2022 Haval Jolion HEV ขับเคลื่อนอัตโนมัติ 2+ จอ 12.3 นิ้ว คาดรุ่นท็อปต่ำล้าน แย่งตลาด HR-V/Corolla Cross/Kicks

เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย สำหรับ 2022 Haval Jolion HEV (ฮาวาล โจไลออน เอชอีวี) รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากประเทศจีนที่ทำยอดจำหน่ายไปมากมาย

โจไลออนคือครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่ทำยอดจำหน่ายไปมากกว่า 4 หมื่นคันใน 8 เดือนแรกของปีนี้ที่ประเทศจีน แม้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ และอุปกรณ์ที่น้อยกว่าเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในประเทศไทยก็ตาม แต่ก็ได้ใจแฟน ๆ ไปอยู่ไม่น้อย

GWM เปิดสายการผลิตรถรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 ในโรงงานประเทศไทย ต่อจาก 2021 Haval H6 HEV (ฮาวาล เอช6 เอชอีวี) ที่เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกในโลกเช่นกัน แต่เป็นสินค้ารุ่นที่ 3 ในการทำตลาดต่อจาก ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) ในเมืองไทย

รถยนต์ที่เปรียบเป็นเหมือนรักครั้งแรกตามชื่อ เข้ามาทำตลาดเพื่อท้าชนกับครอสโอเวอร์อย่าง 2022 Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ที่เพิ่งเปิดตัวไป Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) รวมถึงเจ้าตลาดอย่าง Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส)

นอกเหนือจากขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่งในทุกมิติ ให้ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ตัวรถยังมาพร้อมการตกแต่งที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร ไฮไลท์ที่เครื่องยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูงและระบบความปลอดภัยที่ให้มาครบครัน

ถ้ารุ่นท็อปราคาไม่เกินล้านบาท คงเห็นลูกค้าลังเลกันแน่นอน!!!

ภายนอกใหญ่โต และออกแบบมาอย่างโฉบเฉี่ยว

ตัวรถภายนอกนั้นดูใหญ่โตกว่าคนอื่น ด้วยการออกแบบที่เน้นการตีโป่งของตัวถัง แต่ด้านท้ายออกแบบให้มีความเรียบแบบกล่องในสไตล์รถยุโรป ทำให้ตัวรถดูมีองค์ประกอบของรถหลายยี่ห้อประกอบกันอยู่ แต่ก็มีความลงตัวสวยงามดูดีไปอีกแบบ

มิติตัวถังเหนือกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์ ด้วยความกว้าง 1,841 มิลลิเมตร ยาว 4,472 มิลลิเมตรและสูง 1,619 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,700 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารภายในมีความกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง

การออกแบบนั้นยังคงใช้แพลตฟอร์มเลมอนเหมือนกับรุ่นพี่อย่างเอช6 มาพร้อมการออกแบบด้านหน้าด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีเทา-ดำ ดูลงตัวกับชุดไฟหน้าแบบแอลอีดีทั้งระบบ ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟเวลคัมที่ดูแปลกตา

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ฮาวาลตัดระบบประตูหลังแบบไฟฟ้าออกไปจากเจ้าสิงโตอารมณ์ดีตันนี้ซะงั้น แต่ยังดีที่ให้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลายสปอร์ตแตกต่างจากเอช6 มาพร้อมยาง 225/55R18 ซึ่งแม้จะดูแก้มหน้าไปนิด แต่ก็ดูสวยงามและทำให้รถดูลงตัวเลย

ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้ายแบบแอลอีดีทั้งระบบ สปอยเลอร์หลังพร้อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอกหลังแบบแอลอีดี เสาอากาศแบบครีบฉลาม ดิฟฟิวเซอร์หลังออกแบบอย่างดุดันแบบรถเอสยูวี และมาพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่

อ่านเพิ่มเติม: ชมไฮไลท์ 2022 Haval Jolion ที่ Great Wall ยืนยันเหมาะกับการเป็นรถคันแรกในชีวิต

