Subaru คิดค้นระบบเตือนเมื่อถูกขับจ่อท้าย เพื่อให้เป็นคนขับรถที่ดีขึ้น

• รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่
• เก็บข้อมูลเรื่อง “อารมณ์” ด้วย
• เตือนให้ผู้ขับขี่ทำอะไรสักอย่าง
• อาจรุกล้ำความเป็นส่วนตัว
• ทำให้เราขับรถได้ดีขึ้น

สิทธิบัตรใหม่ล่าสุดของ Subaru (ซูบารุ) ที่มีการยื่นจดกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา นั้นคือระบบที่ช่วยป้องกันการถูกขับรถจ่อท้ายได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

เว็บไซต์ CarBuzz เป็นผู้ค้นพบสิทธิบัตรนี้ โดยระบบนี้จะต้องอาศัยฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กล้อง, เรดาร์และเซนเซอร์ LiDAR, GPS, ระบบสื่อสารระหว่างยานพาหนะ, ระบบนำทาง และอินเทอร์เฟซที่ประสานระหว่างมนุษย์และระบบ (human-machine interface) 

โดยฮาร์ดแวร์เหล่านี้จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นสำหรับการประมวลผลของระบบนี้

รวบรวมข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ขับขี่

สิทธิบัตรระบุว่า ข้อมูลที่เก็บได้ทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของรถคันนั้นและรถที่อยู่รอบ ๆ รวมถึงการตอบสนองทางอารมณ์ของผู้ขับขี่ต่อสถานการณ์ที่กำหนด และจะใช้ข้อมูลที่ได้เป็นการสอนระบบให้ช่วยเหลือได้ดีขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรนี้คือ ไบโอเซนเซอร์ ซึ่งสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจหรือการหายใจของผู้ขับขี่ได้ ทำหน้าที่คล้ายกับสมาร์ทวอทช์ ที่จะมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่บริเวณต่าง ๆ เช่น ที่เข็มขัดนิรภัยหรือบนพวงมาลัย

การใช้เซนเซอร์ กล้อง และระบบจดจำใบหน้า รวมถึงวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถตรวจจับการตอบสนองทางอารมณ์ของผู้ขับขี่ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการตอบสนองของผู้ขับขี่ของรถคันรอบ ๆ

เก็บข้อมูลเรื่อง “อารมณ์” ด้วย

การทำเช่นนี้ ทำให้ Subaru สามารถบอกได้ว่าผู้ขับขี่กำลังกังวลเมื่อถูกจ่อท้าย (หรือสถานการณ์อื่น) อยู่หรือไม่ และสามารถบอกได้ว่าผู้ที่ขับรถที่กำลังจ่อท้ายนั้นกำลังโกรธหรือหงุดหงิดกับการขับขี่ของรถคันข้างหน้าหรือไม่

จุดนี้เป็นส่วนที่ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิงเข้ามามีบทบาท โดยมีฐานข้อมูลด้านการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงกับพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจแย่ลงเมื่อมีความเครียดทางอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น

เตือนให้ผู้ขับขี่ทำอะไรสักอย่าง

สำหรับ Subaru Crosstrek ในอนาคตนั้นอาจมีระบบที่จะใช้ LiDAR, เรดาร์ และเซนเซอร์อื่น ๆ ร่วมกันเพื่อสามารถระบุรถที่กำลังเข้ามาด้านท้ายอย่างรวดเร็วซึ่งจะมีความเสี่ยงที่จะถูกชนท้ายมากขึ้น นอกจากนี้ระบบยังสามารถตรวจจับไฟกระพริบและเสียงแตรได้อีกด้วย

เมื่อระบบตรวจจับดังนั้นแล้ว ตัวรถจะมีเสียงหรือไฟเตือนขึ้นมาเพื่อบอกผู้ขับขี่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นและแนะนำว่าจะทำอะไรต่อไป หากผู้ขับขี่ขับที่ความเร็วต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ตัวรถจะบอกให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็วขึ้น 

แต่ระบบก็ตรวจพื้นที่เลนข้าง ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ระบบอาจแนะนำผู้ขับขี่ให้เปลี่ยนเลนหลบให้รถข้างหลังไปในบางสถานการณ์

