ยลโฉมตัวจริง Mazda Iconic SP ว่าที่ MX-5 ขุมพลังโรตารี่ไฮบริด

Mazda (มาสด้า) แสดงวิสัยทัศน์การพัฒนารถสปอร์ตแห่งอนาคตในรูปโฉมของ Mazda Iconic SP รถต้นแบบสุดหล่อที่งาน Japan Mobility Show จัดขึ้นในกรุงโตเกียว

รถต้นแบบ Mazda Iconic SP มาพร้อมรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาเอาการ เรียกแสงแฟลชจากช่างภาพได้ทันทีที่จบงานแถลงข่าวเปิดบูธของ Mazda พร้อมความหวังว่าจะมีการตัดสินใจขึ้นสายการผลิตในอีกไม่ช้า

มิติตัวถังของรถต้นแบบรุ่นนี้มีความยาว 4,180 มม. กว้าง 1,850 มม. และสูง 1,150 มม. ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับรถสปอร์ตในตำนานอย่าง RX-7 ตัวถัง FD และมีขนาดใหญ่กว่า MX-5 รุ่นปัจจุบันอยู่พอสมควร

เส้นสายที่เน้นความเรียบง่ายแต่ไหลลื่นของ Iconic SP คือไฮไลท์ของรถสปอร์ตต้นแบบรุ่นนี้ มาพร้อมตัวถังแบบสองประตูคูเป้ ประตูเปิดออกแบบปีกนกยกขึ้นฉีกออกด้านข้าง ไฟหน้าขนาดเล็กเปิดขึ้นแบบป็อปอัพซึ่งน่าทำเอาสาวก Mazda ร้องกรี๊ด อีกทั้งยังมาพร้อมสีแดง Viola Red ใหม่ล่าสุด สะดุดตาหัวจรดท้ายเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม: All-New Mazda 2 เปิดตัวปีหน้า ลือมาพร้อมปลั๊กอินไฮบริด

เกาะติดขุมพลังขับเคลื่อน

Mazda ระบุว่า Iconic SP มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนที่เรียกว่าระบบพลังงานไฟฟ้าแบบสองโรเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่าความเป็นจริงแล้วคือการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ แต่มีการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปแบบสูบหมุนเพื่อทำหน้าที่ในการปั่นไฟเพื่อขยายระยะทางขับเคลื่อนนั่นเอง

ค่ายรถจากเมืองฮิโรชิม่ายังเปิดเผยด้วยว่าเครื่องยนต์โรตารี่บล็อกนี้ “รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ” อีกทั้งยังสามารถใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้อีกด้วย ซึ่งทำให้ปราศจากมลพิษแบบ 100%

อ่านเพิ่มเติม: พาชม 2023 Mazda CX-3 Sport Luxe รุ่นท็อปใหม่ ได้อะไรบ้างในราคา 970,000 บาท

ปัจจุบัน รถเอสยูวี Mazda MX-30 R-EV ที่ออกจำหน่ายในปัจจุบันใช้ระบบขับเคลื่อนแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถรองรับเชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้

Mazda ระบุว่ารถสปอร์ตต้นแบบคันนี้มีพละกำลังสูงสุดทะลุ 380 แรงม้า มีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังสมบูรณ์แบบอยู่ที่ 50-50  มีน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,450 กก. ซึ่งถือว่าเบามากหากเทียบกับรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

มาซาฮิโระ โมโระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mazda กล่าวว่า “Mazda จะส่งมอบรถยนต์ที่ย้ำเตือนให้ทุกคนรู้สึกถึงความสนุกและการเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขา”