำตลาดสั้นกว่าใครในบรรดาตระกูลซีวิคตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา บ่งบอกได้ว่าคนไทยก็ไม่นิยมโฉมนี้เช่นเดียวกับชาวอเมริกัน ทำให้ราคามือสองตอนนี้ร่วงลงไปอยู่ที่ประมาณ 3-4 แสนกว่าบาทเท่านั้น หากใครชอบฮอนด้าที่ดูเรียบร้อยไม่หวือหวา และงบประมาณไม่พอซื้อ Civic FE ป้ายแดง ก็ยังมีโฉมนี้เป็นตัวเลือกในตลาดมือสองครับ สามารถมองหา Honda Civic โฉม FB มือสองได้ที่นี่

อ่านเพิ่มเติม : เหตุผล 8 ข้อ ที่ควรเปลี่ยนรถเป็น 2021 Honda Civic FE ได้แล้ว