รู้จัก Lamborghini P140 บรรพบุรุษที่ถูกลืมของ Gallardo และ Huracan ที่ไม่เคยได้ผลิตจริง

  • รูปทรงง่าย ๆ แต่ได้ใจ
  • ภายในที่ยังขาดเรื่องคุณภาพ
  • เป็นรถที่ใช่ ในเวลาที่ผิด

Lamborghini P140 หนึ่งในรถจากค่ายกระทิงดุซึ่งน้อยคนนักที่จะเคยได้ยิน สร้างขึ้นในยุค 1980 ซึ่งการเคยมีอยู่ของรถคันนี้ทำให้มีมรดกบางอย่างที่ทิ้งไว้ให้กับรถรุ่นถัดไป และอาจเป็นต้นแบบของรถสปอร์ต V10 อย่าง Gallardo และ Huracan ก็เป็นได้ 

สำหรับ Lamborghini P140 เกิดขึ้นในช่วงที่ค่ายกระทิงดุยังไม่ได้ควบรวมกิจการกับ Audi โดยรถคันนี้เริ่มสร้างในปี 1987 ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนให้ความคิดเห็นว่า Lamborghini ในยุคนั้นที่ยังยืนด้วยลำแข้งของตัวเองนั้นดูเป็น “ของแท้” มากกว่าในปัจจุบัน

เปิดฉาก Lamborghini เซกเมนต์ใหม่

ในขณะนั้น Lamborghini ทำตลาดรถสปอร์ตเพียง 2 รุ่น ได้แก่ สปอร์ตรุ่นเล็ก Lamborghini Jalpa เครื่อง V8 และรุ่นพี่ใหญ่ Lamborghini Countach เครื่อง V12 ต่อมาในช่วงปลายยุค 1980 Lamborghini ต้องการสร้างรถสปอร์ตที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Jalpa และ Countach 

ซึ่งหากดูจากแนวคิดนี้ เหมือนว่าค่ายกระทิงดุจะคิดเรื่องนี้มานานก่อนจะควบรวมกับค่ายสี่ห่วงเสียอีก

สำหรับเรื่องของเครื่องยนต์ แชสซี ความเร็วสูงสุด และราคาของ P140 ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการเป็นรุ่นที่รองจาก Countach ขณะเดียวกันรถสปอร์ตที่เล็กกว่าอย่าง Jalpa ก็ค่อย ๆ ถูกลดความนิยมไป

แต่การดีไซน์รถคันนี้มีความท้าทายอยู่ไม่น้อย เพราะต้องใช้ดีไซน์เนอร์ที่คุ้นเคยกับภาษาการออกแบบของ Lamborghini อยู่แล้ว และสามารถรวมดีไซน์ภายนอกที่เคยมีของค่ายกระทิงดุมาย่อให้เล็กลงมากพอที่จะแทรกใต้รุ่นพี่ใหญ่อย่าง Countach ได้

ดีไซน์เนอร์ของ P140 จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Marcello Gandini ซึ่งเขาเป็นผู้ออกแบบรถที่เป็นไอคอนิกของ Lamborghini มามากมาย เช่น Lamborghini Miura, Espada, Diablo ในเวลาต่อมา และ Countach รวมถึง Lancia Stratos และ Renault 5 Turbo

รูปทรงง่าย ๆ แต่ได้ใจ

Gandini เริ่มต้นด้วยการออกแบบในรูปทรงลิ่มแบบทั่วไป ซึ่งทำให้นถทรงนี้กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในอีก 15 ปีถัดมากับ Gallardo

หลังจากเริ่มต้นด้วยรูปร่างแบบพื้นฐานแล้ว Gandini ออกแบบให้กระจกข้างมีความดุดัน ช่องอากาศขนาดใหญ่สำหรับเครื่องยนต์ที่ด้านหลัง ไฟหน้าป๊อบอัพแบบคลาสสิก และล้ออัลลอยปัดเงาหกก้าน

ดีไซน์ภายนอกของตัวรถนำหลายส่วนมาจาก Countach และรถต้นแบบอย่าง P132 ซึ่งจะกลายเป็น Diablo ในอนาคต 

