Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) โฉมปัจจุบันในรหัสตัวถัง SK ได้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 หรือ 4 ปีที่แล้ว ก็ถึงเวลาปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่เสียที

และนับเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุด ของ Forester เจเนอเรชั่น 5 นี้ ได้ทั้งหน้าตาใหม่ พร้อมอัพเกรดระบบความปลอดภัยกว้างไกลขึ้นกับ EyeSight 4.0 

มี 2 รุ่นให้เลือก

ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ไมเนอร์เชนจ์นี้มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น คือ

ในส่วนของราคาออฟชั่นนี้คือประกันคุณภาพ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือ 24 ชม./5ปี ที่จะมีให้ลูกค้าอยู่แล้ว

ทำให้ราคาจริงในรุ่น 2.0i-L จะเป็น 1,450,000 บาท ส่วน 2.0i-S จะเป็น 1,550,000 บาท หรือห่างกัน 1 แสนบาท

ปรับไฟและกระจังหน้า

สำหรับความเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่ไฟหน้าใหม่ เปลี่ยนจากแนวนอนมาเป็นแนวตั้ง เปลี่ยนเส้นไฟ LED เป็นรูปตัว C ที่ตั้งชันกว่าเดิม ส่วนหลอดไฟเลี้ยวเปลี่ยนเป็นแบบ LED แล้ว

กระจังหน้าเปลี่ยนกรอบใหม่มีเหลี่ยมทั้ง 5 ด้านชัดเจนขึ้น ลายกระจังเปลี่ยนใหม่ให้มีลูกเล่นนูนต่ำแบบ 3 มิติ 

อ่านเพิ่มเติม เทคนิคลับ Subaru Forester 2 ฟังก์ชั่นที่หลายคนอาจไม่รู้

รายละเอียดส่วนอื่นถูกเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ตรงกรอบไฟตัดหมอกเปลี่ยนเป็นทรงกลม ประดับด้วยเส้นโครเมียม 3 ขีดแนวนอน ด้านหลังรถเปลี่ยนแค่แผงชายล่างกันชน ที่มีครีบดิฟฟิวเซอร์เพิ่มเข้ามา

ล้อแม็กซ์เปลี่ยนลายใหม่เป็น 5 ก้านปัดเงาที่เรียวบางลงกว่าเดิม นอกเหนือจากนี้ไม่มีชิ้นส่วนภายนอกที่เปลี่ยนรูปร่างชัดเจน

ภายในไม่เปลี่ยน

สำหรับการออกแบบภายในยังคงเหมือนเดิม ยังไม่ได้เป็นจอขนาดใหญ่แบบ Subaru XV (ซูบารุ เอกซ์วี) แต่คาดการณ์ว่าจะมาในรุ่นโมเดลเชนจ์หน้ากันเลย

มีแต่การเปลี่ยนกรอบปุ่มกดแอร์ใหม่ เพิ่มเส้นโครเมียมสีเงินล้อมรอบให้ดูหรูหราขึ้น 

ใช้เครื่องเดิม

ใช้ขุมพลัง FB20 แบบเบนซินล้วนบอกเซอร์ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 156 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด ขับเคลื่อน AWD

หากเป็นรุ่น L จะได้เป็นล้อขนาด 17 นิ้ว ส่วนตัวท็อป S จะได้ล้อ 18 นิ้วพร้อม Special X-Mode 

ที่มีไว้ใช้ลุยทางโคลนและหิมะหนา ข้อแตกต่างจาก X-Mode เดิมก็คือจะปิดระบบควบคุมการทรงตัว VDC เพื่อยอมให้รถลื่นไถลและดิ้นออกจากโคลนได้ เพราะหากระบบ VDC ยังคงทำงาน จะตัดกำลังของล้อที่ลื่นไถลทำให้ไม่สามารถหลุดจากโคลนได้

เพิ่มความปลอดภัยมากกว่าเดิม

ไฮไลท์หลักของตัวรถก็คือการอัพเกรดระบบความปลอดภัย EyeSight 4.0 ที่จะมีมุมกล้องที่กว้างขวางขึ้น ช่วยสอดส่องได้ดีกว่าเดิม โดยยังคงระบบเดิมว่าแต่ปรับปรุงมาใหม่

• ระบบไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ เพิ่ม ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ เพิ่ม ระบบควบคุมพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ (เฉพาะในรุ่น S)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน เพิ่ม ระบบบังคับรถกลับเข้าเลน

ยังคงระบบเดิมว่าแต่ปรับปรุงมาใหม่ และยังมี

• ระบบเตือนเมือรถส่ายไปมา
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
• ระบบช่วยจัดการคันเร่ง

ถึงจะน่าเสียดายที่ยังไม่มีเครื่องยนต์ไฮบริด e-Boxer แบบประเทศญี่ปุ่นมาให้ แต่ตองยอมรับว่าการไมเนอร์เชนจ์ของ Subaru Forester ครั้งนี้ก็ช่วยให้มีหน้าตาที่สดใหม่ขึ้นและออกดูสปอร์ตกว่าเดิม และยังได้ระบบความปลอดภัยแบบครบครัน มีความเป็นกึ่งอัตโนมัติมากขึ้น ในราคาที่เพิ่มขึ้นมาเพียง 1 แสนบาทก็ถือว่าน่าประทับใจ