รถยนต์ไฟฟ้าใหม่มากกว่า 300,000 คันถูกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปีที่แล้วถึง 49.8% ทำให้ปัจจุบันนี้มียอดขาย EV คิดเป็น 7.9% ของรถยนต์ใหม่ที่ขายได้ทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ว่า Tesla (เทสล่า) กลับมายอดขายหายไป 50%
ข้อมูลที่เผยแพร่โดย Kelley Blue Book เผยให้เห็นว่าในปี 2023 นี้มีการขาย EV ใหม่จำนวน 313,086 คันทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในไตรมาส 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 298,039 ที่ขายในไตรมาสที่ 2 และส่วนแบ่ง EV 7.9% ของตลาดรวม ก็เพิ่มขึ้นจาก 7.2% ในไตรมาสที่ 2 เช่นกัน
Tesla ยังคงครองตลาด EV แต่ส่วนแบ่งตลาดเริ่มลดลง เมื่อดูสถิติไตรมาสที่ 1 ปีนี้พบว่า Tesla ขายในสหรัฐฯ ไม่น้อยกว่า 62% แต่พอถึงไตรมาสที่ 3 ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 50% นับว่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่บริษัทวิจัยการตลาดชื่อ Cox Automotive ตั้งข้อสังเกตว่า Cybertruck สามารถพลิกกลับแนวโน้มขาขึ้นได้ แต่แน่นอนว่า Tesla กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงด้วย
อ่านเพิ่มเติม: ผลสำรวจชี้แบรนด์ Tesla มีความแข็งแกร่งลดลง
ข้อมูลเผยให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์หลายรายรายงานว่ายอดขาย EV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่ 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน เช่น Volvo, Nissan, Mercedes และ Hyundai ล้วนเพิ่มขึ้นกว่า 200% เนื่องจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าดึงดูดเป็นหลัก BMW ยังรายงานว่ามียอดขายมากกว่า 3 เท่าจากปีที่แล้ว ขณะที่ Audi มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 94% จากปีก่อนเช่นกัน
BMW มีสัดส่วนยอดขายสูงสุดที่ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ผลิตรถยนต์กระแสหลัก โดยอยู่ที่ 15.6% ซึ่งสูงกว่า Audi ที่ 12.7% , Volvo 12.6%, VW 12.2% และ Mercedes-Benz 12% แต่ก็มี EV ที่ยอดขายตกต่ำลงอย่าง Tesla, Fisker, Rivian และ VinFast ที่ไม่มีพาหนะพลังงานประเภทอื่นเลยนอกจากรถยนต์ไฟฟ้า
Cox Automotive วิเคราะห์ว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่ในตลาดสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในปี 2027 และด้วยเหตุนี้ ยอดขายจึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม : วิจัยชี้ เจ้าของ Tesla Model Y หลายคนไม่อัพรถในแบรนด์เดิมต่อ เพราะสู้ราคารถไม่ไหว
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{expSellingPriceText}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}