งานแสดงรถยนต์ระดับโลกที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นอย่าง Japan Mobility Show 2023 ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการ พร้อมความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะจากค่าย Honda (ฮอนด้า) ที่ยกทัพสินค้ารุ่นใหม่มาอย่างเต็มพิกัด รวมถึงบรรดารถยนต์ต้นแบบที่มาสร้างสีสันให้กับงาน และยังรวมไปถึงบรรดาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ต่าง ๆ ที่จัดวางกันอย่างเต็มพื้นที่ใหญ่ที่สุดภายในงาน
นอกจากการมาร่วมงานแสดงรถยนต์ในครั้งนี้แล้ว AutoFun ได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของฮอนด้า ที่นำทีมโดย โทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด รวมถึงผู้บริหารที่ดูแลตลาดอาเซียนและตลาดประเทศไทย ซึ่งก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ผลกระทบจากภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคุกคามจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ในหลายเซกเมนต์ หรือแนวทางในการเดินหน้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ผู้บริหารของฮอนด้าให้คำตอบเอาไว้อย่างน่าสนใจ และอะไรคือความมั่นใจของพวกเขาในการลุยตลาดรถยนต์ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดที่ยืนยันแล้วว่าจะต้องทำตลาดไปอีกหลายปี
วันนี้มีคำตอบจากทีมผู้บริหารมาให้อ่านกัน...
เดิมทีนั้นฮอนด้าเคยประกาศ Vision 2030 ในเรื่องการผลักดันรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่การเปลี่ยนแปลงของความต้องการของตลาด ทำให้พวกเขาได้ประกาศเป้าหมายใหม่ในปี 2593 ประกอบไปด้วย หนึ่ง การสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน และสอง การลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ลงให้เป็นศูนย์ให้ได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางใหม่ที่ปรับให้สอดคล้องกับยุคสมัยของรถยนต์ไฟฟ้า
ฮอนด้าได้ประกาศเป้าหมายเอาไว้ว่าในปี 2573 จะมีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 2 ล้านคัน และจะเพิ่มสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าและฟิวเซลล์เป็น 100% ภายในปี 2050 ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในแผนงานนั้นเช่นกัน ขณะที่การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหลัก ๆ ในตอนนี้อยู่ที่สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งฮอนด้าก็พยายามเข้าไปตอบสนองความต้องการตรงนั้น ส่วนการที่จะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเข้ามาทำตลาดในไทยนั้น แม้จะมีความเป็นไปได้ แต่ก็อยากมองเรื่องการผลิตในภูมิภาคมากกว่า
ในส่วนของการเปิดตลาดของคู่แข่งจากประเทศจีนหลายรายที่นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดนั้น อยากให้มองเรื่องของคุณค่าในตลาดสำหรับลูกค้าเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) ที่เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์อี:เอชอีวีรุ่นที่ 3 ก็จะมีความสมบูรณ์ของเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก เมื่อมาพิจารณาจากสถานีประจุไฟและระยะทางวิ่งที่ทำได้ ฮอนด้าต้องการนำเสนออะไรที่ใช้งานได้จริงในปัจจุบัน ขณะที่ด้านราคาที่มีส่วนต่าง 1.5 แสนบาทจากนโยบายภาครัฐนั้น การปรับราคาขายเพื่อแข่งขันก็เป็นแนวทางที่สามารถทำได้ แต่หากมองไปที่เรื่องราคาขายต่อในอนาคต ยังไงรถยนต์อย่างแอคคอร์ดก็มีราคาขายต่อที่สูงมากอยู่
ต้องมาดูว่ารถที่มั่นใจได้อยู่แล้วกับรถที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต ตอนจบลูกค้าจะเป็นคนเลือกเอง!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{expSellingPriceText}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}