BYD (บีวายดี) ค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ที่ตอนนี้ไปไกลจนเป็นค่ายรถระดับโลก ตอนนี้ BYD ได้เตรียมเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ โดยจับมือกับบริษัทในไทยอย่าง สยามกลการ เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในประเทศไทย

พวกเรา AutoFun Thailand จึงขอแนะนำให้รู้จักรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 คันที่น่าสนใจจาก BYD ซึ่งหากจะมาตีตลาดประเทศไทย จะได้ครอบคลุมครบทุกเซกเมนต์ และได้รับความสนใจจากชาวไทยไม่น้อย

การเลือกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 4 คันนั้น เนื่องจากรัฐบาลไทยให้การสนับสนุนด้านราคาอีวีอย่างเต็มที่ และสอดคล้องกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทุกวัน ซึ่งรถทั้ง 4 คันนี้ ได้แก่

• BYD Dolphin คู่แข่งโดยตรง ORA Good Cat
• BYD Han ซีดานเรือธงของค่าย
• BYD Yuan plus คอมแพ็คเอสยูวี คู่แข่ง MG ZS EV
• BYD Tang เอสยูวีขนาดกลาง 7 ที่นั่ง พร้อมตี PPV

1. BYD Dolphin

BYD Dolphin (บีวายดี ดอลฟิน) เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู ที่อยู่บนพื้นฐานแพลตฟอร์มใหม่ e-platform 3.0 ของบีวายดี มีจุดเด่นที่การใช้ Blade battery ที่ขึ้นชื่อเรื่องของต้นทุนการผลิต และยังมีความทนทานที่ทางบีวายดีเคลมว่าสามารถชาร์จเต็มได้ถึง 3,000 ครั้ง และสามารถขับขี่ได้ถึง 1 ล้านกิโลเมตร

Dolphin มีมิติตัวถัง ความยาวอยู่ที่ 4,070 มม.ความกว้างอยู่ที่ 1,770 มม. ความสูงที่ 1,570 มม. และมีระยะฐานล้อที่ 2,700 มม.และยังมีเวอร์ชั่นฐานล้อยาวที่เพิ่มความยาวตัวถังขึ้นเป็น 4,125 เมตรอีกด้วย

BYD Dolphin ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 70 kW หรือประมาณ 94 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดที่ 180 นิวตันเมตร

Dolphin จะใช้แบตเตอรี่ BYD Blade Battery ที่มีความจุให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 30.7 kWh ในรุ่นปกติ (GL) และ 44.9 kWh (GLX) ในรุ่นฐานล้อยาว ซึ่งทำให้ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุด คือ 301 และ 405 กม. ในมาตรฐาน NEDC ทั้งสองรุ่นมีอัตราเร่งจาก 0-50 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม.

ในด้านการชาร์จ สามารถชาร์จแบบ DC ตั้งแต่ 30-80% ได้ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่สำหรับการชาร์จแบบ AC จาก 0-100% จะใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงในรุ่นปกติ และ 8 ชั่วโมงในรุ่นฐานล้อยาว

BYD Dolphin เมื่อดูจากมิติตัวถังแล้ว จะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ ORA Good Cat ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% เช่นเดียวกัน หากเข้าไทยแล้วยอดขายทั้งสองรุ่นนี้คงสู้กันดุเดือดเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : BYD Dolphin คันจริงครั้งแรกในไทยในงาน Motor Show 2022

2. BYD Han

BYD Han (บีวายดี ฮาน) ซีดานไฟฟ้าเรือธงของค่าย ถูกวางให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model S ด้วยดีไซน์แบบ “Dragon Face” พร้อมด้วยเทคโนโลยีเต็มพิกัด และเป็นรถรุ่นแรกที่ได้ใช้ Blade Battery

นอกจากนี้ Han ยังมียอดขายที่ดีในประเทศบ้านเกิดอย่างประเทศจีน โดยฉลองการผลิตที่ 150,000 คันไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

Han มีมิติตัวถัง ความยาวอยู่ที่ 4,960 มม.ความกว้างอยู่ที่ 1,910 มม. ความสูงที่ 1,495 มม. และมีระยะฐานล้อที่ 2,920 มม. ด้วยขนาดเท่านี้ทำให้ตัวรถสามารถสู้กับซีดานพรีเมียมขนาดกลางจากค่ายยุโรปอย่าง Mercedes-Benz E-Class ได้เลย

เพราะ BYD Han มาในแนวคิดของการออกแบบที่ว่า “สมรรถนะที่เหนือชั้น ความปราณีต และความหรูหราระดับสูงสุด” 

Han ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิลิกอนคาร์ไบด์ประสิทธิภาพสูงที่ให้กำลัง 478 แรงม้า ช่วยให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที และด้วยเทคโนโลยี Blade Battery ช่วยให้รถคันนี้ขับขี่ได้ 550 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ ในมาตรฐาน NEDC 