การทดลองออกแบบด้วยรูปทรงง่าย ๆ ของ Gandini ทำให้ P140 ดูเหมือน Gallardo ในยุค 1980 ไม่มีผิด และอีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า P140 คือ Gallardo นั่นคือเครื่องยนต์

Lamborghini P140 นั้นมาพร้อมเครื่องยนต์ V10 ขนาด 4.0 ลิตร โดยมีวาล์วสี่ตัวต่อหนึ่งกระบอกสูบ วางกลางและขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น

เครื่อง V10 ดังกล่าวมาพร้อมกำลังสูงสุด 372 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิด 390.5 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ฉีดเชื้อเพลิงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเครื่องยนต์ที่ทำใหม่ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาออกแบบและสร้างเพียง 7 เดือนและขึ้นชื่อว่ามีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก

เครื่องยนต์ใหม่นี้ช่วยให้ P140 มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 5 วินาทีในตัวถังแชสซีที่ทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และมีความเร็วสูงสุด 295 กม./ชม. เมื่อเทียบกับในปี 1987 ถือว่ารถคันนี้เร็วมาก ๆ 

ซึ่งรุ่นเรือธงอย่าง Countach 5000S Quattrovalvole ตัวแรง ยังสามารถทำ 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.7 วินาทีเท่านั้น

ภายในที่ยังไม่ได้คุณภาพ

หากลองดูที่ภายในของรถ เราจะพบว่าคุณภาพและงานประกอบของการตกแต่งภายในของ Lamborghini ในยุคนั้นไม่ได้ดีเท่ากับในปัจจุบันที่ควบรวมกับ Audi ซึ่งรุ่นเรือธงอย่าง Countach นั้นก็ไม่ได้มีคุณภาพการตกแต่งภายในที่ดีมากเช่นกัน 

ภายในของ P140 เราจะเห็นพวงมาลัยและคันเกียร์ที่นำมาจากรุ่นพี่อย่าง Countach แต่จะต่างกันตรงที่รถรุ่นพี่จะมีเกียร์เพียง 5 สปีด ส่วน P140 จะเป็นเกียร์ 6 สปีด

ความแตกต่างระหว่าง P140 กับ Countach อีกอย่างหนึ่งคือน้ำหนักรถที่ต่างกันเพียง 14.5 กก. โดย P140 มีน้ำหนักที่ 1,286 กก. ส่วน Countach หนัก 1,300.5 กก. จึงอาจเดาได้ว่าสองคันนี้มีการขับขี่ที่คล้ายกัน

ผลิตออกมาแต่รถต้นแบบเพียงไม่กี่คัน

ด้วยการบันทึกประวัติที่ไม่แน่ชัดของ Lamborghini ก่อนช่วงที่ Audi จะเข้ามา ทำให้ไม่แน่ชัดว่ามีรถต้นแบบของ P140 ผลิตออกมากี่คัน (ประมาณ 3-4 คัน) โดยมีอย่างน้อยหนึ่งคันที่มาพร้อมฟังก์ชั่นแบบสมบูรณ์ 

ต่อมาจะเป็นรถต้นแบบ P140 คันสีส้มที่เอาไว้ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ V10 ที่สนาม Nardo Ring และอีกคันจะเป็นรถโปรโตไทป์แบบเซมิฟังก์ชั่น หรือใช้งานได้เพียงสิ่งที่กำหนดไว้ ที่มาพร้อมสีขาว โดยในเวลานั้นดูเหมือนว่า P140 จะถูกผลิตจริงในอีกชื่อหนึ่ง

แต่แล้ว Lamborghini ก็ต้องพับโครงการนี้ไปด้วยปัญหาด้านการเงินของบริษัท รวมถึงมีโครงการพัฒนารถรุ่นใหม่ในขณะนั้นอย่าง Diablo เพื่อมาแทนที่ Countach ที่ใช้เงินไม่น้อย จึงทำให้ค่ายกระทิงดุต้องเลือกพัฒนารุ่นที่จะสร้างสภาพคล่องให้กับบริษัทได้ในระยะยาว

