เหมือนหรือไม่? Audi ถูกกีฬา Olympic ฟ้องละเมิด เพราะโลโก้ 4 ห่วง เหมือนตราของงานระดับโลก

Audi (เอาดี้) ค่ายรถจากเยอรมนีโลโก้ 4 ห่วง ซึ่งเคยมีประวัติถูกฟ้องมาแล้วโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หาว่าใช้โลโก้ที่ดูคล้ายกัน เพียงแค่เพิ่มเป็น 5 ห่วงเท่านั้น คดีนี้ตัดสินสิ้นสุดแล้ว เอาดี้ไม่ผิดแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังสนับสนุนกีฬาโอลิมปิกให้หลายชาติอีกด้วย มาย้อนดูคดีฟ้องร้องสุดดังในอดีตนี้กัน

โอลิมปิกเริ่มก่อน

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เป็นผู้เริ่มฟ้องต่อศาลเครื่องการหมายค้านานาชาติ กล่าวโทษแก่เอาดี้ ด้วยข้อหาใช้สัญลักษณ์วงแหวน 4 ห่วงซ้อนกัน ซึ่งดูคล้ายกับโลโก้ของโอลิมปิก ซึ่งเป็นวงแหวน 5 ห่วงซ้อนกัน ซึ่งโอลิมปิกเริ่มใช้เมื่อปี 1913 ส่วนเอาดี้เริ่มใช้ในปี 1932 แต่เพิ่งคิดฟ้องในปี 1995 นี่เอง

อ่านเพิ่มเติม: Review 2020 Audi e-tron Sportback รถไฟฟ้าเสียบปลั๊ก 5.299 ล้านบาท ครบทั้งแรงทั้งหรูแบบไร้คู่แข่ง

ศาลตัดสินว่าไม่เหมือน

แม้ว่าลักษณะโลโก้โดยรวมจะเป็นวงแหวนคล้องต่อกัน แต่รายละเอียดไม่เหมือนกัน โดยทางโอลิมปิกใส่สี 5 เฉดแทนทวีปใหญ่ของโลก คล้องเรียงต่อกันแบบสับหว่างขึ้น-ลง ส่วนโลโก้ของเอาดี้ เป็นวงแหวนสีเดียวล้วน ๆ มีจำนวนน้อยกว่า คล้องต่อกันเรียงแนวนอน จึงมีความแตกต่างมากพอที่ทำให้คนแยกแยะได้ไม่สับสน ดังนั้นศาลจึงยกฟ้อง

ความหมายเหมือนกัน

แม้ว่าศาลจะยกฟ้องแล้ว แต่ก็มีหลายคนยังคิดว่า โลโก้ของเอาดี้นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากตรงของโอลิมปิกอยู่ดี เพราะวงแหวนที่คล้องกัน สื่อถึงแกนหลักแต่ละสาขา มารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ในโอลิมปิกคือ เอเชีย ยุโรป อัฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกา ส่วนทางเอาดี้คือ Audi, Horsch, DKW, Wanderer มารวมกันเป็นแบรนด์เดียว

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว 2021 Audi RS4 Avant จ่าย 5.899 ล้านบาท ได้ฝูงม้า 450 ตัว แพงแต่แรงเหนือใครในคลาส

เอาดี้สนับสนุนโอลิมปิก

เอาดี้ผู้โดนฟ้อง ก็ไม่ได้ติดใจเอาความฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาทใด ๆ มิหนำซ้ำยังสนับสนุนงานกีฬานี้หลายปี ด้วยการมอบรถใหม่ให้นักกีฬาที่ได้เหรียญ (ตามแคมเปญแต่ละประเทศ) อีกทั้งยังเคยมอบรถให้ใช้รับส่งเจ้าหน้าที่ในงานโอลิมปิกที่ประเทศจีนอีกด้วย

เอาดี้ยังใช้ 4 ห่วงไปอีกนาน

ในปี 2017 โลโก้ 4 ห่วงนี้ ได้ถูกปรับปรุงจากสีโครเมียม 3 มิติ มาเป็นเส้นวงแหวน 2 มิติ เพื่อการแสดงผลอย่างสวยงามขึ้นบนหน้าจอดิจิตอล อันเป็นเทรนด์การออกแบบใหม่บนโลกดิจิตอล ที่รองรับการใช้งานได้อีกยาวนาน แสดงถึงความตั้งใจว่าจะไม่เปลี่ยนตรา 4 ห่วงนี้ไปอีกนาน