หลังจากการเข้ามาเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่อย่าง 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลก ตามด้วยการเปิดตัวครอสโอเวอร์รุ่นใหม่อย่าง 2023 Mitsubishi XForce (มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ) ในประเทศอินโดนีเซีย ดูเหมือนว่าอาเซียนกำลังจะกลายเป็นฐานหลักของการเปิดตลาดโลกให้กับแบรนด์ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) ที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ในตลาดนี้ แต่หากไปดูที่รายได้จากการดำเนินงานย้อนหลังในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสัดส่วนกว่า 70% ทำให้ในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดนั้น ทีมงานผู้บริหารระดับสูงของมิตซูบิชิ นำทีมโดย ทาคาโอะ คาโตะ ประธานบริษัท ต่างก็ตบเท้ามาร่วมเปิดตัวและให้สัมภาษณ์กันในแต่ละประเทศอย่างคึกคัก
นอกเหนือไปจากการเปิดตัวสินค้าแล้ว มีรายงานว่ามิตซูบิชิเตรียมที่จะทำการอัพเลเวลของโรงงานผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย โดยมีไฮไลท์หลักอยู่ที่การเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฮบริดในทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งจะเป็นการเปิดสายการผลิตรถยนต์รูปแบบดังกล่าวนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ตามการคาดการณ์การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฮบริดในภูมิภาคนี้
ทำไมมิตซูบิชิไม่ข้ามไปรถยนต์ไฟฟ้าเลยนั้น มีคำตอบที่น่าสนใจ...
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเติบโตขึ้นกว่า 10 เท่าตัวภายในปี 2578 หรือมียอดขายที่ 1.03 ล้านคัน เทียบกับตัวเลข 1.02 แสนคันในปีที่ผ่านมา แต่ก็เป็นการเติบโตที่ระบบไฮบริดเป็นหลัก โดยในปีเดียวกันนั้น มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดลงเหลือ 1.82 ล้านคัน หรือลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2565 แต่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็จะมีสัดส่วนตลาดที่ต่ำมากไม่ถึง 7% ของตลาดอยู่ดี โดยไฮบริดจะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 33% ของตลาดรวม จากการที่ตัวรถมีราคาจำหน่ายถูกกว่ารถไฟฟ้าล้วน และไม่มีปัญหาในเรื่องของการหาที่ชาร์จไฟ ที่เป็นปัญหาหลักในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
ด้วยความมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ไฮบริดจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 10 ปี มิตซูบิชิเตรียมเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทนในปี 2567 ซึ่งจะต่อเนื่องจากการหมดเงื่อนไขการสนับสนุนของโครงการรถยนต์นั่งขนาดเล็กพอดี โดยได้ทำการยื่นขอการสนับสนุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฮบริดเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะเริ่มผลิต Mitsubishi Xpander Hybrid (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ไฮบริด) เป็นรุ่นแรก ตามมาด้วยรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเป็นมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ซ ที่เพิ่งเปิดตัวในอินโดนีเซีย ก็คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ในช่วงปลายปี ก่อนที่เวอร์ชั่นไฮบริดจะตามมาในปี 2567 เป็นต้นไป
ด้วยเงื่อนไขทางด้านทรัพยากร โดยเฉพาะแร่นิกเกิลที่มีความสำคัญต่อการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต ทำให้เชื่อว่ามิตซูบิชิน่าจะตัดสินใจผลิตรถยนต์ไฮบริดในอินโดนีเซียเช่นกัน แต่อาจจะช้ากว่าประเทศไทยเล็กน้อย ซึ่งล่าสุด มีข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ระบุว่า มิตซูบิชิมีแผนที่จะลงทุนมูลค่ากว่า 5.7 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท) ในปี 2567 ที่โรงงานในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อขยายกำลังการผลิตรถยนต์เพิ่มเป็น 2.5 แสนตันต่อปี รวมถึงการเปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการสนับสนุนและดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติของอินโดนีเซีย
ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากค่ายมิตซูบิชิในช่วงนี้เลย...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}