ห้องโดยสารที่ให้บรรยากาศหรูหราจนแอบโอเวอร์

แม้จะมาพร้อมรูปลักษณ์สปอร์ตที่ดูดุดันขนาดไหนที่ภายนอก แต่บรรยากาศห้องโดยสารนั้นกลับดูเน้นไปที่ความหรูหรา เวอร์วังอลังการมากกว่า ด้วยชุดที่เบาะที่นั่งสีครีมตัดกับแถบสีเทาและน้ำตาล พร้อมการปักโลโก้ HAVAL ที่ตำแหน่งพนักพิง

ใครที่อยากได้เบาะนั่งแนวสปอร์ตอาจจะต้องหาทางเลือกอื่น ๆ แต่เบาะที่นั่งชุดนี้ก็นั่งสบายมากจริง ๆ ออกแนวนุ่มและมีตำแหน่งการนั่ง การรองรับน้ำหนักหลังและเข่าที่ดีมาก แถมมีเจาะรูระบายอากาศให้ด้วย แม้จะปรับไฟฟ้าแค่ที่เบาะคนขับก็ตามที

ที่นั่งตอนหลังมาพร้อมที่วางขาและเฮดรูปแบบเหลือ ๆ มีอุปกรณ์มากมายมาให้ ทั้งที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้ว ช่องปรับอากาศด้านหลังและช่องชาร์จไฟแบบยูเอสบี 2 ตำแหน่ง สามารถพับเบาะแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 1,069 ลิตร

จุดที่น่าเสียดายก็คือ เมื่อคุณพับเบาะหลังลงมาแล้ว ตำแหน่งการพับของเบาะหลังนั้นจะไม่เรียบเป็นพื้นเดียวกันกับห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย และตำแหน่งของห้องเก็บสัมภาระนั้นค่อนข้างสูงจากพื้น กรณีที่เราต้องยกของเข้า-ออกก็อาจจะไม่สะดวก

อย่างไรก็ตาม จุดที่จะทำให้ทุกคนมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ไป ก็คือหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วขนาดใหญ่แบบลอยตัว ที่ติดตั้งที่ตำแหน่งกึ่งกลางแผงคอนโซลที่ออกแบบด้วยโทนสีเดียวกับเบาะ และมาพร้อมวัสดุผิวนิ่มที่รับจุดที่มือสัมผัสได้ดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม: สปายช็อต 2021 Haval Jolion / First Love วิ่งทดสอบสมรรถนะในไทย จ่อเผยโฉมปลายปีนี้?

หน้าจอกลางดังกล่าวรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay การเล่นไฟล์เพลง MP3 และ JOOX รวมถึงการนำทางผ่านระบบนำทาง รวมถึงยังมีระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายขนาดใหญ่ ที่หยิบวางได้อย่างสะดวก และใช้งานได้อย่างสบายอีกด้วย

การแสดงผลข้อมูลการขับขี่เป็นหน้าที่ของหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และการแสดงผลผ่านหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงผลบนกระจกบังลมหน้า มาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซนแยกปรับซ้าย-ขวา ที่สามารถกรอง PM2.5 ได้ 

เครื่องยนต์ไฮบริด ติดตั้งในรถเล็ก จะแรงขนาดไหนนะ

ในรุ่นที่จำหน่ายในประเทศจีน โจไลออนได้รับคำวิจารณ์ในเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองที่ถือว่าสูงอยู่ และเมื่อเข้ามาประเทศไทย พวกเขาทำการติดตั้งเครื่องยนต์ตัวเดียวกับเอช6 ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์ที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าอัตราสิ้นเปลือง ก็คือการเลือกใช้งานเครื่องยนต์ที่มีอัตราการตอบสนองที่ดีอยู่แล้วในรถรุ่นใหญ่ เมื่อมาอยู่ในตัวถังที่เล็กและเบาลง ก็น่าจะทำให้การตอบสนองดุดันขึ้นไปอีก ให้สมกับการเป็นเวอร์ชั่นไฮบริดเป็นครั้งแรกของรถรุ่นนี้

