2019 Subaru WRX 3 จุดเด่นจุดด้อยที่คุณไม่อาจมองข้าม

2019 Subaru WRX เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตคาร์ที่ได้รับการยอมรับจากตลาดรถยนต์มาอย่างยาวนานถึงสมรรถนะอันดีเยี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของ Subaru ที่ทำให้รถตระกูลนี้ เป็นรถในฝันของใครหลายคนที่อยากได้มาครอบครองและต่อไปนี่คือจุดเด่นจุดด้อยที่เราควรรู้เกี่ยวกับ Subaru WRX

จุดเด่น

1.เอกลักษณ์ที่ยังดำรงอยู่

ในขณะที่ทุกแบรนด์เปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ แต่สำหรับ Subaru มีคำกล่าวว่า “เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีอยู่แล้วไปทำไม” นั่นจึงทำให้รูปร่างหน้าตาของ Subaru WRX มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ละรุ่นของ WRX ดูละม้ายคล้ายกันและทำให้เชื่อได้ว่าแม้คุณจะซื้อรุ่น นี้ไปอีก 3 ปีก็ยังดูไม่ตกรุ่นมากนัก

อีกทั้งระบบความปลอดภัยอย่าง  Symmetrical AWD ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ขณะที่ระบบความปลอดภัย ทาง Subaru ยังใส่ระบบ EyeSight  Assist Monitor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัย ของทาง Subaru มาครบครันไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วพร้อมปรับความเร็วอัตโนมัติ และระบบควบคุมรถอยู่ในเลน ยังใส่มาให้ครบครัน  อีกทั้งเครื่องยนต์สูบนอน บ็อกซ์เซอร์ ก็ยังขึ้นชื่อในเอกลักษณ์ความแรงมาอย่างยาวนาน และผ่านการทดสอบมาจากสนามแข่งสุดโหดมามากมายจนถึงปัจจุบัน น่าจะเป็นเครื่องการันตีได้ว่า 2019 Subaru WRX เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่า

2.แรงแต่ประหยัดพลังงาน

Subaru WRX มาด้วย เครื่องยนต์ ขนาด 1,998 ซีซี 268 แรงม้า ในขณะที่รุ่นลงท้ายด้วย STI ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดนั้นใช้ เครื่องยนต์ขนาด 2,457 ซีซี 300 แรงม้า หากดูตัวเลขใครหลายคนคงอยากขยับมาเล่นรุ่น STI แต่จุดที่ควรจับตามองอีกจุดหนึ่งนอกจากพละกำลังเครื่องยนต์ก็คือเรื่องอัตราการกินเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างห่างกันพอสมควร ในรุ่นลงท้าย STI มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงอยู่ที่ 8.9 กม./ลิตร

ในขณะที่ WRX ที่ไม่มีรหัสต่อท้ายมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงอยู่ที่ 11.6 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี กับแรงม้าที่มากกว่า 200 ตัวแล้ว Subaru WRX มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่น่าประทับใจอย่างมากซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับอัตราการใช้เชื้อเพลิงของรถซีดานที่ใช้งานกันอยู่ในชีวิตประจำวัน และนั่นหมายความว่าคุณสามารถขับรถสปอร์ตคาร์ ในชีวิตประจำวัน ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าน้ำมันมากนัก และหากต้องการความสนุกก็สามารถเค้นแรงม้า 200 กว่าตัวให้อยู่ในการควบคุมได้อย่างไม่ยากเย็น

3.ความคลาสสิก

Subaru เป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่สร้างแบรนด์ของตัวเองออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่โทนสีและโลโก้ การดีไซน์ตัวรถทั้งคันอย่างมีลำดับพัฒนาการ ช่วยให้ผู้ใช้งานรถ Subaru WRX ไม่รู้สึกว่าพวกเขาถูกทิ้งห่างจากดีไซน์รถรุ่นใหม่ที่ออกมามากนัก เมื่อทุกคนเห็นท้ายรถสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่  และกระจังหน้าก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือ Subaru เป็นครอบครัวเดียวกัน

