ลองขับ MG HS PHEV รุ่นรองท็อป เหมาะกับพ่อบ้านซิ่ง และครอบครัวไฮเทค ในงบ 1.299 ล้าน

ลองขับ NEW MG HS PHEV (นิว เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รุ่น D ตัวรองท็อปราคา 1.299 ล้าน ได้ออพชั่นเกินความคาดหมาย ตอบโจทย์ทั้งความแรง และความหล่อ อุปกรณ์ความปลอดภัยเพียงพอแม้ไม่ใช่รุ่นท็อป

NEW MG HS PHEV เอสยูวีขนาดกลาง ที่เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำตลาดเมืองไทยด้วย 2 รุ่นย่อย เริ่มต้นด้วยรุ่น D ราคา 1.299 ล้านบาท และรุ่นท็อป X ราคา 1.379 ล้านบาท ซึ่งการลองขับครั้งนี้เราจงใจเลือกรุ่นรองท็อป เพื่อค้นคำตอบว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นท็อป ก็ได้ออพชั่นที่จำเป็นครบและคุ้มหรือไม่

ภายนอก-ใน แทบไม่ต่างจากรุ่นท็อป

NEW MG HS PHEV รุ่นย่อย D ดูด้วยตาเปล่าแล้วไม่มีความแตกต่างจากรุ่นท็อป คงความสวยงามด้วยไฟหน้าแถบสีฟ้า ล้อแม็กซ์ขนาด 18 นิ้วแบบปัดเงา ขับไปไหนก็มีแต่คนมองออกว่าเป็นรุ่นไฮบริด ที่สำคัญคือ ถ้าเลือกสีตัวถังเฉดขาวจะได้การตกแต่งภายใน 2-Tone Monaco Blue โทนขาวสลับฟ้าเหมือนรุ่นท็อปแล้ว เพิ่มความสว่าง กว้าง และดูแพง เหมาะสำหรับคนชอบดีไซน์สวยงาม ที่ยากจะหาจุดติเรื่องการออกแบบจริง 

ลองขับแบบพ่อบ้านใจร้อน

เมื่อลองขับครั้งแรก ก่อนอื่นเราลองอัตราเร่ง ซึ่งพบว่ามีแรงดึงดีตั้งแต่ออกตัว ไม่มีความกระชาก และมีความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ต้องการเร่งแซงในความเร็วจาก 100 - 120 เร่งจนสุดที่ 140 กม./ชม. ก็ทำได้ไม่มีปัญหา 
การลองขับ NEW MG HS PHEV ยังได้ลองขับขึ้นเขา พบว่ามีแรงบิดช่วงขึ้นทางชันก็ทำได้ดี การทำงานของเกียร์ เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ผสานกันได้ต่อเนื่อง ไร้การกระตุกในช่วงต่อจังหวะเกียร์ เพิ่มความมั่นใจว่ามีแรงเหลือเฟือในการไต่ โดยไม่ต้องใช้รอบสูงก็สามารถลากจูงรถน้ำหนักตันครึ่ง ให้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนเสียงของเครื่องยนต์ไม่ดังจนเกินไป

โหมดการขับขี่มีความแตกต่างชัดเจน 

NEW MG HS PHEV มีโหมด eco หากเน้นการขับแบบประหยัด เมื่อเราเลือกใช้แล้วพบว่า คันเร่งก็ไม่ดึงเกินไป และเมื่อเราใช้ร่วมกับระบบชาร์จกลับ KERS ซึ่งตั้งได้ 3 ระดับ ก็รู้สึกได้ว่าเมื่อถอนคันเร่งแล้ว จะมีการหน่วงของความเร็วลงเพื่อชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้อีกด้วย
การลองใช้โหมด Normal พบว่ามีอัตราเร่งจะดึงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ ซึ่งโหมด Normal จะเป็นโหมด Standard ค่าเริ่มต้นทุกครั้งที่เราเริ่มสตาร์ทรถทุกครั้ง หากต้องการความตื่นเต้นเล็กน้อยก็ยังมีโหมด Sport ทำอัตราเร่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะกดคันเร่งเพียงเล็กน้อย ถ้าต้องการความสนุกสนานในการขับขี่ ต้องโหมดนี้เลย

