เปิดตัว 2023 Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ เผยโฉมซีดานครั้งแรกในโลก ความปลอดภัยเทียบเท่ารุ่นพี่

Salin
Salin · 2023-06-21 12:04:31

2023 Mazda 2 (2023 มาสด้า 2) โฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวแล้วในประเทศไทย หลายคนอาจเห็นการเปลี่ยนโฉมจากประเทศญี่ปุ่นกันแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาสำหรับรุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู แต่คราวนี้ในบ้านเราจะเผยโฉมรุ่นซีดานเป็นครั้งแรกในโลก

  • มาพร้อม 2 ดีไซน์ใหม่ เลือกได้ทุกรุ่นย่อย
  • รุ่นพิเศษ 2 รุ่นเฉพาะตัวถังแฮทช์แบ็ค
  • เครื่องยนต์บล็อกเดิม
  • ออพชั่นยังโดดเด่นกว่าใคร ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่ถุงลมยัง 2 ใบ
  • มาพร้อม 2 สีใหม่
  • ราคาเริ่มต้นเท่าเดิม
Mazda 2 Sport Design

มาพร้อม 2 ดีไซน์ใหม่ ที่เลือกได้ทุกรุ่นย่อย

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ในปีนี้มาพร้อม 2 ดีไซน์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิมไม่น้อย ซึ่งประกอบด้วย Sport Design และ New Wave Design

สำหรับ Sport Design เป็นดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ต มาพร้อมกระจังหน้ารังผึ้ง Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ มีการตกแต่งที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำ และมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วดีไซน์ใหม่

ภายในของรุ่นนี้มอบความสปอร์ตพรีเมียมด้วยเบาะหนังสีดำสลับผ้า Grand Luxe Suede พร้อมการตกแต่งสีแดงที่กรองช่องแอร์ และการเดินด้ายตะเข็บสีแดง ตอบโจทย์คนี่ต้องการความสปอร์ต

ส่วน New Wave Design เป็นดีไซน์ที่เน้นความสดใสมีชีวิตชีวา โดดเด่นการออกแบบกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ และล้อลายใหม่

ภายในของรุ่นนี้มาพร้อมการตกแต่งที่มีสีสันสดใส ได้แก่ สีขาว Pure White, สีดำ Mirror Black และสีฟ้า Gross Light Blue ซึ่งจับคู่ให้ตรงกันกับสีภายนอก มีการเลือกใช้วัสดุ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการทำคอนโซลและเลือกใช้ฟิล์มหลังคาที่ทำจากไวนิล (ในรุ่นสีทูโทน) เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

Mazda 2 Rookie Drive

รุ่นพิเศษ 2 รุ่นที่มีเพียงตัวถังแฮทช์แบ็ค 5 ประตูเท่านั้น

Mazda 2 โฉมนี้ยังมาพร้อมรุ่นพิเศษทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Rookie Drive และ Clap Pop ซึ่งเป็นการสร้างความสดใสจากรุ่น C ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นไปอีกขั้น

สำหรับรุ่น Rookie Drive มาพร้อมความโดดเด่นที่ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สีภายนอกแบบทูโทนพร้อมหลังคาสีดำหรือขาวขึ้นอยู่กับสีที่เลือก มีการตกแต่งด้วยสีส้ม Racing Orange บนสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้าง คิ้วแต่งกันชนหน้า-หลัง และฝาครอบล้อ นอกจากนี้ยังมีชุดสติกเกอร์ดีไซน์พิเศษอีกด้วย

Mazda 2 Clap Pop

ส่วนในรุ่น Clap Pop จะมาพร้อมความสปอร์ตสุดคูล ประกอบด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว และยังมีสติ๊กเกอร์ดีไซน์พิเศษ Clap Pop สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ

เครื่องยนต์บล็อกเดิม

สำหรับ Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์สเปคไทยนั้นมาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อน 2 รุ่น ได้แก่ 

เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ได้รับมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5

ออพชั่นยังโดดเด่นกว่าใคร

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ยังมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ได้แก่ ภายในห้องโดยสารที่มาพร้อมเทคโนโลยี Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander

นอกจากนี้ยังมี แท่นชาร์จไร้สาย ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่งอีกด้วย

ระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่ถุงลมยัง 2 ใบเช่นเคย

2023 Mazda 2 มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันกว่าเดิมในระบบ i-Activsense ในทุกรุ่นย่อย โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่

  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS – Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS – Advanced Smart City Brake Support) ซึ่งมีมาให้ทุกรุ่นย่อย
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS – Smart Brake Support) โดยควบคุมที่ความเร็วตั้งแต่ 15 – 160 กม./ชม.
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC – High Beam Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า (MRCC – Mazda Radar Cruise Control)

ส่วนระบบความปลอดภัยแบบ Active ระบบอื่น ๆ ก็ยังมีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360° View Monitor)

นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานนั้นมีมาให้ไม่ขาด ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA 

การปรับโฉมของ Mazda 2 ครั้งนี้ได้เพิ่มระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่น่าเสียดายที่ยังไม่เพิ่มถุงลมนิรภัยรอบคันมาเสียที

Mazda 2 ในสีฟ้า แอร์ สตรีม บลู

มาพร้อม 2 สีใหม่ ทำให้มี 9 เฉดสีให้เลือก

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ปีนี้ มีสีภายนอกให้เลือกถึง 9 เฉดสีด้วยกัน ซึ่งรวมถึง 2 เฉดสีใหม่เป็นครั้งแรก ได้แก่ สีเทา แอโร เกรย์ ที่เน้นความสปอร์ต และสีฟ้า แอร์ สตรีม บลู ที่เน้นความสนุกสนานสดใส โดยมีสีทั้งหมด ดังนี้

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล
  • สีเทา แมชชีน เกรย์
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล
  • สีดำ เจ็ท แบล็ค
  • สีบรอนซ์ แพลทตินัม ควอตซ์
  • สีเทา โพลีเมทัล เกรย์
  • สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู 

และสีใหม่ ได้แก่

  • สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู
  • สีเทา แอโร เกรย์

รุ่นย่อยให้เลือกหลากหลาย ราคาเริ่มต้นเท่าเดิม

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งในรุ่นตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ค 5 ประตู สามารถเลือกได้ทั้ง Sport Design และ New Wave Design และยังมาพร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ได้แก่ Rookie Drive และ Clap Pop สำหรับรุ่น 5 ประตู โดยมีราคาดังนี้

  • 1.3 C / 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
  • 1.3 S / 1.3 S Sports ราคา 680,000 บาท
  • 1.3 SP / 1.3 SP Sports ราคา 730,000 บาท
  • XD / XD Sports ราคา 720,000 บาท
  • XDL / XDL Sports ราคา 830,000 บาท

และรุ่นพิเศษ ดังนี้

  • Rookie Drive Sports 662,000 บาท
  • Clap Pop Sports 647,000 บาท

โดยราคารุ่น C จะเท่าเดิม แต่รุ่นอื่น ๆ จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ข้อเสนอช่วงเปิดตัว 

Mazda ประเทศไทย มอบข้อเสนอสุดพิเศษช่วงเปิดตัวให้แก่ลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ด้วยข้อเสนอดอกเบี้ย 1.59% ต่อปี และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

อ่านเพิ่มเติม: 2022 Mazda 2 ดีหรือไม่? เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สีสวย ออพชั่นเพียบ แต่เหลือข้อเสียอย่างเดียว

Salin

Salin

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi