ตามหลักทฤษฎีแล้ว EV ทนทานกว่ารถใช้เครื่องยนต์ เพราะจำนวนชิ้นส่วนน้อยลง จุดที่ต้องซ่อมก็มีน้อยลง เพียงแต่ว่าหลายคนห่วงเรื่องแบตเสื่อมแล้วต้องโยนทิ้งเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นหรือไม่ มีการทดสอบให้ทราบกัน

160,000 กม. คือระยะทางรับประกัน

BYD Atto3 (บีวายดี อัตโต้ 3) จัดการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองในไทย โดยตั้งโจทย์ให้ทำการวิ่ง 160,000 กม.ซึ่งเป็นตัวเลขระยะทางที่ BYD ให้การรับประกันคุณภาพตัวรถและแบตเตอร์รี่ ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปขับ อาจจะใช้เวลา 6 ปี แต่ทีมงานไม่มีเวลาขนาดนั้น จึงบีบการขับในครบระยะยทางข้างต้นจนครบภายใน 6 เดือน เฉลี่ยวันละ 888 กม. 

การทดสอบโดยบุคคลที่ 3

ขับโดยนักขับมืออาชีพ ที่ไม่ใช่ทีมงานในบริษัทบีวายดี ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ผู้จัดจำหน่ายต้องการทดลองความน่าเชื่อถือของที่ตนเองนำเข้ามาขาย โดยให้บุคคลภายนอกได้ลองขับอย่างไม่ปราณี อีกทั้งยังเชิญสื่อมวลชนหลายราย ผลัดกันเข้าไปร่วมขึ้นขับในรถคันเดียวกันนี้ด้วย ทำให้รถคันนี้ได้ผ่านลักษณะการขับขี่หลายมือ ไม่ต่างจากรถเช่าหรือรถรับจ้าง

ทดสอบบนทุกสภาพถนน

ลักษณะถนนที่ใช้วิ่งทดสอบนั้น มีการคิดมาแล้วว่าต้องอยู่ในรัศมีเส้นทางที่ไม่ไกลจากจุดชาร์จ และมีความหลากหลายของประเภทพื้นผิว ตั้งแต่ทางเรียบความเร็วสูง ลงไปลุยทางฝุ่น จนถึงทางกรวด มีทางขึ้นเนิน ที่ต้องใช้แรงไต่จนฝุ่นกระจาย รวมถึงมีอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น หินดีดจนกระจกแตกร้าว ชนสัตว์จากข้างทางที่ความเร็วสูง รวมถึงโดยหินกรวดดีดใส่ใต้ท้องรถจนทั่ว

ค่าไฟ 120,000 บาท

หลังจบการทดสอบตลอดทั้งทริปแล้ว เมื่อมารวมบิลค่าไฟจากการบันทึกระหว่างการชาร์จทั้งหมด พบว่า BYD Atto3 เสียค่าไฟอยู่ที่ราว ๆ 120,000 บาทโดยประมาณ หรือเฉลี่ยแล้วได้ 0.75 บาท/กม. เทียบเท่ารถยนต์ที่ติดแก๊ส LPG หรือรถอีโค่คาร์ที่กินน้ำมันน้อยมาก ๆ บนระยะทางเดียวกัน

แบตเสื่อมลงไป 4%

สภาพของแบตที่ติดอยู่ใต้ท้องรถ หลังจากผ่านการขับอย่่างหนักหน่วง พบว่ามีเศษหินกระทบบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นครูดใต้ท้องรถ และไม่เกิดอุบัติเหตุเสียหายถึงโครงสร้างภายในเลย เมื่อนำรถไปวัดค่าด้วยเครื่องมือของทีมช่างแล้ว พบว่ามีค่าสุขภาพของแบต (SOH) นั้นหายไป 4% ของความจุเดิมทั้งหมด นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะทางที่ได้ คุ้มค่าสมกับราคาแบต 656,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม : เทียบราคาแบต EV ระหว่าง BYD Atto3 กับ ORA Good Cat มีสเปคสูสี แต่อีกรุ่นแพงกว่าเป็นแสน

สายไฟยังไม่ขาด

เราสังเกตเห็นสายไฟที่อยู่ในซุ้มล้อหน้า ซึ่งเป็นจุดที่โดนกรวดทราย และน้ำโคลน ดีดออกมาจากดอกยางรถ พุ่งใส่ด้วยความเร็วสูงเท่ารถวิ่ง ซึงเราคาดคะเนไว้ว่า กรวดทรายที่แหลมคม อาจทำให้สายไฟระบบ EV ถูกตัดขาดวิ่น แต่เมื่อรถได้ขับทดสอบมาแล้ว พบว่าสายไฟสีส้มยังคงสภาพดี เปลือกนอกที่หุ้มไว้ยังไม่มีแม้แต่รอยแตกร้าว ทำให้หมดห่วงไปได้เลยว่าสายไฟในซุ้มล้อจะขาดง่าย

อ่านเพิ่มเติม : BYD ทำยอดขายอีวีกระฉูดด้วยกลยุทธ์นี้ เผยแซง Tesla แน่นอน

แทบไม่บำรุงรักษา

การทดสอบรถครั้งนี้ ยังทดสอบการบำรุงรักษาอะไหล่สิ้นเปลืองแบบลากใช้ยาวนาน จำลองการใช้รถยนต์แบบคนที่ไม่รู้เรื่องรถ ไม่ดูแลรถ ใช้อะไหล่สิ้นเปลืองลากยาวจนเสื่อมสภาพจริง ๆ ค่อยเปลี่ยน โดยพบว่าแบต 12V ไม่ได้เปลี่ยนเลยตลอดอายุการใช้งาน ช่วงล่างตรงโช้คหรือบูชไม่หลวม ยังไม่ต้องเปลี่ยนอะไร

สิ่งที่เปลี่ยนมีแค่ แผงแอร์คอยล์ร้อน จากอุบัติเหตุชนสุนัข พร้อมเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และเปลี่ยนผ้าเบรคที่ระยะทาง 140,000 กม. พร้อมกันนี้ก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรคด้วย รวมถึงยางชุดใหม่ 4 เส้นที่เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นาน

อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ EV ครั้งแรก BYD Atto 3 จากใจคนใช้ ICE มาหลายปี เปลี่ยนเป็นไฟฟ้าแบบนี้ต้องปรับตัวเยอะไหม

หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบขับโหด รถก็ถูกนำไปล้างทั้งภายนอกกับภายใน ขัดสีลบรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ เหลือรอยขูดขีดใหญ่ให้เห็นอยู่เยอะ ส่วนชิ้นส่วนกันชนที่แตกหักก็ไม่ได้ซ่อม ห้องเครื่องที่เต็มไปด้วยฝุ่น ก็ถูกน้ำแรงดันสูงฉีดล้าง พร้อมเป่าลมจนแห้ง ก่อนจะมาจอดโชว์ตัวให้เราได้รู้ว่า แบตเตอรี่ BYD Atto3 ราคา 656,000 บาท ยังไปได้อีกหลายแสนกิโลเมตร ก่อนที่จะเสื่อมสภาพถึงขั้นต้องเปลี่ยนลูกใหม่

อ่านเพิ่มเติม : ดูคุณสมบัติ Blade Battery ของ BYD เพราะเหตุนี้ถึงเหนือกว่าอีวีแบรนด์อื่น