โหมดสปอร์ดสุด กับไฟฟ้าล้วน

NEW MG HS PHEV ได้ใส่โหมด Super Sport ต้องกดปุ่มนี้ที่พวงมาลัย ให้เน้นการใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพ ทั้งเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานเต็มที่เพื่อให้เราได้สมรรถนะที่เต็มสมรรถนะที่สุดของตัวรถ คันเร่งกระชับ เรียกแรงได้ตามเท้ากด เรียกว่าพลิกหน้ามือจากโหมดแรกเริ่มตอนสตาร์ทเครื่องเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีโหมด EV เป็นการขับเคลื่อนด้วยแบตเตอร์รี่ 100% ให้อารมณ์แบบขับรถไฟฟ้า ซึ่งถ้าแบตเตอร์รี่เต็ม 100% สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ได้สูงสุดถึง 67 กม. เลยทีเดียว ซึ่งเราลองใช้ไฟฟ้าล้วนขึ้นเนินด้วย โดยอาศัยข้อดีด้านแรงบิดแบบไม่รอรอบ ทำให้ขึ้นเขาง่าย พร้อมผลพลอยได้ตรงที่ความเงียบ ทำให้เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมอีกด้วย

ช่วงล่างนิ่มและหนึบพร้อมกัน

การลองขับ NEW MG HS PHEV ยังได้ลองความสามารถช่วงล่าง MG HS PHEV ด้วยการอัดโค้งอย่างไม่เกรงใจเสียงร้องของยาง พบว่ารถรุ่นนี้มีการปรับเซ็ทมาให้รู้สึก หนึบ และ เฟิร์ม ไปพร้อมกัน ให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตหรู โดยเฉพาะช่วงที่ใช้ความเร็วสูง ๆ ตัวช่วงล่างทำให้เรามั่นใจในการควบคุมได้เป็นอย่างดี

แม้ช่วงล่างจะให้อารมณ์สปอร์ต แต่เมื่อสวมบทเป็นผู้โดยสาร กลับไม่ได้รู้สึกว่ามันสะเทือนเกินไป เพราะถูกเซ็ตค่าให้รับน้ำหนักแบตเตอร์รี่ อาการเต้นของช่วงล่างมีช่วงยืดนิดเดียว ซึ่งแทบจับอาการไม่ได้เลย ทำให้ตัวรถไม่รู้สึกความลอยหรือร่อนแม้แต่น้อย ช่วยให้ครอบครัวไม่เมารถในการขับทางไกลความเร็วสูง

อ่านเพิ่มเติม : ราคา 2022 New MG HS และ MG HS PHEV โฉมไมเนอร์เชนจ์เริ่มต้น 939,000 - 1,379,000 บาท

รุ่นรองท็อป คุ้ม ครบเครื่อง

NEW MG HS PHEV ยังคงชื่อเสียงด้านคุณสมบัติภายในที่กว้าง ทำให้การนั่งเดินทางไกลเป็นไปอย่างสบาย ถ้าไม่นับเครื่องเสียง Boss แล้วล่ะก็ รุ่นรองท็อปนี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับใครหลายคน รับรองว่าคุ้มสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ที่ใช้งานครอบคลุมทั้งแบบพ่อบ้านซิ่งคนเดียว หรือครอบครัวรักสบาย ครบเครื่องสุดในรุ่นนี้แล้ว

เทคโนโลยีมีดี

NEW MG HS PHEV มีฟังก์ชันที่ล้ำๆ หลายอย่าง และใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็น AR Navigation ระบบนำทางอัจฉริยะ ที่แสดงเส้นทางด้วยภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถ ซึ่งช่วยลดโอกาสการขับเลยได้มากเลยทีเดียว มี Digital Key ที่สามารถสั่งการทำงานผ่านโทรศัพท์ที่เป็นสมาร์ทโฟนได้ เพียงดาวน์โหลด MG Thailand แอพพลิเคชัน ลงมือถือ แถมยังรับ-ส่งกุญแจโดยใช้โค้ด เพื่ออนุญาตให้ผู้อื่นใช้งานรถได้ด้วย ซึ่งปกติแล้ว เทคโนโลยีเหล่านี้จะอยู่ในรถหรู สามารถเชื่อมต่อกับรถด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สามารถดูสถานะของรถได้แบบ Real Time เลย หากเปรียบเทียบสิ่งที่ได้ กับเงินที่จ่าย NEW MG HS PHEV รุ่น D ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นนอน

อ่านเพิ่มเติม : สรุป 5 ไม้ตายเด็ดของ NEW MG HS PHEV ที่โดนใจทั้งคนขับและผู้โดยสาร

[Sponsored by MG Thailand]