ช่วงไขข้อข้องใจกับ GWM จะเปิดตัวรถอีกกี่รุ่นปีนี้ Tank จะมาไหม ตกลงแมวก็อปปี้ดีไซน์หรือไม่ มาหาคำตอบกัน!!!

Great Wall Motors (เกรทวอลล์มอเตอร์ส) เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย นับย้อนหลังไปตั้งแต่ต้นปี 2563 ก่อนที่จะใช้เวลาประมาณ 18 เดือน ในการเริ่มต้นสายการผลิตและส่งมอบรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตในโรงงานอย่าง Haval H6 HEV (ฺฮาวาล เอช6 เอชอีวี) ออกสู่ตลาด

นอกเหนือไปจากการเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่มาพร้อมวิธีการทำตลาด การขายและการรับจองรถแบบใหม่ที่ยืนยันว่าไม่เหมือนใครในท้องตลาดแน่นอน ทำให้เอช6 ประสบความสำเร็จ และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดซี-เอสยูวีเดือนล่าสุดได้ ตามคำกล่าวอ้างของผู้บริหารในค่าย

อย่างไรก็ตาม หากดูจากแผนงานที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ ต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ยังนักหนาสาหัสของเกรทวอลล์ เพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกมากในช่วงเวลาที่กำหนด หากไม่อยากที่จะผิดสัญญากับลูกค้าชาวไทย ที่เฝ้ารอการเปิดตัวสินค้าใหม่ของค่ายมาอย่างยาวนาน

อ่านเพิ่มเติม: 1st Impression 2021 Haval H6 HEV จัดเต็มทุกระบบ ปลอดภัยสุดในรุ่น

ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรทวอลล์ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด นำทีมผู้บริหารฝ่ายต่าง ๆ พูดคุยกับสื่อมวลชนรวมถึง AutoFun Thailand เพื่อตอบข้อสงสัยที่เกิดขึ้นมากมายหลายเรื่อง เพื่อตอกย้ำพันธสัญญาว่าแม้สถานการณ์จะยากลำบาก จีดับบลิวเอ็มจะเดินหน้าตามแผนงานต่อไป

รวมไปถึงการสรรหาสินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาในอนาคตมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถสัมผัสถึงความตั้งใจของบริษัทในการเข้ามาบุกประเทศไทย และตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยของค่ายตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างแน่นอน

จะเปิดตัวสินค้าและขยายเครือข่ายตามแผนงาน

แม้จะเปิดตัวรถรุ่นแรกของพวกเขาไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามีการดีเลย์แผนงานบ้างเล็กน้อย จะเห็นได้จากพาร์ทเนอร์สโตร์และการเลื่อนแคมเปญการจำหน่ายรถในช่วงแรก เมื่อมีคำถามว่าจะส่งผลกระทบต่อการเปิดตัวสินค้าอีก 3 รุ่นในปีนี้หรือไม่ คำตอบที่ยืนยันมาคือ จะไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นอน

"จริง ๆ แล้วภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ก็เคยมองเรื่องของการเลื่อนการเปิดตัวเหมือนกัน แต่ทางกรรมการผู้จัดการของเรา ยืนยันว่าเราจะต้องรักษาคำมั่นสัญญากับลูกค้าในประเทศไทย เรื่องการเปิดตัวรถ 4 รุ่นในปีนี้ จะเปิดทั้งราคาจำหน่าย ส่งมอบและเห็นรถวิ่งบนท้องถนนอย่างแน่นอน"

สำหรับรถยนต์รุ่นถัดไปที่จะเปิดตัวได้แก่ ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท) ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนหน้า โดยผู้บริหารระบุว่ารุ่นที่เข้ามาทำตลาดนั้นจะเป็นรุ่นท็อปที่สุด นั่นก็หมายความว่า จะเป็นเวอร์ชั่นตัวท็อปที่สุดในตลาด ทำให้คาดว่าน่าจะมาพร้อมระยะทางวิ่งไกลสุด 501 กิโลเมตร

และแม้ว่ารถยนต์รุ่นนี้จะมีปัญหาเรื่องของการส่งมอบที่ล่าช้าในประเทศจีน แต่กลับประเทศไทยแล้ว ทีมงานของออร่ายืนยันว่าได้ทำการจองสิทธิการผลิตรถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาไว้ก่อนหน้านี้ และได้รับการจัดสรรโควต้ามาได้ตามที่ต้องการทั้งหมด จึงมีความพร้อมที่จะเปิดตัวอย่างแน่นอน

ขณะที่สินค้าอีก 2 รุ่น ที่จะต้องเปิดตัวในปีนี้ ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ แต่ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างตามแผนงานที่วางเอาไว้ รวมถึงการเดินหน้าหาสินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งจะต้องดูความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยเป็นสำคัญ

ผู้บริโภคสนใจ Tank มาก มีโอกาสเป็นไปได้

สำหรับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ในเครือที่ยังไม่เคยมีแผนที่จะทำตลาดนั้น หากมีความสนใจของตลาดและผู้บริโภคต้องการมาก ก็จะต้องเร่งทำการศึกษาว่าสินค้าเหล่านั้นมีความน่าสนใจหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น รถในตระกูล Tank (แทงค์) ที่ดูเหมือนว่าผู้บริโภคในประเทศไทยจะชื่นชอบ

"จากที่เปิดตัวไปในงานมอเตอ์โชว์ที่เฉิงดู ก็มีผู้บริโภคสอบถามและมีฟีดแบ็คกับรถรุ่นนี้เข้ามาค่อนข้างมาก เราเองก็ต้องศึกษาว่าสินค้าเหล่านี้มีความเหมาะสมหรือไม่หากจะเอาเข้ามาทำตลาดในอนาคต ซึ่งยังคงตอบไม่ได้ แต่ถ้าดูแล้วน่าสนใจ เราก็พร้อมที่จะเดินหน้ากับสินค้าเหล่านี้ต่อ"

ณรงค์กล่าวว่าการหาสินค้ามาให้ตรงใจกับผู้บริโภคนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปริมาณหรือจำนวนรุ่นรถแต่อย่างใด แต่อยู่ที่การมองเทรนด์ของตลาด ทำให้เริ่มต้นด้วยสินค้ากลุ่มเอสยูวีพลังงานทางเลือก ตามมาด้วยรถไฟฟ้า และในอนาคต หากมีความต้องการเพิ่มเติม ก็สามารถหาโปรดักส์มาได้เช่นกัน

ดีไซน์ที่คล้ายกันของแมวรุ่นต่าง ๆ กับรถยุคเก่า

ในตลาดโลก มีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ต้นแบบและรถยนต์ใหม่หลายต่อหลายรุ่นของแบรนด์ในเครือเกรทวอลล์ ว่าได้รับแรงบันดาลใจหรือลอกเลียนแบบรถยนต์ที่โด่งดังในอดีตหลายต่อหลายรุ่น ผู้บริหารของจีเอ็มดับบลิวระบุว่านี่คือการลอกเลียนแบบเทรนด์ของโลกยานยนต์อนาคต

"ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทีมดีไซเนอร์ของเรานั้น หลายต่อหลายคนก็มีประสบการณ์ในการออกแบบรถยนต์ยุโรปมาก่อน และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เทรนด์การออกแบบรถยนต์ในโลกของเราจะไม่ได้เน้นไปแนวไซไฟมากอยู่แล้ว แต่จะต้องหาความลงตัวของการออกแบบและนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ได้"

ทีมงานของเกรทวอลล์ระบุว่าการผสานของนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นเรื่องของโลกยานยนต์อนาคต เข้ากับการออกแบบตัวรถใหม่ให้มีความเรโทรแบบย้อนยุค คือการนำเสนอสินค้าของบริษัทที่เป็นทิศทางที่มีการค้นคว้ามาแล้ว และก็จะเป็นแนวทางที่คิดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเดินหน้าไปเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม: ยังไม่ฟ้องก็ก็อปต่อ! ORA Ballet Cat แมวเต้นบัลเลต์ที่ยังเหมือน Volkswagen Beetle

แบกรับสต็อกฃดีลเลอร์ ที่มานโยบายราคาเดียว

อีกเรื่องที่น่าสนใจมากก็คือการทำราคาจำหน่ายของ Haval H6 HEV ด้วยนโยบายราคาจำหน่ายเดียวทั่วประเทศ ที่แม้หลาย ๆ ค่ายรถเคยระบุว่าจะทำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้จริงในท้ายที่สุด แต่เกรทวอลล์นั้นสามารถทำได้ ด้วยการกำหนดราคาจำหน่าย โปรโมชั่นและของแถมเดียวกันทั้งหมด

หัวใจในการทำโครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เรื่องแรกคือเรื่องของการบริหารจัดการด้านการจำหน่าย ที่ไม่มีการสต็อกรถยนต์ที่ดีลเลอร์ ทำให้ดีลเลอร์ไม่ต้องกังวลเรื่องของการผลักสต็อกสินค้าออกจากตัวเอง เนื่องจากกลัวค่าใช้จ่ายในการที่รถใหม่จอดเอาไว้เฉย ๆ เหมือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน การทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกรถ ตรวจสอบราคาจำหน่าย โปรโมชั่นและอื่น ๆ ล้วนถูกทำผ่านแอพพลิเคชั่นของ GWM ทำให้ลูกค้าทั่วประเทศได้รับข้อมูลพื้นฐานเดียวกันทั้งหมด ทำให้ดีลเลอร์สามารถเอาเวลาไปคิดเรื่องการพัฒนาการให้บริการได้อย่างเต็มที่

"การที่เราตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนั้น ก็มีข้อดีหลายประการ เช่น ดีลเลอร์เองก็ไม่ต้องแบกรับภาระอย่างการเลือกสีตัวรถ เมื่อไม่ต้องผลักตัวรถออกไปให้ลูกค้าก็ไม่ต้องทำแคมเปญแข่งขัน แต่ก็มีข้อที่ต้องแก้ไข เช่น อาจจะแต่งรถก่อนรับรถไม่ได้ เป็นต้น"

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวถูกใช้ในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก และถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยสินค้ารุ่นอื่น ๆ ในประเทศไทยก็จะใช้มาตรการดังกล่าวในการรับจองรถ และอาจจะมีการนำนโยบายเหล่านี้ไปปรับใช้ในประเทศอื่น ๆ ที่เป็นตลาดใหม่สำหรับเกรทวอลล์ได้ในอนาคต

ยินดีต้อนรับเพื่อนฝูงจากประเทศจีน

สำหรับกระแสการที่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนกำลังมีความต้องการที่จะเปิดตลาดในประเทศไทย และมีหลาย ๆ แบรนด์เริ่มแสดงความจริงจังในการทำตลาด ณรงค์กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากประเทศจีนนั้นมีความต้องการที่จะผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ออกสู่ตลาดโลกอยู่แล้ว

โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีความต้องการรถยนต์ที่สูงอยู่ด้วยจำนวนประชากรกว่า 600 ล้านคน แถมยังมีนโยบายทางการค้าที่ส่งเสริมการทำตลาด จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ประกอบการหลายรายแสดงความสนใจที่จะเดินหน้าเข้ามาทำตลาดในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย

"หากมองเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ของตลาด ผมเชื่อว่าทุกคนคงมองประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน เหมือนกับที่เกรทวอลล์มุ่งมั่นมาโดยตลอดว่าจะพัฒนาฐานการผลิตสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานการส่งออกไปทั่วโลก"

ปากหวานแบบนี้ ขอราคาแมวดีต่ำกว่าล้านบาทนะครับผม...