![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 01]()
รีวิว 2024 Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ค) โฉมไมเนอร์เชนจ์ ปรับดีไซน์ใหม่ เพิ่มออพชั่นเยอะ โดยแทบไม่ปรับราคาขึ้น เมื่อลองใช้งานจริงแล้วจะมีความเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ?
ความต่างภายนอก
ภายนอกเปลี่ยนกันชนหน้า-หลังมีเส้นสายที่แข็งแรงและกว้างขวาง เปลี่ยนกระจังหน้าเป็นปากคว่ำ ดุดันสมกับตัวถังแฮตช์แบ็คเน้นความสปอร์ต ต้องไม่มีหน้าตาเรียบร้อยแบบรุ่นซีดาน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนลายล้อใหม่ด้วย เรียกว่าเอาใจวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ยิ่งรุ่น RS มีสเกิร์ตข้างทรงใหม่ กับดิฟฟิวเซอร์ที่มีพื้นผิวนูนต่ำแบบใหม่ โดยในรุ่นไฮบริด e:HEV ได้เพิ่มสีตัวถังทูโทน มาพร้อมหลังคาสีดำใหม่โดยเฉพาะ
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 01]()
รุ่นเริ่มต้นก็คุ้มแล้ว
ออพชั่นภายในเพิ่มมาให้อย่างคุ้มค่าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ก็ได้เพิ่มระบบ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท เพิ่มระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ ได้ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ และที่สำคัญคือได้ Honda SENSING ติดตั้งมาให้แล้วในตอนนี้ นับว่าเป็นการวางแผนที่ดี เพราะคนไม่อยากจ่ายแพงให้เทคโนโลยี แต่ก็รักชีวิตห่วงความปลอดภัย ก็จะทำให้รุ่นเริ่มต้นคุ้มค่ามากแล้ว
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 02]()
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 03]()
ออพชั่นรุ่นท็อป
รุ่นท็อปมีจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วที่เพิ่มการรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เปลี่ยนช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ได้ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และเปลี่ยนการตกแต่งเบาะจากหนังกลับเป็นเบาะหนังสังเคราะห์ ที่สำคัญคือ ความละเอียดของสีสันหน้าจอได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทำให้ภาพจากกล้อง LaneWatch มีความอิ่มสีสมจริงกว่าเดิม
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 04]()
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 05]()
ลองใช้ LaneWatch กับจอใหม่
การลองขับตอนแรกใช้รถรุ่นไฮบริด City e:HEV ลองใช้ระบบ Honda SENSING วิ่งตามรถคันหน้าแล้ว นับว่ามีความแม่นยำทั้งในทางตรงและทางโค้งกว้าง ๆ มีการเบรคอย่างนุ่มนวล และไม่ชิดคันหน้ามากเกินไป อันที่จริงมันยังมีระยะห่างจากรถคันหน้ามากไปนิด ยังมีรถเปลี่ยนเลนเข้ามาได้ตามเคย
ส่วนระบบ LaneWatch ในหน้าจอใหม่ก็ได้เรื่องสีสันสดใสขึ้น แต่ความละเอียดยังเท่าเดิม และความสะดวกสบายนี้ยังแลกมาด้วยภาพแผนที่ในจอหายไปชั่วคราว ขณะเปิดไฟเลี้ยวเหมือนเคย
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 06]()
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 07]()
ระบบไฮบริดเสถียร