จากภายนอกมาสู่ภายในการออกแบบยังความเป็นรถแรลลี่คาร์ ทางฝุ่น แต่ถูกปรับให้มีความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ทั่วไปมากขึ้น เบาะนั่งไม่ใช่แบบสปอร์ตเหมือนที่ใช้ในรถแข่ง แต่ก็มีความนุ่มกระชับได้อารมณ์ไม่แตกต่างกันเหมาะใช้ในชีวิตประจำวันและยังขับสนุกได้เมื่อต้องการ แผงเรือนไมล์ หน้าจอแสดงผลบอกสถานะการทำงานของรถเท่าที่จำเป็นสำหรับรถรุ่นใหม่ อย่างน้อยให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ในราคาที่จ่ายไปอย่างเหมะสม  ไม่ว่าจะเป็นเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบเครื่องเสียงแบบมีหน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto มีระบบลำโพงเสียง Harmon Kardo

ระบบเปิดไฟหน้าและปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติ ,กระจกมองหลังระบบหรี่แสงอัตโนมัติ ,ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ,ระบบช่วยตรวจสอบจุดบอด ,ระบบแฮนด์ฟรีรองรับ Bluetooth ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้ยังมีความน่าสนใจมากกว่าเครื่องบ็อกซ์เซอร์และระบบช่วงล่างแบบเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันรถแรลลี่

จุดด้อย

1.มีชื่อเสียงยอมรับเฉพาะกลุ่ม

Subaru เข้าสู่วงการแข่งขันรถแรลลี่ จนทำให้มีชื่อเสียงในเรื่องสมรรถนะเป็นที่ยอมรับของวงการรถยนต์ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามรับชม รายการแข่งขัน หรือได้ยินผลการแข่งแต่ละสนาม แบรนด์ Subaru กับรุ่น WRX ก็อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาพวกเขามากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์เจ้าตลาดเหมือนกับ Toyota หรือ Honda ที่จับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป และคว้าชัยชนะในสนามแข่งอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้กระทั่ง Mercedes Benz ก็อาจจะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมากกว่า จากชัยชนะในรายการแข่งขันรถแข่งฟอร์มูล่าวันที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก ดังนั้นเมื่อคุณคิดจะซื้อรถ Subaru WRX คุณต้องแน่ใจว่ามีคำตอบที่ดีพอสำหรับพวกเขาเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น

2.เทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง

ในทุก ๆ ปีค่ายรถยนต์จะออกเทคโนโลยีใหม่ใส่ในรถของตัวเอง บางปีอาจจะเป็นเรื่องระบบความปลอดภัย เครื่องยนต์ หรือไม่แล้วก็ออกรถดีไซน์ตัวรถใหม่ทั้งคัน (แม้บางรุ่นจะใช้เครื่องยนต์เก่าก็ตาม) ก็ยังถือว่ามีดีไซน์ที่แปลกใหม่ แต่สำหรับ Subaru แล้วการเปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมที่ดีอยู่คงไม่ใช่แนวทางของพวกเขาทำให้สายตาคนภายนอกอาจมองว่าเครื่องบ็อกซ์เซฮร์เป็นเทคโนโลยีเก่าที่ไม่ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติม แต่อันที่จริงแล้วเครื่องบ็อกซ์เซอร์ของทาง Subaru มีการพัฒนามาโดยตลอด ไม่ต่างจากเครื่องสูบแนวตั้ง หรือเครื่องสูบแนวเฉียงหรือสูบวี เพียงแต่ชื่อเสียงในเรื่องการเครื่องยนต์ รหัสใหม่ของทาง Subaru เข้าไม่ถึงผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าทั่วไปอย่างแพร่หลายมากนัก

3.เครื่องมีปัญหาหาต้องเข้าศูนย์บริการเท่านั้น

อีกจุดหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของ Subaru WRX ก็คือเรื่องการซ่อมบำรุง ที่ผู้ซื้อต้องทำใจอย่างหนึ่งว่าหากเครื่องยนต์ และระบเกียร์มีปัญหาไม่ว่าจะอยู่ในระยะรับประกันหรือนอกระยะรับประกัน คุณต้องเข้าศูนย์ของทาง Subaru เพื่อให้ช่างที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเครื่องบ็อกซ์เซอร์เท่านั้น ต่างกับแบรนด์เจ้าตลาดที่ใช้เครื่องสูบแนวตั้ง ซึ่งช่างเครื่องสามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจระบบและตำแหน่งการทำงานของเครื่องยนต์ได้แม้จะเป็นเครื่องต่างค่ายกันก็ตาม ทำให้ผู้ใช้รถสปอร์ตแบรนด์อื่นมีตัวเลือกในการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์และปรับแต่งการทำงานเครื่องยนต์ได้มากกว่าทาง Subaru นั่นเอง