BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ตั้งเป้าการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดการณ์ว่ายอดขายอย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เมื่อยอดขายอีวีเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตรถจากเยอรมันจึงต้องการท้าทายความโดดเด่นของ Tesla (เทสล่า) กับยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพราะเมื่อปีที่แล้วเทสล่าได้โค่นบัลลังก์ยอดขายรถหรูจากบีเอ็มดับเบิลยูไปนั่นเอง มั่นใจแม้ปีที่แล้วจะเพลี่ยงพล้ำ ในปีนี้ BMW จึงมีเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 200,000 คันทั่วโลก ซึ่งเป็นสองเท่าของยอดส่งมอบในปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับ Tesla ที

ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ได้มีรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่าง ๆ ขนกันเข้ามาจัดแสดงในงานนี้กว่า 20 รุ่น เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงจากทั้ง 4 พรีเมียมแบรนด์ที่อยู่ในงานนี้ ถือเป็นการบอกทิศทางของแบรนด์ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและดีไซน์ ทำให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ในยุคของการเข้ามาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าว่ามีมากน้อยเพียงใดในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 คันนี้อาจไม่ใช่รถที่แพงที่สุดในงาน แต่มั่นใจว่าทั้ง 4 คันคือตัวแทนอนาคตของอุตสาหกรรมยา

แม้ว่า BMW i5 จะยังไม่มีกำหนดเปิดตัวจนกว่าจะถึงปี 2025 แต่ตอนนี้ภาพสเก็ตช์บางส่วนออกมา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสมาชิกคนที่ 3 ของตระกูล BMW i และอาจจะเป็นอนาคตของซีดานขนาดกลางรุ่นซีรีย์-5 เดิมทีมีแผนเป็นครอสโอเวอร์ ภาพเรนเดอร์ใหม่เป็นซีดาน ภาพเรนเดอร์ซีดาน 3 แบบ ขุมพลังที่คาดว่าจะใช้ BMW อาจไม่ได้ใช้ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) มีแผนจะทำให้ EV เติบโตขึ้นในปี 2025 ด้วยการมาถึงของรุ่น i5 ซึ่งวางตัวให้จับกลุ่มคนหมู่มาก และเป็นคู่แข่งกับ Tesla Model S ดังนั้นจึงจัดสเปคให้เป็นรถเก๋งดีไซน์เก๋ในสไต

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อน ด้วยทัพรถยนต์ BMW รุ่นใหม่ล่าสุด และข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน Motor Expo 2021 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในการนำเสนอที่สุดของพลังแห่งทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมจัดแสดงรุ่นรถยนต์ในหลากหลายระบบขับเคลื่อนให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัส นำโดย BMW 630i GT M Sport ใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะสปอร์ตทรงพลัง พร้อมความสะดวกสบายในทางไกล BMW X3 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) กำลังซุ่มทำแพลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ชื่อว่า Neue Klasse มาแทนแพลทฟอร์มแบบเดิมอย่าง FAAR และ CLAR ต่างจากแพลทฟอร์มที่มีอย่างไร แพลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าที่ BMW มีอยู่ในปัจจุบันจะแบ่งตามระบบขับเคลื่อน FAAR เป็นแพลทฟอร์มสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วน CLAR เป็นแพลทฟอร์มสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยเหตุนี้ BMW จึงต้องการทำให้มีความโมดูล่าร์มากขึ้น หมายความว่า สามารถใช้แพลทฟอร์มนี้ ปรับแต่งระบบการขับเคลื่อน ขนาดตัวถัง ความสูงตัวถัง หรือขนาดแบตเ

เราจะเห็นข่าวที่ค่ายรถยนต์ประกาศเลิกทำเครื่องยนต์สันดาปกันแทบทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่จะเลิกทำเครื่องยนต์สันดาปกันช่วงปี 2030 แต่ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ไม่ทำอย่างนั้น เมื่อไม่นานมานี้ จากการสัมภาษณ์โดยสำนักข่าว Auto News ที่ Munich Motor Show กับ แฟรงค์ เวเบอร์ ผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาของ BMW ได้ใจความว่า “สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้น คำถามคือไม่ใช่ว่าจะเลิกผลิตเครื่องยนต์สันดาปเมื่อไหร่ แต่คำถามคือ เมื่อไหร่ที่โครงสร้างพื้นฐานจะพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้เต็มระบบเสียทีต่างหาก ตั้งแต่การวางพื้นฐานโครงสร้างจุดชา