รถที่ใช่ ในเวลาที่ผิด

หลังจากนั้น Lamborghini ก็ยังไม่หยุดที่จะสร้างรถสปอร์ต V10 โดยในปี 1995 ได้สร้างรถต้นแบบขึ้นมาคือ Lamborghini Cala แต่ก็ยังไม่ได้สร้างจริง ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ Audi จะมาซื้อไม่กี่ปีเท่านั้น

จึงยังเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของ Lamborghini P140 ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลในด้านปรัชญาการออกแบบกับ Gallado ไม่มากก็น้อย หลังจากนั้น Lamborghini ถูกซื้อกิจการไปโดย Audi ในปี 1998

แต่สิ่งที่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ Lamborghini ถูกซื้อกิจการไปโดย Audi นั่นคือคุณภาพของงานประกอบภายในรถที่ดีขึ้นจากแต่ก่อนมาก 

ทำให้คนที่ขับ Lamborghini ในยุคใหม่ไม่ต้องทนกับพวงมาลัยและคลัตช์ที่แข็ง และทัศนวิสัยที่ไม่ดีนัก จึงมองได้ว่า การที่ค่ายกระทิงดุอยู่ภายใต้ชายคาของ Volkswagen Group ทำให้ Lamborghini มีอะไรที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ในปัจจุบัน Lamborghini Huracan Sterrato ถือเป็นรถรุ่นสุดท้ายในสายการผลิตของค่ายกระทิงดุที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ต้องคอยดูกันว่ารถสปอร์ตรุ่นเล็กของค่ายกระทิงดุในอนาคตจะยังคงมี DNA ของ P140 อยู่หรือไม่ หรืออาจจะกลายเป็น SUV ตามสมัยนิยมไปเลยก็ได้

อ่านเพิ่มเติม: Lamborghini เผย ทำไมยังไม่เปิดตัวกระทิงไฟฟ้า และเหตุใดจึงพัฒนาเชื้อเพลิงสังเคราะห์

ชมคันจริงรถในตำนาน

หากใครต้องการชมคันจริง Lamborghini P140 สามารถไปได้ที่ Museo Lamborghini หรือ Lamborghini Automobile Museum ที่เมือง Sant'Agata Bolognese, Emilia-Romagna, Italy ได้เลย โดยจะเป็นการจัดแสดงรถต้นแบบสีขาวคันที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : เปิดประวัติ! Lamborghini ค่ายรถซูเปอร์คาร์ที่ถือกำเกิดจากความแค้นที่มีต่อ Ferrari

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Lamborghini Huracan

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

Lamborghini Huracan Super Trofeo สุดยอดรถแข่งรายการ Thailand Super Series

ข่าวล่าสุด

เปิดเบื้องหลังการซ่อมตัวถังรถหรูในไทย วิธีพ่นและอบสีร้อน ไม่กระทบแบต Hybrid เหมือนใหม่จากโรงงาน

เปิดดูเบื้องหลังศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังของ Mercedes-Benz ในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยอบสีรถ ไม่กระทบกับระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ใหม่ ศูนย์บริการของ Mercedes-Benz ที่รับซ่อมตัวถังได้ด้วย มีไม่กี่แห่งในไทย หนึ่งในนั้นอยู่ที่ชลบุรี เป็นสาขาใหม่ของ เบนซ์ไพรม์มัส ที่อำนวยความสะดวกคนอยู่ต่างจังหวัด และอยากซ่อมตัวถังกับศูนย์ที่ได้มาตรฐานแบบโรงงานผู้ผลิต เรามาดูกันว่าเบื้องหลังการซ่อมนี้ จะใกล้เคียงของเดิมจากโรงงานแค่ไหน ศูนย์บริการเบนซ์ไพรม์มัสสาขาใหม่ที่ชลบุรีนี้ รองรับงานซ่อมสี และตัวถัง เดือนละ 1

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Lamborghini Huracan
เช็คทันที