2022 Subaru BRZ (2022 ซูบารุ บีอาร์แซด) รุ่นโปรดักชั่นเจนเนอเรชั่นใหม่ถูกจดสิทธิบัตรไว้ในประเทศออสเตรเลีย ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้
ภาพสิทธิบัตร 2022 BRZ ชุดนี้เผยหน้าตาที่ไม่แตกต่างจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รูปลักษณ์ยังคงเอกลักษณ์โฉบเฉี่ยวแบบรุ่นเดิมแต่เพิ่มเติมคือการใส่เส้นสายที่ทันสมัย ดีไซน์ซุ้มล้อใหญ่เฉียบคม และไฟหน้า-หลังที่สะดุดตามากขึ้น
ที่น่าสนใจก็คือภาพสิทธิบัตรในห้องโดยสารที่โชว์ตำแหน่งพวงมาลัยฝั่งขวาแบบที่ใช้ในออสเตรเลีย อังกฤษ ญี่ปุ่นและประเทศไทย บนคอนโซลมีหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.0 นิ้ว และมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7.0 นิ้ว
น้ำหนักตัวถังของ BRZ อยู่ที่ 1,276 กก. มากกว่าเดิมประมาณ 7 กก. ด้วยการใช้วัสดุอลูมิเนียมหลายจุดทั้งหลังคา ซุ้มล้อหน้า และฝากระโปรง โครงสร้าง Global Architecture แบบโมดูลาร์ถูกโมดิฟายด์ให้มีความแข็งแกร่งและตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีกว่าเดิม จุดเชื่อมซับเฟรมแบบเสริมแรงช่วยให้ด้านหน้ามีความเหนียวแน่นขึ้น 60% จึงรองรับการเลี้ยวจิกเข้าโค้งและแฮนดลิ่งบนทางตรง
ระบบขับเคลื่อนของ 2022 BRZ รุ่นใหม่เป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ เบนซิน 4 สูบนอน ขนาด 2.4 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ พละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 228 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 249 นิวตันเมตรที่ 3,700 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดิม
ก่อนหน้านี้ Subaru เคยวางเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2.4 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จไว้ใน Ascent (ซูบารุ แอสเซนต์), Legacy (ซูบารุ เลกาซี่) และ Outback (ซูบารุ เอาท์แบ็ก) ทำให้มีคำถามตามมาว่าทำไม BRZ ถึงไม่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเหมือนเพื่อนร่วมค่ายเดียวกัน
เว็บไซต์ Engineering Explained ทำการวิเคราะห์ว่าการเซ็ทอัพเกียร์แบบรอบจัดคือหนึ่งในเหตุผลที่ BRZ ยังคงใช้เครื่องยนต์ไร้เทอร์โบเพราะจะมีสมรรถนะการขับขี่เหนือกว่าและอัตราเร่งที่เร้าใจยิ่งกว่าด้วยความสามารถในการรีดรอบเครื่องยนต์ได้สูงกว่าที่ 7,500 รอบต่อนาที เทียบกับขุมพลังเทอร์โบซึ่งมีเรดไลน์อยู่ที่ 6,000 รอบต่อนาที
ขณะเดียวกัน การติดตั้งเทอร์โบไว้ใน BRZ ยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากบล็อกเครื่องยนต์ถูกติดตั้งในตำแหน่งต่ำกว่ารถรุ่นอื่น ๆ เพื่อช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงตัวรถต่ำลง เพิ่มแฮนดลิ่งและการควบคุมที่แม่นยำสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ขณะเดียวกัน เครื่องยนต์เทอร์โบยังมีน้ำหนักมากกว่าด้วย
ประโยชน์ข้อสุดท้ายของเครื่องยนต์ไร้เทอร์โบคือการตอบสนองต่ออัตราเร่งที่รวดเร็วกว่า ถึงแม้อาการ “รอรอบ” หรือ turbo lag ของเครื่องยนต์เทอร์โบยุคใหม่จะแทบไม่มีแล้วแต่ก็ยังไม่อาจตอบสนองได้เร็วเท่าเครื่องยนต์ปกติที่มีรอบจัดจ้าน
สรุปก็คือ Subaru เล็งเห็นว่าเครื่องยนต์แบบไร้เทอร์โบนั้นมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบโจทย์ต่อบุคลิกของ BRZ ได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อรถสปอร์ตคูเป้รุ่นนี้ออกจำหน่าย แน่นอนว่าจะมีสำนักแต่งนำเสนอชุดคิทเทอร์โบให้ลูกค้าเท้าขวาหนักได้เลือกติดตั้งกันอย่างแน่นอน
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}