น้ำหนักของรถไฮบริดที่มากกว่าประมาณ 70 กก. มีผลต่อความความหนึบของช่วงล่างอย่างรู้สึกได้ เพราะรถมีความนิ่งในทางตรง ซับแรงสะเทือนที่ความเร็วสูงได้ดี เมื่อเทียบกับรุ่นเทอร์โบที่มีผู้โดยสารนั่งในจำนวนเท่ากัน และในการขับทางไกลกว่า 355 กม.แบบไม่หยุดพัก แล้วลองเอามือจับที่ช่องดักอากาศจากห้องโดยสารเข้าไประบายแบตไฮบริด ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแบตไฮบริดมีความอุ่นมือใด ๆ ยังรับมือกับระยะทางไกลระดับนี้ได้ดี
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 08]()
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 09]()
ลองรุ่นเทอร์โบ
ขากลับเราได้เปลี่ยนขับรุ่นเครื่องยนต์ VTEC TURBO พบว่ามีจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเชื่อมต่อไร้สายได้เช่นกัน และสิ่งที่เราชอบคือระบบสตาร์ทรถด้วยกุญแจ โดยคนกับรถต้องอยู่ในระยะสัญญาณรีโมทในที่โล่ง ไม่ใช่นั่งกินกาแฟในร้านแล้วจะสั่งรีโมทได้นะครับ ส่วนระบบ Walk Away Auto Lock ก็เป็นสิ่งที่ชอบอีกอย่าง เพราะตัดปัญหาคนลืมล็อครถได้อย่างดี
ส่วนระบบที่น่าพูดถึงอีกอย่างคือ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่รถใหม่ควรมีในทุกยี่ห้อได้แล้ว เพราะมันมีประโยชน์อย่างคาดไม่ถึงเลย
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 10]()
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 11]()
หนึ่งเดียวที่ใช้ระบบไฮบริด
Honda City Hatchback ปรับหน้าตาสวยขึ้น เพิ่มออพชั่น ไม่เพิ่มราคา นับว่ามาถูกทางแล้ว เพราะได้ออพชั่นครบเครื่อง ในสเปคไฮบริดที่ไว้ใจได้ ส่วนการไม่มีออพชั่นชาร์จมือถือไร้สาย ก็สามารถหาซื้อต่อเพิ่มเอาเองได้ ไหนๆก็มีการเชื่อม Apple และ Android แบบไร้สายแล้ว จะเพิ่มการชาร์จไร้สายไปด้วย ก็น่าจะได้ใช้งานบ่อยเช่นกัน
ส่วนพลังขับเคลื่อนนั้น ยังคงจุดเด่นกับการเป็น B-segment รุ่นเดียวที่ใช้ระบบไฮบริดแบบนี้ ได้ทั้งความแรงและประหยัด ส่วนเทอร์โบจะให้ความดุดันกว่าเล็กน้อยแล้วแต่คนชอบเลย ซึ่งมีสเปคอยู่ด้านล่างดังนี้
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 12]()
ข้อมูลทางเทคนิค Honda City Hatchback
|
VTEC TURBO |
e:HEV |
แบบเครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ |
เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร |
มอเตอร์ไฟฟ้า |
- |
2 ตัว ขับเคลื่อน/ปั่นไฟฟ้า |
กำลัง |
122 แรงม้า |
เครื่อง 98 มอเตอร์ 109 แรงม้า |
แรงบิด |
173 นิวตันเมตร |
253 นิวตันเมตร |
อัตราสิ้นเปลือง |
23.8 กม./ล. |
27.8 กม./ล. |
อ่านเพิ่มเติม : 2024 Honda City Hatchback ราคา 599,000 - 799,000 บาท เพิ่มรุ่นย่อยไฮบริด และปรับออพชั่นอย่างคุ้ม
![ลองขับ Honda City Hatchback ปรับมาดีกว่าเดิม ทั้งออพชั่นและดีไซน์ มีไพ่ตายที่ Honda SENSING ให้ทุกรุ่น 13]()
ราคา Honda City Hatchback
รุ่นไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
- e:HEV RS ราคา 799,000 บาท
- e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
รุ่น VTEC TURBO มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- RS ราคา 749,000 บาท
- SV ราคา 679,000 บาท
- S+ ราคา 599,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : เทียบ 2023 Honda City SV ทั้ง 2 รุ่นย่อย ต่างกัน 90,000 บาท จะเลือก Turbo หรือ e:HEV ดีนะ?