ฟอร์ด รถไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า Ford EV
- ต้นทุนในการผลิตยังแพงจนถึงปี 2573
- แถมการลงทุนก็ถือว่าไม่เบาอยู่
- มั่นใจตลาดโลกไม่โตไวตามที่คาดแน่
ซีอีโอของ Ford (ฟอร์ด) จิม ฟาร์ลีย์ ได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับการขาดทุนอย่างต่อเนื่องของการพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในแผน Model e (โมเดล อี) ที่ยังมีรายงานว่าน่าจะขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง โดยเขาระบุว่าไม่มีทางที่ฟอร์ดจะลดต้นทุนการผลิตอีวีให้เทียบเท่ากับเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ในระยะเวลาอันสั้น
"2573-2578 นั่นล่ะ ที่เราจะทำมันได้นะที่เราคิดอยู่ น่าจะเป็นช่วงระยะเวลาระหว่างการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าระลอกที่ 2 และ 3 ของบริษัท" ซึ่งก่อนหน้านี้ ฟอร์ดได้ประกาศว่าพวกเขาได้ทำการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เจนเนอเรชั่นที่ 2 สำเร็จแล้ว และพร้อมเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2568 นี้ จากนั้นก็จะเดินหน้าในการพัฒนาเจนเนอเรชั่นที่ 3 ต่อเนื่อง
ฟาร์ลีย์ระบุว่า ฟอร์ดจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการคิดถึงแต่อเรื่องของระบบส่งกำลังแต่เพียงอย่างเดียว เพราะเอาจริง ๆ แล้ว ปัจจัยอย่างราคาแบตเตอรี่รถยนต์ที่แพงขึ้นมาก็มีความสำคัญ ทำให้ฟอร์ดต้องมองถึงภาพรวมในการพัฒนารถยนต์ การลดต้นทุนต่าง ๆ รวมถึงความซับซ้อนของชิ้นส่วนที่จะต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านต้นทุนในอนาคต
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ซึ่งเขายืนยันว่าฟอร์ดนั้นได้เรียนรู้เรื่องนี้มามากมาย และมั่นใจว่าทำได้แน่นอนในอนาคต!!!
ทำไมทุกคนถึงตกใจกับการขาดทุนในครั้งนี้
ฟอร์ดนั้นประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ในกลุ่มธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาน่าจะมีการขาดทุนมหาศาลถึง 3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 1.04 แสนล้านบาท) ก่อนหักภาษี ซึ่งมากกว่าการขาดทุนในปีที่ผ่านมาถึง 50% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนมากมาย รวมไปถึงสายการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 3 แห่ง ทำให้หลายคนเอาเรื่องนี้มาแซวกันยกใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนสำหรับเจนเนอเรชั่นแรกในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีกระแสลดราคาท้าชนคู่แข่งในจีน
ฟาร์ลีย์ได้กล่าวถึงประเด็นที่มีหลายคนเอาแต่พูดถึงการที่บริษัทลดราคาจำหน่ายของ Ford Mustang Mach-E (ฟอร์ด มัสแตง มัค-อี) เพื่อชนกับคู่แข่งในจีน โดยเฉพาะกับ Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) ว่าทุกคนเอาแต่พูดถึงเรื่องการตอบสนองต่อการแข่งขันของตลาด แต่ไม่ได้มองภาพรวมของตลาดทั้งหมด โดยเฉพาะการที่ฟอร์ดนั้นได้ปรับราคาจำหน่ายของรถกระบะไฟฟ้าและรถตู้ไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้ใครพูดถึงหรือเขียนถึงมันแม้แต่น้อย
ไม่ใช่ทุกตลาดที่จะมีส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าถึงครึ่งหนึ่ง
นายใหญ่ของฟอร์ดได้แสดงความมั่นใจว่าจะมีตลาดเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในโลกนี้ ที่จะมีส่วนแบ่งตลาดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าถึง 50% ในปี 2573 เช่น ประเทศจีนและยุโรปมีความเป็นไปได้ แต่ตลาดที่ใหญ่กว่านั้นอย่างแอฟริกา อเมริกาใต้หรือตะวันออกกลาง อาจจะได้เห็นตัวเลขไม่เกิน 20% และอินเดียอาจจะมีแค่ระดับ 10% เท่านั้น ขณะที่ตลาดสหรัฐอเมริกาที่หลายคนมองว่าจะทำได้ ก็ต้องการการอุดหนุนจากภาครัฐอีกหลายด้าน รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านพลังงานไฟฟ้า
ว่าแต่เมื่อไหร่ Ford Ranger EV (ฟอร์ด เรนเจอร์ อีวี) จะมาถึงสักทีล่ะ...
Pisan
หัวหน้าทีมบรรณาธิการ
Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่วโมง ที่้บ้านใช้งานรถหลายแบบ ตั้งแต่อีโคคาร์ เอ็มพีวีไปยันปิกอัพ อยู่ในวงการมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ทำมาแล้วทุกอย่างทั้งงานเปิดตัว ทดสอบรถ ผ่านการอบรมการขับขี่ตั้งแต่คอร์สเริ่มต้นไปจนแอดวานซ์จากค่ายรถมากมายทั้งในและต่างประเทศ ยังเชื่อว่ารถทุกคันทำมาสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ถ้ามันไม่เหมาะกับคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดีสักหน่อยนะ...
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });