GolF said... หนทางที่ไม่ง่ายสำหรับแบรนด์รถจีน เพื่อแข่งกับค่ายรถอื่นในไทย

การประกาศตัวเข้ามาในตลาดรถยนต์ล่าสุดของ Great Wall Motors (เกรท วอลล์ มอเตอร์ส) ที่เตรียมเปิดตัวรถรุ่นแรกของพวกเขาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้เกิดกระแสที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์จากประเทศจีนในไทยอีกครั้ง

ทั้งกระแสด้านดีที่ระบุว่าประเทศไทยนั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างเกรทวอลล์ที่ชื่อชั้นไม่ธรรมดาตัดสินใจมาลงทุนในไทย แต่ในด้านลบนั้น ก็มีการปรามาสพวกเขาอยู่มากว่าจะรอดหรือไม่ในตลาดนี้

เพราะตลาดประเทศไทยนั้นเป็นตลาดปราบเซียน และมีค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเมืองจีนเอาชื่อมาทิ้งในประเทศของเราหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้หลาย ๆ คนพูดเลยว่า ตลาดรถยนต์ไทยเป็นตลาดของรถญี่ปุ่นและรถยุโรปสำหรับคนรวย

แม้ว่าเส้นทางของเกรทวอลล์นั้นอาจจะดูสดใสกว่า เนื่องจากพวกเขามีแบรนด์อย่าง MG (เอ็มจี) ที่ทุกคนระบุว่าเป็นแบรนด์จีน ทำตลาดในประเทศไทยมายาวนานกว่า 7 ปี ทำให้ภาพของแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรนั้นดีขึ้นอยู่เอาเรื่อง

แต่บอกเลยว่า หากต้องการที่จะแข่งขันกับผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นและยุโรปให้ได้อย่างเต็มที่กว่านี้ ทั้ง 2 แบรนด์ก็ยังมีงานหนักอย่างมากให้ทำอยู่ ในการก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์รถยนต์หลักในประเทศไทยให้ได้ในสักวัน ไม่ง่ายนะ!!!

อ่านเพิ่มเติม: 9 สิ่งที่คุณต้องรู้กับ GWM Thailand มังกรตัวใหม่สำหรับตลาดประเทศไทย

ทำไมรถจากจีนถึงมีภาพลักษณ์ว่าต้องถูกและไม่ทน

สังเกตุกันไหมว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราพูดถึงรถยนต์จากประเทศจีน ภาพลักษณ์ที่อยู่ในหัวของพวกเรามักจะหนีไม่พ้นการเป็นรถยนต์ราคาถูก คุณภาพไม่สูงมาก ไม่มีความทนทาน จนพาลไปถึงมองว่าเป็นกลุ่มรถที่ไม่มีความคุ้มค่าไปเลย

เอาจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะหากย้อนไปในอดีตนั้น รถยนต์จากประเทศจีนในยุคก่อนหน้านี้สัก 10 ปีขึ้นไปก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ หลาย ๆ คนอาจจะเคยจำแบรนด์อย่าง Chery (เฌอรี่) หรือ Wuling (หวู่หลิง) ในยุคโบราณได้ดี

ทั้งเรื่องของการก็อปปี้รูปลักษณ์ของรถยนต์จากญี่ปุ่นก็ดี การไม่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองก็ดี หรือแม้แต่การมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่อาจจะไม่ได้จริงจังในการทำธุรกิจมากนัก ทำให้รถยนต์จีนโดนมองแบบนี้มาโดยตลอด

จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่รถยนต์จากจีนที่มีปัญหาเหล่านี้ ในประเทศไทยนั้นมีค่ายรถที่มีภาพลักษณ์ไม่แตกต่างกันอยู่หลายแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น Proton (โปรตอน) จากมาเลเซีย หรือแม้แต่รถยุโรปหรืออเมริกันบ้างค่ายก็เคยไม่แตกต่างกันนัก

คนไทยนั้นใช้งานรถเป็นระยะเวลายาว และมีราคาจำหน่ายรถที่ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ รถยนต์จากจีนในอดีตก็มองเห็นจุดขายในเรื่องของการทำราคาต่ำเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า จนกลายเป็นภาพจำของผู้บริโภคไปแล้ว

เมื่อโลกเปลี่ยนไปและยักษ์ใหญ่จากจีนไม่อยู่กับที่

เอาจริง ๆ หากมองไปที่ภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทศจีนในปัจจุบัน ต้องถือว่าพวกเขาทำงานกันอย่างหนักหน่วง ในฐานะของตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ของโลก ที่มีการวางโครงสร้างของการพัฒนามานานนับทศวรรษ

ไม่ว่าจะเป็นข้อกำหนดในเรื่องของการตั้งโรงงานในประเทศ ที่จะต้องเป็นลักษณะของการถือหุ้นร่วมกัน ทำให้ต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่น หรือแม้แต่ความพยายามในการผลักดันให้เกิดการผลิตภายใน

นอกจากนี้ เมื่อทั่วโลกเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่จีนยังไหวอยู่ พวกเขาก็เดินหน้าครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อหุ้นหรือกิจการของค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั่วโลก รวมไปถึงการสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับค่ายรถยนต์ชั้นนำมาตลอดช่วงเวลาหลายปี

คิดว่าคงรู้อยู่แล้วว่า Geely (จีลี่) นั้นเป็นเจ้าของ Volvo (วอลโว่) รวมถึง Lotus (โลตัส) ที่ได้มาตอนเทคโอเวอร์โปรตอนก่อนหน้านี้ SAIC (เอสเอไอซี) เจ้าของเอ็มจีก็เป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับ GM (จีเอ็ม) และอีกหลายแบรนด์

หรือแม้แต่ GWM ที่ดูเหมือนจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงนั้น พวกเขาก็เน้นการขยายธุรกิจเมื่อมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในประเทศตัวเอง รวมถึงการเข้าซื้อโรงงานของจีเอ็มในช่วงที่ผ่านมาทั้งในอินเดียและประเทศไทยเพื่อบุกตลาดเอเชียจริงจัง

ไม่ใช่แค่เรื่องของการขยายธุรกิจเท่านั้น แต่ในโลกของเทคโนโลยียานยนต์พวกเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะจีนนั้นเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้ารูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาระบบต่าง ๆ ที่ใช้งานได้ก็มาจากจีนทั้งนั้น

ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมการเป็นฐานการพัฒนาชิ้นส่วน ชิป และอุปกรณ์เพื่อการประกอบรถยนต์ต่าง ๆ ที่พวกเขาพัฒนามาอย่างต่อเนื่องหลายปี จนทำให้เราไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่า พวกเขามีความพร้อมในการบุกตลาดโลกอย่างเต็มที่

แต่ยังไงก็ต้องปรับเรื่องภาพลักษณ์ และมันต้องใช้เวลา

ถามว่าภาพลักษณ์ของรถยนต์จีนในความรู้สึกผู้บริโภคชาวไทยนั้นเป็นอย่างไร ก็ขอให้กลับไปที่หัวข้อย่อยแรกด้านบนที่ได้กล่าวเอาไว้ ถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจขนาดนั้น ก็ต้องพาย้อนอดีตไปในช่วงแรกที่เอ็มจีเข้ามาเปิดตลาดในไทย

หากใครจำกันได้ ในช่วงแรกของการเปิดตัวเอ็มจีนั้น พวกเขาหลีกเลี่ยงการเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนมาก ด้วยการเลี่ยงไปหาจุดเริ่มต้นของแบรนด์อย่างการประกาศว่าตัวเองเป็นรถยนต์อังกฤษ มีรากฐานมาจากเมืองผู้ดีด้วยซ้ำ

ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ผิดอะไรนะ เพราะเอสเอไอซีก็ไปซื้อแบรนด์นี้มาจากอังกฤษจริง ๆ ฐานการออกแบบยังอยู่ที่อังกฤษ แต่อื่น ๆ รวมถึงผู้บริหารมาจากจีนทั้งหมด ทำให้ผู้บริโภคเองก็รู้สึกได้ล่ะว่า เจ้าของแบรนด์ยังรู้เลยว่าแบรนด์มีปัญหา

เคยมีคนประเมินว่า ผู้บริหารเอ็มจีไม่ได้กังวลเรื่องแบรนด์รถว่ามาจากที่ไหนหรอก แต่ห่วงภาพลักษณ์รถยนต์จีนแบบเดิม ๆ ทั้งเรื่องของคุณภาพและเรื่องของการทำราคาจำหน่ายสูงไม่ได้ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจระยะยาว

เมื่อพวกเขาเปิดตัว MG6 (เอ็มจี6) ด้วยราคาที่สุดโต่ง แม้จะมาพร้อมเทคโนโลยีระดับสูงมากมาย ผลคือผู้บริโภคไม่ซื้อ จากนั้นก็มีการพยายามแก้เกมหลายครั้ง มีที่สำเร็จมากอย่าง MG3 (เอ็มจี3) แต่ก็มีหลายสินค้าที่เรียกได้ว่าต้องปรับปรุง

ถ้ามองแบบภาพรวม เอ็มจีมาประสบความสำเร็จมาก ๆ จริง ๆ ในช่วงของการเปิดตัว MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รถยนต์เอนกประสงค์ที่มาพร้อมของเล่นมากกกว่าคู่แข่ง และที่ดีกว่าคู่แข่งจริง ๆ ก็คือการทำราคาที่ส่งผลให้ยอดขายเติบโตดี

เมื่อมีสินค้ารุ่นหนึ่งสำเร็จ มีฐานลูกค้าที่มากพอ เอ็มจีในยุคหลังเริ่มหาทางของตัวเองสำเร็จ สินค้าหลาย ๆ รุ่น เน้นการใส่ออพชั่นเยอะ พร้อมทำราคาที่ผู้บริโภคพอเอื้อมถึงได้ แม้ยอดขายจะไม่ได้ทะลุฟ้า แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในรอบหลายปี

จะเห็นได้ว่า การเข้ามาในตลาดให้ผู้บริโภคไว้วางใจ ยอมรับและเปิดใจนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จริงอยู่ว่าการทำราคาสินค้าที่ดี จะทำให้ผู้บริโภคยอมตัดสินใจเป็นเจ้าของรถของคุณได้ แต่มันก็ไม่เพียงพอในระยะยาว

ลองคิดภาพดูว่า หากเอ็มจีไม่เปิดโชว์รูมเพื่อดูแลลูกค้า ไม่มีบริการอะไรเลยที่แปลกใหม่ ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะเดินหน้าตลาดในประเทศไทยไปอีกนาน แบรนด์รถยนต์แบรนด์หนึ่งก็อาจจะไม่ได้อยู่ยืนยงได้ขนาดนั้น

อ่านเพิ่มเติม: GolF ก็ว่า... 7 ปีของ MG จากบริษัทที่มีแต่คนดูแคลน กลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์

โอกาสของแบรนด์ใหม่ ในตลาดที่ผู้บริโภคพร้อมเสี่ยง

โดยส่วนตัวเลยผมคิดว่าโอกาสที่แบรนด์รถยนต์ใหม่ ๆ จะเข้ามาเปิดตัวและเติบโตในประเทศไทยได้นั้นยังมีอยู่ตลอด เพราะตลาดประเทศไทยเองยังขยายตัวได้อยู่ และผู้บริโภคในประเทศไทยนั้น เปิดโอกาสให้กับแบรนด์ใหม่ ๆ ตลอด

ถ้าคุณคิดว่ามีดีพอและเป็นทางเลือกที่ดีให้ลูกค้าได้ มันก็จะมีกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่สนใจอยู่ดี ไม่อย่างนั้น บูธของเกรทวอลล์ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา คงไม่มีคนไปถล่มกันอย่างคึกคัก แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าของพวกเขา

คำถามคือ นอกเหนือจากตัวสินค้าแล้ว อะไรที่จะทำให้ผู้บริโภคยอมเสี่ยงในการซื้อรถเหล่านี้ หนึ่งคือราคาจำหน่ายที่ต้องดึงดูดใจ สองคือความมั่นใจว่าใช้งานรถเหล่านี้แล้วจะไม่ก่อปัญหาให้ปวดหัวในระยะยาว ซึ่งเป็นโจทย์ที่ต้องตอบ

แน่นอนว่าเกรทวอลล์จะไม่ใช่แบรนด์รถยนต์ใหม่แบรนด์สุดท้าย และหากพวกเขาทำได้ดี ก็จะเป็นการกรุยทางให้กับค่ายรถยนต์จากประเทศจีนต่อไปในอนาคต เพราะรูปแบบการนำเสนอการบริการและอื่น ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่แปลกใหม่

เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่แบกรับแบรนด์ Haval (ฮาวาล) หรือ ORA (ออร่า) เอาไว้เท่านั้น แต่การเข้ามาเปิดตลาดในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ผลิตรถยนต์จากจีน หรือไม่ก็อาจจะตอกย้ำภาพลักษณ์เก่า ๆ ของรถจีนได้เช่นกัน

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Haval H6

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

รีวิว 2023 Haval H6 PHEV พาชมจุดเด่น-ด้อยรอบด้าน จะคุ้มค่าตัว 1.699 ล้านบาทหรือไม่ มาชมกัน | AutoFun

รีวิว 2022 Haval H6 PHEV ไม่ได้ 201 กม. แต่ได้ใจเราด้วยเครื่องดี ช่วงล่างเด่น เน้นออพชั่น | AutoFun

รีวิว 2021 Haval H6 HEV C-SUV เทคโนโลยีแน่นคัน เหนือชั้นญี่ปุ่น-ยุโรป กล้อง 4MP ชัดถึงไหน มาดูกัน!!!

พรีวิว Haval H6 HEV 243 แรงม้า 530 นิวตันเมตร ออพชั่นล้น แบบนี้มา 1.5 ล้านบาทไหม?

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

  • Haval H6
    THB 1,149,000
    VS
    Toyota Fortuner
    THB 1,351,000
    H6 vs Fortuner
  • Haval H6
    THB 1,149,000
    VS
    Honda CR-V
    THB 1,419,000
    H6 vs CR-V
  • Haval H6
    THB 1,149,000
    VS
    Mitsubishi Pajero Sport
    THB 1,299,000
    H6 vs Pajero Sport
  • Haval H6
    THB 1,149,000
    VS
    Isuzu MU-X
    THB 1,119,000
    H6 vs MU-X
  • Haval H6
    THB 1,149,000
    VS
    Honda HR-V
    THB 979,000
    H6 vs HR-V
Haval H6
เช็คทันที