เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนชอบสรรหาของแต่งเพิ่มความแรงให้กับรถยนต์ เนื่องจากแรงม้าอาจยังไม่พอ หรือแรงบิดอาจจะยังไม่ทันใจ แต่จะทำอย่างไรเมื่อไม่อยากยุงกับเครื่องยนต์เนื่องจากอาจหลุดประกัน?
การจูนกล่อง ECU จึงเป็นทางเลือกที่ดีในราคาที่สามารถควบคุมได้ มีหลายแบบหลายสำนักให้เลือกใช้ โดยเราจะมาดูกันว่าเจ้ากล่องนี้คืออะไร โดยยกตัวอย่างรถที่คนนิยมนำไปทำกันคือ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดี-แมกซ์)
Electronic Control Unit หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ECU เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดประมาณฝ่ามือ หน้าที่หลักทำงานคล้ายกับสมองของรถยนต์ มีหน้าที่รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ในตัวรถ นำมาประมวลผลเพื่อควบคุมการสั่งจ่ายเชื้อเพลิง ไปจนถึงการจุดระเบิดเครื่องยนต์
ต้นกำเนิดของมันพัฒนาขึ้นเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ตามมาตรฐานกฏการป้องกันมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ECU ทำให้เครื่องยนต์ปลอยมลพิษน้อยที่สุด กลับกันเครื่องยนต์ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน ECU ถูกพัฒนาให้ทำงานได้หลากหลายขึ้น รวมไปถึงการตรวจสอบสถานะการทำงานของอุปกรณ์อื่นๆ เช่นระบบอัดอากาศ (Turbo) ระบบปรับความยาวท่อร่วมไอดีแปรผัน ระบบวาล์วแปรผัน การทำงานของระบบปรับอากาศ พัดลมระบายความร้อน ระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงระบบกันขโมย (Immobilizer)
กล่อง ECU แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1. กล่อง Standard หรือกล่องเดิม ซึ่งถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน โดยข้อดีของกล่องเดิมคือ มีความสมดุล อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดี รวมถึงสามารถเข้าศูนย์เพื่อแก้ไขเมื่อมีปัญหาได้
2. กล่อง Modify หรือกล่องแต่ง ที่ถูกเขียนโปรแกรมเสริมจากค่ามาตรฐานของโรงงาน และมีการอัพเกรดโปรแกรมขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่เราใส่เพิ่มเข้าไปในเครื่องยนต์ ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมเช่น Nismo , Mugen , Mine’s เป็นต้น
3. กล่อง ECU ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ด้วยตนเอง เมื่อซื้อมาจะไม่มีการเขียนโปรแกรมมาให้ แต่จะมี Software เพื่อสามารถให้ผู้ใช้เขียนข้อมูลสั่งการระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้เอง หรือที่เรียกติดปากว่าการจูนกล่อง
ปัจจุบันนั้นเครื่องยนต์มักถูกจำกัดประสิทธิภาพและพละกำลังของเครื่องเอาไว้ ซึ่ง ECU จะเป็นตัวควบคุมการประหยัดน้ำมันเอาไว้ หมายความว่ารถยนต์ของเราจริง ๆ แล้วอาจมีกำลังซ่อนอยู่แต่ถูกจำกัดไว้
เพราะฉะนั้นการนำ ECU ไปรีแมพจะเป็นการตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความเร็วมากกว่า ทำโดยผู้เชี่ยวชาญตั้งโปรแกรมปละการทำงานของเครื่องขึ้นมาใหม่ ให้มีแรงม้าและแรงบิดที่เพิ่มขึ้น เป็นการปลดล็อคให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่
ยกตัวอย่างรถที่คนมักจะนำไปทำกันคือ Isuzu D-Max ที่เน้นการประหยัดน้ำมัน แต่ขึ้นชื่อเรื่องความอืด เมื่อนำไปจูนกล่องแล้วจะได้ม้าเพิ่มมาอีกประมาณ 50 ตัวขึ้นไป หรือแล้วแต่ที่เราอยากได้ แต่ก็จะมีราคาที่แพงขึ้น
โดยส่วนมากจะนำเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรไปทำกัน เนื่องจากว่ามีแรงม้าแค่ 150 เท่านั้น หากนำไปเพิ่มอีก 50 ก็จะได้ 200 แรงม้า มากกว่าเครื่อง 3.0 ลิตรที่มี 190 แรงม้าอยู่แล้ว อีกทั้งเครื่องยังทนมือทนเท้า จึงมีปัญหาน้อย
การ Remap นั้น จริง ๆ แล้วก็จะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากเครื่องยนต์ปกติมีการเซตอัตราไว้ให้คงที่ การเพิ่มแรงเข้าไปก็จะทำให้บริโภคน้ำมันมากกว่าเดิม
นอกจากนี้จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่วางใจได้ เข้าใจระบบ และยังต้องมีขอบเขต เนื่องจากหากเพิ่มพลังมากไปอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และยังต้องมีการทำการทดสอบวิ่งบนไดโนเพื่อดูผลอีกด้วย
ในด้านราคา ก็แล้วแต่สำนักและความแรงที่จัดให้ได้ หากนำไปให้ช่างจูนให้ที่ร้านก็จะอยู่ที่ 8,500 หรือถ้าเป็นกล่องของเจ้าดัง ๆ ที่สามารถเสียบได้เลยก็อาจจะอยู่ที่ 19,000 บาทขึ้นไป
หากใครนำไปจูนกันแล้ว ก็ควรจะยังต้องขับขี่อย่างระมัดระวังและปลอดภัยกับทั้งผู้ร่วมถนนและตัวเองด้วยนะครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}