Porsche 99X เป็นรถแข่งไฟฟ้าในรายการ Formula E แล้วชนะในสนามแรกของปีนี้ ไปดูสเปคแล้วพบว่า Porsche (ปอร์เช่) ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์เสริมพลังไว้มากมาย
เจเนเรชั่นที่ 3 แล้ว
Porsche 99X เป็นรถแข่งไฟฟ้าในรายการ Formula E แล้วชนะในสนามแรกของปีนี้ ไปดูสเปคแล้วพบว่า Porsche (ปอร์เช่) ออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์เสริมพลังไว้มากมาย
Porsche เข้าร่วมการแข่งขัน Formula E เป็นปีที่ 4 แล้ว เป็นรายการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าแบบล้อเปิด ที่เน้นความเร็วสูงสุด เท่าที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมา ดังนั้นแต่ละค่ายก็ต่างงัดไม้ตายเด็ดออกมา รวมถึงปอร์เช่นี้ด้วย ซึ่งได้เปิดตัวรถ Porsche 99X รุ่นที่ 3 ออกมาแล้วเมื่อปลายปี และได้ลงสนามแข่งแรกของปีนี้ แล้วคว้าแชมป์ประจำสนามได้ไปครอง แสดงว่ารถคันนี้ต้องมีของดีซุกซ่อนอยู่แน่นอน เราไปดูสเปคกันดีกว่าครับ
Porsche 99X รุ่นที่ 3 ใช้มอเตอร์ขับหลัง กำลัง 469 แรงม้า (มากกว่าโฉมเดิมที่มี 335 แรงม้า) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที ซึ่งคาดว่าจะมีความเร็วสูงสุดถึง 320 กม./ชม. โดยที่ใช้แบตเตอรี่มีควาจุเพียง 38.5 kWh เท่านั้น เพื่อให้รถมีความเบาและคล่องตัว หากแบตหมดก็สลับรถออกไปขับได้โดยไม่ผิดกฎการแข่ง และยังได้รับอนุญาตให้ทีมแข่งสามารถชาร์จไฟได้ 30 วินาทีเพื่อเอาไว้ใช้แข่งในนาทีสุดท้าย โดยทีมปอร์เช่เตรียมการชาร์จกำลังสูง 600W สามารถเติมไฟเข้าไปได้ 4-5 kWh เอาไว้ไล่แซงคนอื่นได้
นอกจากนี้ Porsche 99X ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าด้วย แต่ไม่ได้ใช้ขับเคลื่อน มันเอาไว้ใช้ชาร์จกลับโดยเฉพาะ โดยมันมีพลังในการชาร์จกลับสูงมาก จนกระทั่งรถคันนี้ไม่ต้องใช้จานเบรคอีกต่อไป เพราะมันมีกำลังเบรคหน้า-หลังรวมกันสูงถึง 804 แรงม้า สามารถหยุดรถได้ดั่งใจ แถมได้ไฟฟ้ากลับเข้าแบตเยอะกว่าใครเพื่อน
การออกแบบตัวถังภายนอก ก็เป็นเรื่องที่ใส่ใจทุกมุม ด้วยจุดเด่นตรงที่ไม่มีแผ่นปิดล้ออีกต่อไป กลายเป็นครีบตัดอากาศ และล้อเปิดโล่งแบบรถแข่งเอฟวันของจริง รวมถึงมีการออกแบบครีบด้านหน้าที่มีมุมซับซ้อน และมีสปอยเลอร์หลายชิ้น ที่ทำมุมกับลม ช่วยให้รถยิ่งวิ่งเร็วก็ยิ่งโดนกดติดพื้นถนนมากขึ้น กลับด้านจากปีกเครื่องบินนั่นเอง ส่วนน้ำหนักรถเบาลง 60 กก.โดยมีน้ำหนักตัวรถรวมคนขับเหลือเพียง 840 กก.นับว่ามีผลต่อการขับขี่อย่างมาก
รถแข่ง Porsche 99X ถูกลงสนามแข่งแรกของรายการ Formula E ประจำปี 2024 ไปแล้ว โดยนักขับชื่อ Pascal Wehrlein ผลปรากฎว่า ทีมนี้คว้าแชมป์ประจำสนามนี้ไป นับว่าเป็นเครื่องยืนยันถึงความแรงของรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ยังเหลืออีก 15 สนามให้ลงแข่งพิสูจน์ว่า รถคันนี้จะเป็น EV ที่แรงสุดในโลกหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม : Porsche นำร่องพัฒนาน้ำมันรถยนต์สังเคราะห์ หวังเป็นทางออกยั่งยืนให้กับรถแข่ง
ประเมินราคารับซื้ออย่างยุติธรรม มีราคากลาง
Porsche Taycan 4 Cross Turismo 2023
แลก
เพิ่มรถของคุณ