ด้วยการใช้แพลตฟอร์มมะนาวเหมือนกัน ทำให้สามารถเลือกติดตั้งเครื่องยนต์แบบเดียวกันไม่ยาก การทำงานของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ลดทอนกำลังมาที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร น่าจะให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น

การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของระบบเกียร์อัตโนมัติ DHT ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด ที่คาดว่าจะมาพร้อมโหมดการขับขี่หลากหลายรูปแบบ เหมือนกับที่รุ่นพี่อย่างเอช6 ก็มีให้เลือกโหมดการขับขี่มากถึง 4 รูปแบบ

ไม่ใช่แค่ความยอดเยี่ยมในการขับขี่ แต่ฮาวาลคำนึงถึงความสวยงามในการใช้งาน ด้วยการออกแบบชุดเกียร์ไฟฟ้าแบบปุ่มหมุน พร้อมสีพิเศษที่ทำให้มีความโดดเด่น มาพร้อมกุญแจสมาร์ทคีย์และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการใช้งาน

อ่านเพิ่มเติม: Owner Review : ตกหลุมรัก 2021 Haval Jolion ภายนอกสวย ภายในสะดวก พร้อมอัตราสิ้นเปลือง 8 ลิตรต่อ 100 ก.ม.

ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เลเวล 2+ ลุ้นระบบอื่น ๆ มาให้ครบไหม

แม้จะยังไม่ได้ระบุในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่จากการดูจากตัวรถและการสอบถามทีมงานของฮาวาล ได้รับการยืนยันมาว่า รถรุ่นใหม่ของพวกเขาจะมาพร้อมเทคโนโลยีระบบการขับขี่อัตโนมัติ เลเวล 2+ เทียบเท่าเอช6 และเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น

นั่นก็หมายถึงรถมาจะพร้อมระบบกล้องแบบ 360 องศา เซนเซอร์ด้านหน้า พร้อมกล้องที่กระจังบังลมหน้า เพื่อรองรับการใช้งานของระบบ ที่จะต้องมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนและช่วยเบรกด้านหน้า และอาจจะมีด้านหลังด้วย

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลนและระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนมาแน่นอน รวมถึงระบบช่วยพารถออกจากรถบรรทุกและกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมอาจจะได้เห็นกัน และลุ้นว่าระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยกจะมาด้วยหรือไม่

หากโจไลออนจะเลือกติดตั้งระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่ที่สร้างเสียงฮือฮามาแล้วในรุ่นพี่อย่าง H6 HEV ก็จะทำให้รถคันนี้มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างมาก แถมมีการติดตั้งระบบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชันมาให้เรียบร้อย

ส่วนระบบที่คิดว่าอาจจะหายไปในรถรุ่นนี้ เพราะอาจจะดูเยอะเกินไปก็คือ ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ รวมไปถึงระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ 50 เมตร ซึ่งระบบหลังโดนถอดออกไปแล้วจาก Good Cat ที่เหลือก็ต้องมารอลุ้นทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง

ฮาวาล เตรียมจัดการทดสอบรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่ง AutoFun Thailand จะนำผลการทดสอบมานำเสนออย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ว่ารถเล็กที่จะมาท้าชนคู่แข่งคันนี้ จะมีดีเพียงใด และจะเขย่าตลาดได้อีกครั้งหนึ่งหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สนนราคาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยพวกเขาเตรียมที่จะประกาศราคาจำหน่ายรถคันนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมนำรถเข้าไปจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบในงานมหกรรมยานยนต์ที่จะถึงในช่วงปลายเดือนนี้

มาลุ้นราคากัน ให้ผมเดา ผมทายว่าตัวท็อปของรุ่นที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบ ๆ น่าจะจบที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท อาจจะเห็นที่ 9 แสนกลาง ๆ ค่อนปลาย ขณะที่ทางเลือกในรุ่นเริ่มต้นนั้นอาจจะเห็นที่ 8 แสนบาทกลางค่อนปลาย เดาแบบนี้อาจจะไม่แม่นก็ได้นะ

มารอลุ้นไปพร้อม ๆ กันอีกทีตอนใกล้สิ้นเดือนก็แล้วกัน...