ทำไมคนเมิน 2021 Mazda BT-50 แต่มีเหตุผลที่ควรซื้อ ที่หลายคนมองข้าม

2021 Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นรถกระบะที่ได้พันธมิตรใหม่อย่างอีซูซุ เข้ามาร่วมพัฒนาโฉมโมเดลเชนจ์ โดยใช้การออกแบบสไตล์มาสด้า บนพื้นฐานวิศวกรรมอีซูซุ อันเป็นส่วนผสมที่น่าจะลงตัว 

ผลตอบรับหลังจากเปิดตัว กลับไม่เป็นอย่างที่คาด เพราะทำยอดจองได้น้อยมาก เป็นเพราะสาเหตุใด ไปดูความเห็นความประชาชนชาวโซเชียล ที่เรารวบรวมมาไว้ให้อ่าน พร้อมทั้งบทวิเคราะห์ข้อดี ที่หลายคนมองข้ามไปด้วย

ทรงไม่ถูกใจรสนิยมไทย

รถกระบะ มาสด้า บีที-50 มีการออกแบบสไตล์โคโดะยุคใหม่ ที่เน้นเส้นสายโค้งพลิ้วไหว ให้มิตินูนต่ำ เกิดความแปลกใหม่เมื่อเปลี่ยนมุมมอง ฉีกแนวจากรถรุ่นอื่น ๆ ในตลาดรถกระบะ ที่มีกระจังทรงเหลี่ยม ผิวตัวถังมีสันนูนเส้นตรง

การออกแบบของ 2021 Mazda BT-50 รุ่นใหม่นี้ไม่ถูกใจลูกค้ากลุ่มรถกระบะ เพราะว่ากลุ่มนี้มีค่านิยมแตกต่างจากลูกค้าที่ซื้อรถเก๋ง กล่าวคือ มีรสนิยมชอบความบึกบึนแบบรถลุย ขับไปแล้วดูแข็งแรง ดุดัน มีมัดกล้ามสมกับหุ่นสูงใหญ่ของปิคอัพ แต่มาสด้ารุ่นนี้มีตรงข้ามทุกอย่าง เป็นรถกระบะที่หน้าตาเหมือนรถเก๋ง ดูหล่อเหลาเจ้าสำอางค์มากกว่า

ศูนย์บริการไม่มั่นใจ

All-new มาสด้า บีที-50 ใช้ระบกลไกภายในเป็นของ Isuzu D-max ทีมีความไว้ใจได้ มีชื่อเสียงความทนทาน แต่ลูกค้าไม่เชื่อถือศูนย์บริการของมาสด้าซะเอง เนื่องจากมีจำนวนน้อยกว่า และมีค่าแรงที่สูงกว่า ซึ่งรวมถึงการที่ค่ายอีซูซุมีบริการหลังการขายดีมาก จึงทำให้คนมองกระบะใหม่ ไม่คิดเปลี่ยนยี่ห้อ แต่ล่าสุดมีข่าวว่า มาสด้าเร่งปรับปรุงบริการหลังการขายแล้ว

สเปคบางอย่างด้อยกว่ารุ่นเก่า

2021 Mazda BT-50 เมื่อเทียบกับโฉมเก่า 2018 Mazda BT-50 Pro จะพบว่ามีสเปคตัวถังบางอย่างด้อยกว่าอย่างเห็นชัดเจน เช่น ความสูงขอบกระบะรุ่นเดิม 513 มม. พอเป็นรุ่นใหม่เหลือ 490 มม.(อ้างอิงจากสเปคอีซูซุ) หรือจะเป็นความยาวฐานล้อรุ่นเดิม 3,220 มม. พอเป็นรุ่นใหม่เหลือ 3,125 มม. แตกต่างจากเดิมขนาดนี้ คนที่ยังขับกระบะ BT-50 pro รุ่นเดิม ก็ยังไม่คิดเปลี่ยนรถใหม่

จุดเด่นช่วงล่างหายไป

ระบบช่วงล่าง DE-S ที่เคยเป็นจุดเด่นในรุ่นเก่า กลับหายไปในรถ All-new Mazda BT-50 ใหม่ เพราะว่าใช้ระบบช่วงล่างมาจากอีซูซุ จึงเสียไม้ตายไปอีกหนึ่งอย่าง แถมเสียภาพลักษณ์ของชื่อมาสด้า เรื่องความเกาะถนน ที่เคยสร้างมาในรถเก๋งอีกด้วย

กลัวราคาขายต่อตก

คนส่วนใหญคงไม่มีทางใช้รถไปจนแก่ จึงต้องมีการขายต่อบ้างในอีก 10-20 ปีข้างหน้า ซึ่งในวงการรถกระบะนั้น มาสด้า บีที-50 ไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องราคาขายต่อดี หรือขายออกง่ายดาย สู้รถกระบะชื่อดังฝาแฝดกัน ที่ขายต่อง่าย ขับเข้าเต้นท์ไหนก็รับซื้อเร็ว หรือประกาศขายเองก็ได้ราคาดีกว่า (เมื่อเทียบในสภาพเดียวกัน) 

ข้อดีที่หลายคนมองข้าม 

2021 มาสด้า บีที-50 มีข้อดีจากรุ่นเดิมที่หลายคนไม่รู้ นั่นคือ กระบะท้ายในรุ่นดับเบิ้ลแค็ป มีความยาวกว่าเดิม 22 มม. และเมื่อเทียบกับ 2021 Isuzu D-max ฝาแฝดด้วยกันแล้ว พบว่า 2021 Mazda BT-50 รุ่นดับเบิ้ลแค็ป มีความยาวกระบะท้ายมากกว่าถึง 76 มม.

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า พบว่าใช้เครื่องยนต์ความจุกระบอกสูบลดลงจาก 2.2 ลิตร เหลือ 1.9 ลิตร โดยยังมีแรงม้าเท่าเดิม ทั้งหมดนี้ส่งผลทำให้อัตราเร่งดีขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น ตามการทดสอบจาก Eco sticker วัดได้ 16.12 กม./ลิตร แถมยังใช้น้ำมันไบโอดีเซลได้สูงสุดถง B20 อีกด้วย

ควรผลิตรุ่นตัวเตี้ย 4 ประตู

สุดท้ายนี้ หากจัดโปรโมชั่นสุด ๆ แล้วยอดขายยังไม่ดีขึ้น ควรพิจารณาออกรุ่นย่อยใหม่ แบบตัวเตี้ย 4 ประตู ที่มีราคาเอื้อมถึงง่าย นั่งได้ 2 ตอนสบาย ๆ ให้ครอบครัวชนชั้นกลางได้เข้าถึงมากขึ้น หรือได้ใจวัยรุ่นแต่งซิ่งไปอีกด้วย เพราะหน้าตารถนั้นมีความสปอร์ตเป็นทุนเดิมมากกว่าใครในวงการรถกระบะด้วยกัน