- ฟอร์ดเล็งขายอีวีผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น
- แก้ปัญหาดีลเลอร์อัพราคารถรุ่นหายาก
- แต่ฟังแล้วทำไมคล้าย ๆ ที่ค่ายจีนทำอยู่นะ
ปัญหาเรื่องการทำราคาจำหน่ายรถยนต์รุ่นยอดนิยมให้สูงขึ้นโดยตัวแทนจำหน่ายนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาไปทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกต่างประสบปัญหาในการส่งมอบรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องข้ามปี
Ford (ฟอร์ด) ที่มีการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่ต้องการตลาดหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า Ford Mustang Mach-E (ฟอร์ด มัสแตง มัค-อี) หรือรถกระบะไฟฟ้า Ford F-150 Lightning (ฟอร์ด เอฟ-150 ไลท์นิ่ง) ล้วนแล้วแต่ประสบปัญหาการขาดแคลนและลูกค้าต้องรอนานทั้งสิ้น
นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ดีลเลอร์ต่างทำราคาจำหน่ายรถไฟฟ้าของฟอร์ดกันอย่างสนุกสนาน จนจิม ฟาร์เลย์ ซีอีโอของฟอร์ดต้องออกมาระบุว่า พวกเขาอาจจะปรับแผนการทำตลาดรถยนต์กลุ่มนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งฟังดูแล้วคล้าย ๆ กับเรื่องที่้เกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้อยู่เหมือนกัน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เปรยขายออนไลน์แก้ปัญหาราคาดีลเลอร์
ฟาร์เลย์ระบุว่า ฟอร์ดอาจจะปรับการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดของพวกเขาไปทำตลาดผ่านการขายแบบออนไลน์เพียงเท่านั้น เพื่อที่จะสามารถกำหนดราคาขายได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้ดีลเลอร์ของฟอร์ดนั้น ไม่ต้องสต๊อกรถยนต์อีกต่อไป แต่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการ ที่เอาไว้รับออเดอร์ออนไลน์หรือสำหรับการซ่อมบำรุงรถยนต์เพียงเท่านั้น ขณะที่ผู้ซื้อนั้น สามารถเลือกที่จะรับรถยนต์ที่บ้านผ่านบริการเดลิเวอรี่ได้เช่นกัน ซึ่งในอีกทาง ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากพนักงานขาย และเป็นการสร้างตลาดที่ไม่มีการต่อรองด้านราคาอีกต่อไป
เพื่อเป้าหมายการคว่ำเทสล่าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ฟอร์ดเองมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำในตลาดโลก ด้วยการคว่ำแบรนด์ชั้นนำอย่าง Tesla (เทสล่า) และค่ายรถอื่น ๆ ที่มีความแข็งแกร่งด้านรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) Nissan (นิสสัน) หรือแม้แต่ Kia (เกีย) ก็ตาม พวกเขาตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไปที่ 6 แสนคันภายในปี 2566 ซึ่งจะเข้าใกล้เคียงกับเทสล่ามากขึ้น ขณะเดียวกัน ฟอร์ดก็ประเมินว่าราคารถยนต์ไฟฟ้าน่าจะถูกลงเรื่อย ๆ จนมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 2.5 หมื่นดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 8.6 แสนบาท) จากการที่ราคาแบตเตอรี่และการขนส่งต่าง ๆ ถูกลงในอนาคต
ว่าแต่ แผนงานนี้มันฟังดูคุ้น ๆ อยู่ไหมนะ...
หากฟอร์ดทำการปรับรูปแบบการขายรถยนต์ไฟฟ้าตามที่ฟาร์เลย์ว่าจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ โดยเฉพาะลูกค้าชาวไทยที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับ Grear Wall Motor (เกรทวอลล์มอเตอร์) ที่เน้นการขายรถยนต์ทั้งหมดแบบออนไลน์ ด้วยการรับจองผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้น และกำหนดราคาจำหน่ายเดียวเหมือนกันทั้งหมด โดยดีลเลอร์ที่ตั้งขึ้นมา จะเป็นเหมือนจุดแสดงสินค้า ที่มีพนักงานให้รายละเอียดและอำนวยความสะดวกด้านการจองผ่านระบบ รวมถึงการเป็นจุดสำหรับการให้บริการลูกค้ารถยนต์เท่านั้น
งานนี้จะต้องบอกว่าฝรั่งลอกจีนบ้างไหมล่ะ...
Pisan
หัวหน้าทีมบรรณาธิการ
Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่วโมง ที่้บ้านใช้งานรถหลายแบบ ตั้งแต่อีโคคาร์ เอ็มพีวีไปยันปิกอัพ อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำมาแล้วทุกอย่างทั้งงานเปิดตัว ทดสอบรถ ผ่านการอบรมการขับขี่ตั้งแต่คอร์สเริ่มต้นไปจนแอดวานซ์จากค่ายรถมากมายทั้งในและต่างประเทศ ยังเชื่อว่ารถทุกคันทำมาสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ถ้ามันไม่เหมาะกับคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดีสักหน่อยนะ...
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });