BMW ไม่เห็นด้วย ยุโรปสกัดกั้นรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน

ผู้บริหารระดับสูงของ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เผยว่ามาตรการของสหภาพยุโรปที่ต้องการสกัดกั้นรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดี

เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการสหภาพยุโรปเริ่มการหารือถึงมาตรการกำหนดภาษีเพื่อป้องกันการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่จากจีนไปสู่ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 112% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และขยายตัวถึง 361% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 คณะกรรมการสหภาพยุโรปคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 15% ภายในปี 2025

สำนักข่าว Reuters ระบุว่าจีนสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วยต้นทุนที่ถูกที่สุดในโลก เพราะมีนโยบายสนับสนุนการผลิตรถพลังงานทางเลือกจากรัฐบาล ทำให้คณะกรรมการของสหภาพยุโรปต้องการกำหนดมาตรการป้องกันการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เพราะทำให้ค่ายรถเจ้าถิ่นที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เกิดความเสียเปรียบในการแข่งขัน

อ่านเพิ่มเติม: เผยโฉม 2024 BMW X2 และ iX2 เอสยูวีเล็กสุดทรงสปอร์ต พร้อมรุ่นไฟฟ้าล้วนเป็นครั้งแรก

แต่ BMW ไม่เห็นด้วย

วอลเตอร์ เมอร์เทิล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ BMW เตือนว่ามาตรการสกัดกั้นรถยนต์ไฟฟ้จากจีนอาจสร้างความเสียหายได้ โดยเฉพาะกับบริษัทรถยนต์ที่ทำธุรกิจอยู่ในแดนมังกร

“แน่นอนว่ารัฐบาลจีนจะตอบโต้เหมือนบูมเมอแรง ซึ่งผลร้ายอาจใหญ่โตเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด” เมอร์เทิล กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี ทั้ง BMW, Mercedes-Benz และ Volkswagen โดย BMW มีสายการผลิตอยู่ในจีนซึ่งผลิต iX3 ส่งออกมายังยุโรป และกำลังจะผลิต MINI ในปีหน้า  

อ่านเพิ่มเติม: 2024 BMW i5 ซีดานขนาดกลางพลังไฟฟ้า เปิดตัวครั้งแรกในไทย ด้วยราคา 4.999 - 5.599 ล้านบาท

เมอร์เทิล เปิดเผยด้วยว่า รถยนต์ BMW กว่า 90% ที่ขายในเมืองจีนนั้นผลิตในจีน แต่มีการส่งออกวัตถุดิบบางส่วนจากยุโรปไปยังแดนมังกร ซึ่งนั่นทำให้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะได้รับผลกระทบหากรัฐบาลปักกิ่งกำหนดมาตรการตอบโต้สหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเพิ่งแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการหารือเพื่อกำหนดมาตรการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนใหม่ซึ่งไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบการส่งเสริมการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าขององค์การการค้าโลกหรือ WTO