นอกจากนี้ Han ยังเป็นรถโปรดักชั่นรุ่นแรกในจีนที่ติดตั้งระบบเบรกอัจฉริยะแบบบูรณาการ (Intelligent Integrated Brake System - IPB) ของ Bosch ซึ่งให้ประสิทธิภาพการเบรกที่แม่นยำยิ่งขึ้นและความสบายในการเบรกอีกด้วย

ยังมีจุดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ ได้แก่ ระบบ DiPilot ของ BYD ซึ่งประกอบด้วยระบบช่วยเหลือในการขับขี่อัจฉริยะที่เรียนรู้ด้วยตนเองพร้อมความสามารถ 5G

3. BYD Yuan plus

BYD Yuan plus (บีวายดี หยวน พลัส) คือเอสยูวีครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง ซึ่งได้เผยโฉมเมื่อปีที่แล้ว และมีแผนที่จะจำหน่ายไปทั่วโลก โดยเริ่มจากออสเตรเลียและสิงคโปร์

BYD Yuan Plus คือรถรุ่นที่สองที่เปิดตัวหลังจาก BYD Dolphin ในแพลทฟอร์มใหม่อย่าง e-platform 3.0 โดยจะมีแหล่งพลังงานจาก BYD Blade Battery ซึ่งเป็นแบตเตอรี่แบบ LFP ระบบ cell-to-pack และมีดีไซน์แบบใหม่ของแบรนด์ที่เรียกว่า Dragon Face 3.0

BYD ระบุว่า Yuan Plus ถูกดีไซน์โดย “มีแรงบันดาลใจจากความงามของดนตรีและจิตวิญญาณของความเป็นนักกีฬาที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่จะปลุกความฝันของคุณ”

มิติตัวถังของ BYD Yuan Plus มีความยาวอยู่ที่ 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. และสูง 1,615 มม. มีระยะฐานล้อยาว 2,720 มม. ทำให้เป็นรถที่มีขนาดระหว่าง MG ZS และ MG HS ซึ่งหากมาเมืองไทยคงได้แข่งขันกับทั้งสองรุ่นนี้

มอเตอร์ไฟฟ้า Yuan Plus มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 150 kW และมีแรงบิด 310 นิวตันเมตร มีความสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% ได้ใน 30 นาที และขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า

Yuan Plus จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยในสเปคออสเตรเลีย ได้แก่ Standard Range ที่มีความจุแบตเตอรี่ 49.92 kWh สามารถขับได้ 320 กม. และ Long Range 60.48 kWh สามารถขับได้ระยะทาง 420 กม. โดยทั้งสองรุ่นมีกำลังและความสามารถในการชาร์จเท่ากัน

อ่านเพิ่มเติม : BYD Yuan Plus ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า แรงบันดาลใจจากความงามของดนตรี

4. BYD Tang

BYD Tang เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลาง สามารถรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง ในรุ่นนี้จะมาในภาษาดีไซน์แบบใหม่อย่าง “Dragon Face” ด้วยเช่นกัน โดยจำหน่ายในสาธารณรัฐประชาชนจีน นอร์เวย์ และประเทศอื่น ๆ อีกทั้งยังได้รับเลือกเป็นรถทางการของรัฐในบาฮามัส

BYD Tang มีขนาดความยาว 4,900 มม. ความกว้าง 1,950 มม. และความสูง 1,725 มม. ใช้ชุดแบตเตอรี่ Blade Battery แบบเซลล์ LFP ขนาด 108.8 kWh ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อสามารถขับขี่ได้ไกลสุด 730 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อขับได้ไกลสุด 635 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ

BYD Tang มาพร้อมตัวเลือกที่นั่ง 2 แบบ คือ 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดยในรุ่น 6 ที่นั่งในแถวที่สองจะเป็นเบาะแบบ Captain Seat ที่มีระบบปรับเบาะด้วยไฟฟ้า เบาะนวด ระบบระบายอากาศภายในตัวเบาะ และฮีตเตอร์

นอกจากนี้ในด้านเทคโนโลยียังมี DiLink 4.0 และระบบช่วยเหลือการขับขี่ DiPilot ที่เชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 5G และยังมีจอ Heads-up display แบบ W-HUD

รอ BYD มาตีตลาดไทยได้ในปีนี้

BYD มีกำหนดที่จะมาทำตลาดในไทยในปีนี้ โดยจะส่ง BYD Dolphin เป็นผู้นำทัพ และรถยนต์ไฟฟ้าอีก 3 รุ่นเป็นสิ่งที่เราคาดว่าจะเห็น BYD เอาเข้ามาทำตลาดในอนาคต เนื่องด้วยความน่าสนใจของตัวรถในด้านต่าง ๆ ชาวไทยมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถพูดคุยกันได้ที่เพจเฟซบุ๊ค AutoFun Thailand มาได้ครับ

อ่านเพิ่มเติม : ทำไมชาวญี่ปุ่นถึงใช้อีวีจากจีนอย่าง BYD e6 เป็นแท็กซี่ แทนรถที่ผลิตในประเทศตัวเอง?