ส่อง NEW MG HS ไมเนอร์เชนจ์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่หน้าตา มาพร้อมออพชั่นดี ๆ ที่คนมีครอบครัวต้องชอบ

MG (เอ็มจี) ประเทศไทย ได้มีการเปิดตัว NEW MG HS (เอ็มจี เอชเอส) ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมหน้าตาใหม่ที่ดูสวยงาม สปอร์ตกว่าเดิม 

แต่นอกจากหน้าตาที่สวยขึ้นแล้ว เขายังมีการอัพเกรดออพชั่นใหม่ ๆ มาให้ในทุกรุ่นย่อย ที่เราจะพาไปดูว่าเขามีอะไรใหม่บ้าง

มีอะไรเพิ่มมาบ้าง?

สำหรับความเปลี่ยนแปลงของ NEW MG HS ทั้ง 3 รุ่น มีทั้งเพิ่มความสวยงาม และฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้จริง โดยสิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาในแต่ละรุ่นคือ

รุ่น C

• ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 7 นิ้ว

รุ่น D

• หลังคา Panoramic sunroof
• เบาะหนังดีไซน์สปอร์ตพร้อมปรับไฟฟ้าคู่หน้า ตำแหน่งคนขับปรัยได้ 6 ทิศทาง ตำแหน่งผู้โดยสาร ด้านหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง
• สีภายใน 2 Tone Monaco Blue และสีดำ
• กล้องรอบคัน แบบ 3 มิติ
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
• ระบบนำทางพร้อมภาพเสมือนจริง AR navigation
• กุญแจดิจิตอล

รุ่น X

• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 12 นิ้ว
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB

ซึ่งจากที่ดูแล้ว NEW MG HS รุ่น D ก็ดูมีความคุ้มค่าที่มากพอตัวสำหรับใครหลาย ๆ คน

ขึ้นราคาเล็กน้อย

สำหรับ NEW MG HS ไมเนอร์เชนจ์นี้ จะมีด้วยกันอยู่ 3 รุ่น พร้อมการขึ้นราคาเล็กน้อยในทุกรุ่น

ภายนอกสวยขึ้นเป็นกอง

สิ่งที่เปลี่ยนไปที่เห็นได้ชัดมากที่สุดของ NEW MG HS ก็คือกระจังหน้าแบบใหม่ทรง Digital Burning Grille ฝังรวมในกันชนหน้า ไฟหน้าใหม่ทรงเม็ดข้าว QUAD LED Projector และ Daytime Running Lights กันชนหน้า-ท้ายดีไซน์ใหม่

ด้านท้ายยังมาพร้อมกับไฟแบบ Full LED ท่อไอเสียคู่ สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล และล้ออัลลอยด์ลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว 

ภายในหรูหรา พรีเมี่ยมมากขึ้น

นอกจากการเปลี่ยนแปลงภายนอกแล้ว ภายในเองก็ยังเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เปลี่ยนเบาะนั่งใหม่เป็นทรงสปอร์ตวัสดุ Alcantara มีตั้งแต่ในรุ่น D ซึ่งเป็นแบบเดียวกับในรุ่น MG HS PHEV พร้อมสี Monaco Blue ขาว-น้ำเงิน ส่วนรุ่นเริ่มต้นอย่าง C ยังคงมีเพียงเบาะสีดำแบบเดียว

มี Panoramic Sunroof  เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคา ในรุ่น D ขึ้นไป เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และยังมี

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มีในทุกรุ่นย่อย
• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยหรือ Paddle Shift มีเฉพาะในรุ่น D เท่านั้น
• หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10 นิ้วในทุกรุ่นย่อย
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone ในรุ่น D ขึ้นไป
• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบกรองอากาศ PM 2.5 ในทุกรุ่นย่อย
• กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ  ในรุ่น D ขึ้นไป
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start ในทุกรุ่นย่อย
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Andriod

เครื่องยนต์เดิม

ในด้านเครื่องยนต์นั้นยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร

ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด มีรูปแบบการขับขี่ 4 รูปแบบได้แก่ Normal, Eco, Sport และ Super Sport

ระบบความปลอดภัยใหม่ 

ในโฉมนี้ได้มีการเพิ่มระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า จะทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW 

ข้อเสนอสุดพิเศษ

สำหรับผู้ต้องการเป็นเจ้าของ NEW MG HS จะมีโปรโมชั่นดี ๆ คือ 

• ดอกเบี้ยพิเศษ 0.90% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน*
• หรือดาวน์เริ่มต้น 5%*
• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี*
• ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร*

*เงื่อนไขเป็นไปที่บริษัทฯ กำหนด

รุ่นไหนเหมาะกับใคร?

เท่าที่มองออพชั่นแล้ว หากคุณไม่ได้เป็นคนคิดมากเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย NEW MG HS รุ่น D ก็ดูจะเพียงพอต่อการใช้งาน 

ทั้ง เบาะไฟฟ้าคนขับ 6 ตำแหน่ง ผู้โดยสาร 4 ตำแหน่ง, กล้องรอบคัน, ระบบป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา และระบบป้องกันอุบัติเหตุด้านท้ายรถ (BSD, RCTA, LCA, DOW)

ที่เรียกได้ว่าจะต้องถูกใจคนมีครอบครัวแน่นอน แต่ถ้าใครต้องการความปลอดภัยที่มากกว่านี้ เพิ่มเงินอีกเพียง 40,000 บาทแล้วไปหารุ่น X ได้เลยครับ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mgcars.com

[Sponsored by MG Thailand]