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Subaru XV ญี่ปุ่นปรับใหม่ เพิ่มระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ราคาเริ่มแค่ 676,000 บาท

ตอบคำถามเก็บข้อมูลหลังขับ

เราจะเห็นได้ว่าระบบดังกล่าวจะต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างปลอดภัยสมบูรณ์ และเซนเซอร์อาจไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งหมด 

ด้วยเหตุนี้ สิทธิบัตรจึงแนะนำให้มีการให้ตอบคำถามภายหลังจากการขับขี่ โดยสามารถถามคนขับว่ารู้สึกอย่างไรบ้างและอยุ่ในระดับใดบ้างระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถถามผู้ขับขี่ได้ว่าคาดหวังให้คนที่ขับจ่อท้ายทำอะไรบ้าง

หากสถานการณ์ทั้งหมด รวมถึงข้อมูลการขับขี่ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าผู้ขับขี่เป็นผู้ที่ขาดประสบการณ์การขับรถ ระบบจะแนะนำให้ผู้ขับขี่ปรับเส้นทางการขับขี่และเวลาการออกเดินทางเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเครียดสูงหรือเวลาที่มีปริมาณจราจรสูง

หากเป็นกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นั้น ตัวรถจะแนะนำเป็นข้อความประมาณว่า “บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่รถมักจะเดินทางด้วยความเร็วที่แตกต่างจากรถคันอื่นที่วิ่งบนเลนติดกัน” และอาจต่อท้ายด้วยคำแนะนำว่า “โปรดใช้ความระมัดระวังในการเร่งความเร็วให้เพียงพอเมื่อขับผ่านไป”

สอนให้คนขับรถดีขึ้น

นอกจากนี้ ตัวรถยังสามารถแจ้งเตือนเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเลนได้อย่างเหมาะสม มีการเร่งที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเบรกที่ไม่จำเป็น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ระบบนี้จะเป็นการสอนให้คนที่ขับรถยังไม่ดีให้ขับรถได้ดีขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง ตัวรถยังสามารถถามคำถามอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นต่อผู้ขับขี่ที่โกรธหรือหงุดหงิดได้ เพื่อทำให้ระบบเรียนรู้ว่าสถานการณ์นั้น ๆ อยู่ในระดับใด รวมถึงสิ่งที่คนที่ขับรถจ่อท้ายคาดหวังให้คนที่ถูกจ่อท้ายทำในตอนนั้นอีกด้วย

สิทธิบัตรนี้ยังสามารถทำให้มีการบันทึกภาพเพื่อแสดงให้ผู้ขับขี่เห็นรายละเอียดที่มากขึ้น เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถเห็นได้ว่าทำอะไรผิดไปหรือไม่หรือเกิดอะไรขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เกิดข้อสรุปภายหลังจากการขับขี่ เป็นการแนะนำผู้ขับขี่เพื่อการขับรถที่ดีขึ้น

ระบบนี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ย้ายเข้ามาจากต่างประเทศหรือต่างรัฐที่มีกฎหมายที่แตกต่างกัน แต่ระบบมีประโยชน์มากที่สุดสำหรับมือใหม่หัดขับ

อาจรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

สิทธิบัตรนี้ยังเก็บข้อมูลเลขทะเบียนของรถที่ขับมาจ่อหลังรวมถึงรถที่ขับช้าเกินไป แนวคิดนี้คือการที่รถสามารถแจ้งเตือนรถคันอื่นได้จากระยะไกลและแนะนำการขับขี่แก่รถคันนั้นได้ แต่ก็อาจรุกล้ำข้อมูลส่วนตัวกันมากเกินไป

เราอาจเป็นผู้ขับขี่ที่ดีขึ้น

หากรถทุกคันมีระบบเช่นนี้ เราทุกคนอาจเป็นผู้ขับขี่ที่ดีขึ้นก็ได้ อย่างที่เคยเห็นมาแล้วในงาวิจัยของ NHTSA ที่ระบุว่าการเพิ่มเสียงเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยเป็นมาตรฐานส่งผลให้คนคาดเข็มขัดนิรภัยมากขึ้นนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Subaru Crosstrek เปิดตัวในอินโดนีเซีย ทิ้งชื่อ XV เดิม ขายแล้วด้วยราคา 1.233 ล้านบาท