Ford Ranger มีดียังไง ถึงได้ชื่อกระบะนิรภัย กับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่แค็ปเปิดได้เป็นครั้งแรกในไทย

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ถือเป็นกระบะที่ประสบความสำเร็จมากในไทย เพราะทำตลาดได้เพียง 3 เจนเนอร์เรชั่น ก็สามารถขึ้นมาติด Top 3 ยอดขายในปัจจุบัน เบียดแซงค่ายญี่ปุ่นหลายค่ายที่ทำตลาดมายาวนานกว่า ให้ตกอันดับลงไปได้

จนเป็นที่น่าจับตาว่า รถกระบะ Ford (ฟอร์ด) มันมีดียังไง ทำไมคนถึงยังติดใจกันมาก

ประวัติของกระบะ Ford Ranger

ต้องเริ่มจากการตัดสินใจก่อตั้งโรงงานออโต อลิอันซ์ จำกัด ที่ระยอง ในปี 1995 เพื่อผลิตรถในประเทศ รวมถึงรถกระบะอย่างจริงจัง โดยมีฟอร์ดเป็นเจ้าของร่วมกับ Mazda (มาสด้า) ทำการผลิตรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และ มาสด้า ไฟท์เตอร์ บี-ซีรีส์ ซึ่งแน่นอนว่ามีการใช้แพตฟอร์มพื้นฐานร่วมกัน ต่างกันตรงภายนอกและภายในบางส่วน 

ในปี 1998 ได้เปิดตัวรถกระบะ Ford Ranger เจนเนอร์เรชั่นแรกในไทย ทั้งแบบกระบะหัวเดี่ยว และแค็ป ในช่วงแรก ต่อมาได้เพิ่มรุ่น 4 ประตูตามกระแสนิยม มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยยังยึดดีไซน์กระจังหน้าจากรถเอสยูวี Ford Explorer ในยุคเดียวกัน มาใส่ในรถกระบะรุ่นนี้ ทำให้ดูมีราคา แตกต่างจากคู่แข่งค่ายเอเชีย

มาด้วยแนวคิด "กระบะนิรภัยคันแรกของไทย" ด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัย เอบีเอส และคานเหล็กนิรภัย
ซึ่งสร้างความคึกคักขึ้นในวงการรถกระบะ

และนับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ชื่อ ฟอร์ด เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศในเรื่องความแข็งแกร่ง ระบบนิรภัย รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 12 วาล์วที่แรงจัดทั้งต้นและปลาย

ในช่วงแรกกระบะแคปเป็นรถกระบะประเภทเดียว ที่สามารถใช้ในการโดยสารได้ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว 

จนกระทั่งช่วงปี 2000 หลายค่ายรถยนต์เริ่มหันมาทำกระบะแบบ 4 ประตู แต่ก็มีปัญหาราคาแพง และการมีประตูอีก 2 บาน ทำให้ต้องย่นระยะกระบะท้าย ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน

RAS บทพิสูจน์ความเหนือชั้น

Ford Ranger เจนเนอร์เรชั่นแรก จึงได้มีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในปี 2002 แก้เกมด้วยการไมเนอร์เชนจ์ กับออพชั่นแค็ปเปิดได้เป็นครั้งแรกในไทย ใช้ชื่อว่า Super Open Cab พร้อมกับหน้าตาใหม่ กระจังหน้ามีแถบเส้นแนวนอน อันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบจนถึงปัจจุบัน

โครงสร้างของรถกระบะในรุ่นซูเพอร์แคบ ใช้ระบบที่เรียกว่า RAS : REAR ACCESS SYSTEM บานเปิด เพื่อความสะดวก สบายสูงสุด ไม่มีเสากลาง และแค็ปด้านข้างสามารถเปิดออกได้ทั้ง 2 ด้านช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขนถ่ายสัมภาระในห้องเก็บสัมภาระพิเศษ

โดยทางวิศวกรบอกว่า แข็งแกร่งกว่ารุ่นธรรมดา ถึง 20 % และจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ระบบล็อค
และปลดล็อคจากด้านหน้า ภายในเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม ตำนานที่มา Suicide Door หรือประตูตู้กับข้าว กับความเป็นมาชวนขนหัวลุก

ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ให้ขึ้นลงได้ง่าย มีความครบครัน ราคาคบหาได้ กลายเป็นที่สนใจของคนไทย โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่ต้องการรถยนต์ใช้ได้ครอบจักรวาล ทั้งการทำงาน และใช้ชีวิตประจำวัน

มาสู่เจนที่ 2

ในปี 2006 ได้เปิดตัว Ford Ranger เจนเนอร์เรชั่น 2 เป็นการนำพื้นฐานเดิมมาพัฒนาใหม่ แก้ไขปัญหาการกินน้ำมัน เพิ่มการเกาะถนน และคงเอกลักษณ์แค็ปเปิดได้อยู่เช่นเคย เรียกว่าเป็นรุ่นสร้างชื่อให้กับฟอร์ด เพราะมีหน้าตาบึกบึนจนสามารถสร้างภาพลักษณ์ความแกร่ง ดูแข็งแรง ได้จริงตามโฆษณา จากนั้นก็มีการเพิ่มรุ่นยกสูง Hi-rid​er กับรุ่นแต่งตัวท็อป Wildtr​ak เข้ามาให้เลือกอีกด้วย

เข้าสู่เจนที่ 3

ในปี 2013 มีการเปิดตัว เจนเนอร์เรชั่นที่ 3 เป็นรุ่นที่แยกการพัฒนาจากมาสด้าแล้ว ด้วยพื้นฐานใหม่หมดจด แถมยังเซ็ตค่ามาเน้นความนุ่มหนึบ ให้ความแรงจากเครื่องดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร ที่ให้ความแรงสมกับการสูบน้ำมันโหด ๆ ต่อมาได้มีการไมเนอร์เชนจ์เมื่อปลายปี 2018 พร้อมการเปิดตัวรถกระบะความเร็วสูงครั้งแรกของไทย Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) ใช้เครื่องยนต์ที่แรงสุดในบรรดากระบะเมืองไทยทั้งหมด 

รุ่นปัจจุบัน

โฉมล่าสุดนี้นับเป็นการสร้างมาตรฐานให้รถกระบะหลายด้าน จุดที่เด่นสุดคือเรื่องความแรง ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo ใช้ในรุ่น Wildtrak 4×4 และ Raptor เป็นแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50.95 กก.-ม. ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เทอร์โบเดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 42.79 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที 

มีการใส่ระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking-AEB) ฯลฯ เมื่อรวมกับภาพลักษณ์ความเป็นอเมริกันสะสมมาตั้งแต่รุ่นแรก จึงไม่แปลกที่หลายคนนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