2019 Mazda MX 5 RF คือโรคสเตอร์ ขับสนุก กับ 4 เหตุผลที่จะทำให้คุณหลงรักคันนี้

2019 Mazda MX5 RF หรือ Miata อีกชื่อหนึ่งที่วางขายในตลาดอเมริกา เป็นหนึ่งในรถที่มีความลงตัวทั้งความสวยงาม ความแรง และราคาที่หลายคนสามารถจับต้องได้ซึ่งในโฉมนี้ใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV-G ความจุ 1998 ซีซี กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมกับระบบเกียร์แมนนวล 6 สปีด และ เกียร์ซีวีที 6 สปีด (สามารถปรับเกียร์แบบแมนนวลได้) มีอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 13 – 15 กม./ลิตร มาด้วยราคาเปิดตัวทั้งรุ่นเกียร์ออโต้ และ แมนนวลอยู่ที่ 290,000 บาท ให้ผู้ใช้เลือกความสนุกในการเล่นเกียร์โดยไม่เกี่ยงกันเรื่องราคา และนี่คือ 4 ข้อที่จะทำให้คุณอยากได้  มาสด้า เอ็มเอ็กซ์ 5 อาร์เอฟ กันมากขึ้น

 1.ราคาถูกที่สุดในกลุ่มรถสปอร์ต

ราคาและความคุ้มค่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์ 5 เป็นโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุด โดยการันตียอดขายตลอด 30 ปี นับแต่เริ่มเปิดตัวครั้งแรกด้วยยอดขายทั่วโลกสูงถึง 1 ล้านคัน ราคาค่าตัวโฉมปัจจุบันซึ่งเป็นโฉมที่ 4 อยู่ที่ 2.9 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกันที่ส่วนใหญ่ขายในราคา 4 – 5 ล้านบาท เรียกได้ว่าราคาค่าตัวนั้นถูกกว่าเกือบครึ่ง แต่คุณจะได้ฟิลลิ่งการขับแบบสปอร์ตของแท้ ทั้งเสียงเครื่องยนต์ และอัตราเร่งที่สนุกกว่าการขับรถซีดานทั่วไป

2.ใช้เครื่องรหัสเดียวกับ มาสด้า 3 แต่แรงกว่าเห็น ๆ

หลายคนเห็น เอ็มเอ็กซ์ 5 อาร์เอฟ ใช้เครื่องยนต์รหัสเดียวกันกับมาสด้า 3 อาจจะคิดว่ามีความแรงเท่ากันแบบนี้ซื้อมาสด้า 3 ก็ได้ แต่ความจริงแล้ว เครื่องของ เอ็มเอ็กซ์ 5 ได้รับการปรับแต่งให้มีพละกำลังสูงขึ้นถึง 184 แรงม้า มากกว่ามาสด้า 3 ที่มีแรงม้าอยู่ที่ 161 แรงม้า และไม่เพียงแค่เครื่องยนต์ที่แเรงกว่า ระบบช่วงล่าง ระบบเบรก การออกแบบตัวรถ ระบบขับเคลื่อน ที่ได้รับการออกแบบ ยิ่งเสริมให้รถคันนี้มีอัตราเร่งความเร็ว การเกาะถนน และการทำความเร็วสูงสุด อยู่ที่ 230 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม. อยู่ที่ 7.5 วินาที มากพอที่จะทำให้คุณหลังติดเบาะและสนุกไปกับการขับรถรุ่นนี้ได้อย่างแน่นอน

3.ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มีมาอย่างพอเพียง

ในรถ มาสด้า เอ็มเอ็กซ์ 5 อาร์เอฟ 2020 ได้มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสีที่จำหน่าย ระบบเครื่องเสียงที่ดีขึ้น และที่ลูกค้าหลายคนอยากให้เพิ่มเข้าระบบช่วยเหลือการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ,ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ,ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R ,ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ,ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) และระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) โดยเฉพาะระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติที่ใส่เพิ่มเข้ามานั้นดีกว่ารุ่นปี 2019 จนทำให้หลายคนที่ยังลังเลไม่ซื้อเมื่อปีที่ผ่านมา หันมาซื้อรุ่นปี 2020 อย่างแน่นอน

4.ขายต่อได้ราคาดี

โดยปรกติแล้วในตลาดซื้อขายรถยนต์มือสอง เมื่อรถคันนั้นผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 4 ปี ราคาจะตกลงครึ่งหนึ่งของราคาขายเปิดตัว แต่กฎข้อนี้ใช้ไม่ได้กับมาสด้า MX5 ด้วยรูปโฉมสปอร์ต สมรรถนะ และความนิยมในตัวรถรุ่นนี้ทำให้ทำให้ราคาขายในตลาดรถมือสองยังมีราคาดี ยกตัวอย่าง เอ็มเอ็กซ์ 5 รุ่นปี 2016 มีการซื้อขายกันในปี 2020 อยู่ประมาณ 1.7 -1.8 ล้านบาท และคาดกันว่าในรุ่น ลิมิเต็ด ฉลอง 30 ปี เอ็มเอ็กซ์ 5 ที่จำหน่ายเพียง 3,000 คันทั่วโลก นอกจากราคาจะไม่ตกแล้ว ยังขายได้ราคาสูงกว่าตอนซื้อมาเสียอีก