Mazda 2 (มาสด้า 2) โฉมล่าสุด เป็นซับคอมแพ็คซีดานที่จำหน่ายมานานกว่า 9 ปีแล้ว โดยมีการปรับโฉมครั้งก่อนหน้าเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา
สำหรับปี 2023 นี้มีการปรับปรุงโฉมครั้งใหม่ ซึ่งโดดเด่นด้วยหน้าตาแบบใหม่ที่ได้รับการวิจารณ์จากหลายสำนัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากหน้าตาภายนอกของรถคันนี้มีอะไรบ้าง ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มิ.ย. นี้
สรุปความเปลี่ยนแปลงภายนอก
เครื่องยนต์คาดว่าเป็นบล็อกเดิม
ภายในเปลี่ยนการตกแต่งใหม่ตามสีตัวถัง
ยังไม่เผยออพชั่น แต่ควรจัดเต็มกว่าเดิม
รุ่นซีดานจะเป็นอย่างไรนะ
ลองสรุปความเปลี่ยนแปลงภายนอกกันก่อน
คาดว่า Mazda 2 ปี 2023 ในไทย จะแบ่งรุ่นย่อยคล้ายสเปกญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไป ได้แก่
2023 Mazda 2 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงภายนอกอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่กระจังหน้า กันชนหน้า และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ซึ่งจะต่างกันไปตามรุ่นย่อย รวมถึงสีภายนอกใหม่ที่เน้นความเป็นทูโทน ได้แก่ สีฟ้า Air Stream Blue Metallic และ สีเทา Aero Grey Metallic และสามารถเลือกสีหลังคาได้ 2 สี ได้แก่ สีดำ และ สีขาว
สำหรับด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าที่มีรูปร่างแบบเดิม แต่มีการดีไซน์ให้ต่างออกไป ได้แก่ กระจังหน้าแบบปิดที่มีสีเดียวกับตัวรถ และกระจังหน้าแบบรังผึ้งให้เลือก ช่องดักลมด้านล่างที่ดุดันขึ้น ล้ออัลลอยมีทั้งแบบ 15 นิ้วลายเดิม และลวดลายใหม่แบบทูโทน
ด้านท้ายมีการปรับเปลี่ยนการออกแบบมาใหม่ ด้วยแถบสีดำพาดยาวแทนที่โครเมียมเดิม นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นการแต้มสีรอบตัวรถทั้งด้านหน้าและท้ายเข้าไปด้วย
เครื่องยนต์คาดว่าเป็นบล็อกเดิม
สำหรับความเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องยนต์นั้นยังไม่มีข้อมูลออกมา แต่สำหรับ Mazda 2 ในประเทศไทยนั้นมาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อน 2 รุ่น ได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร
และเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร ซึ่งทั้งสองเครื่องยนต์ได้รับมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 5
ภายในเปลี่ยนการตกแต่งใหม่ตามสีตัวถัง
ภายในของ Mazda 2 ใหม่จะยังใช้ดีไซน์เดิมทั้งหมด แต่จะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสีสันให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยสี Pure White, Mirror Black หรือ Mint ขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก
และในบางรุ่นจะได้รับการเดินด้ายสีแดงทั้งในบริเวณเบาะนั่งและกรอบช่องแอร์อีกด้วย
ยังไม่เผยออพชั่น
สำหรับออพชั่นของ Mazda 2 ในปีนี้คาดว่าจะยังจัดเต็มเช่นเคย โดยอย่างน้อยในรุ่นท็อปจะต้องมีออพชั่นอย่าง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง ไฟเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), รองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย
ระบบความปลอดภัยก็ควรที่จะมีอย่างครบครันเช่นเคย ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA เป็นต้น ให้ในทุกรุ่นย่อย
ในรุ่นท็อปยังมีความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ประกอบด้วยระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360° View Monitor)
แต่ยังมีความหวังว่า ใน Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ปี 2023 นี้จะมีถุงลมรอบคัน ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า และเบรคให้อัตโนมัติมาให้เพื่อให้รถคันนี้แข่งขันกับคู่แข่งได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
รุ่นซีดานโฉมปัจจุบัน
รุ่นซีดานจะเปลี่ยนหน้าตาไหม
จากภาพที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ พบว่า ยังไม่มีภาพของ Mazda 2 ใหม่ในตัวถังซีดานสักที อาจมีความเป็นไปได้หลายประการ ตั้งแต่จะไม่เปลี่ยนหน้าตัวถังซีดาน ยกเลิกทำตลาดตัวถังซีดานไปเลย หรืออาจจะเป็นรุ่นใหม่ไปเลยก็ได้เช่นกัน
แต่นี่เป็นการคาดเดาเท่านั้น เพราะอีกไม่กี่วันก็จะมีการเปิดตัว 2023 Mazda 2 รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ลานหน้าสีฟ้า สยามสแควร์ซอย 7 และสยามสแควร์ ซอย 5 ในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม: 2022 Mazda 2 ดีหรือไม่? เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สีสวย ออพชั่นเพียบ แต่เหลือข้อเสียอย่างเดียว