ฟังเหตุผล ทำไม BMW ตั้งเป้าหมาย รถอีวีของค่ายไม่มีทางวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม./ชาร์จ

• แบตเตอรี่รุ่นใหม่ดีขึ้น แต่จะขับได้ไม่เกิน 1,000 กม. ต่อหนึ่งชาร์จ
• อนาคต รถชาร์จเร็วขึ้น แบตเตอรี่ใหญ่อาจไม่จำเป็น
• แบตเตอรี่ใหม่ ได้พื้นที่เพิ่ม
• อายุแบตเตอรี่ใหม่จะยังใช้ได้นานตามมาตรฐาน
• ลดต้นทุนแบตเตอรี่ แถมรีไซเคิลได้ด้วย

ในช่วงนี้ดูเหมือนว่า BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) จะทำงานเกี่ยวกับความยั่งยืนอย่างหนัก ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การเปลี่ยนหนังแท้จากสัตว์มาเป็นหนังแบบวีแกน หรือการใช้วัสดุรีไซเคิลในรถรุ่นใหม่ ๆ 

แต่ยังมีแพลทฟอร์มอีวีใหม่ของค่าย อย่าง Neue Klasse ที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งจะสร้างหนทางใหม่แห่งรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายใบพัดฟ้าขาวนี้

แบตเตอรี่รุ่นใหม่จะดีขึ้น แต่จะจำกัดระยะทางขับขี่ไม่ให้เกิน 1,000 กม.

ก่อนหน้านี้ BMW ได้เตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่จะใช้ในอนาคตไปเป็นแบบทรงกระบอกซึ่งเหมือนกับแบตเตอรี่ 4680 ของ Tesla ที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ใช้ในปัจจุบัน

แต่ BMW จะไม่ได้ใช้แบตเตอรี่เหล่านี้เพื่อที่จะทำให้ระยะทางขับขี่ที่มากเกินไป แต่จะจำกัดระยะทางการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของค่ายให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยระบุว่า

“แบตเตอรี่รุ่นที่ 6 จะมีระยะทางขับขี่ที่มากกว่าแบตเตอรี่รุ่นที่ 5 กว่า 30% หรือมากกว่า แต่เราจะไม่ทำให้รถขับขี่ได้เกิน 1,000 กม. แม้พวกเราจะสามารถทำได้ก็ตาม” กล่าวโดย Thomas Albrecht หัวหน้าแผนก Efficient Dynamics ของ BMW ในการสัมภาษณ์กับ Autocar

อนาคต รถชาร์จเร็วขึ้น แบตเตอรี่ใหญ่อาจไม่จำเป็น

Albrecht กล่าวต่อไปว่า BMW รู้สึกว่ารถยนต์ไม่ต้องการระยะทางมากกว่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาในการชาร์จนั้นเร็วขึ้น โดยแบตเตอรี่รุ่นที่ 6 ของแบรนด์จะสามารถชาร์จได้เร็วขึ้น 30% จากเดิม เมื่อชาร์จแบบ DC 

หมายความว่าแบบตเตอรี่ใหม่นี้จะสามารถรองรับการชาร์จเร็วได้สูงสุดถึง 270 กิโลวัตต์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่ Porsche Taycan ทำได้ในปัจจุบัน

แบตเตอรี่ใหม่ ได้พื้นที่เพิ่ม

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ใหม่เหล่านี้จะมีน้ำหนักน้อยกว่าแบตเตอรี่รุ่นก่อน (รุ่นที่ 5) ราว 10-20% โดยแบตเตอรี่ปัจจุบัน (รุ่นที่ 5) ในขนาดกลางจะมีน้ำหนักประมาณ 300 กก. 

หากเป็นแบตเตอรี่รูปร่างใหม่ทรงกระบอก (เส้นผ่านศูนย์กลาง 46 มม. และความสูงที่ 95 หรือ 120 มม.) จะมีคุณสมบัติทางเคมีที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมซึ่งจะใช้นิกเกิลมากขึ้นและใช้โคบอลต์น้อยกว่า

แบตเตอรี่แบบใหม่นี้จะจัดจำหน่ายโดยบริษัทจีนอย่าง CATL และทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีแบตเตอรี่ที่ใช้พื้นที่น้อยลงและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น และก้อนแบตเตอรี่จะกลายเป็นองค์ประกอบของแพลทฟอร์มอีวีใหม่อีกด้วย

Marie-Therese von Srbik หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ของ BMW กล่าวว่า “ด้วยคุณสมบัติของแบตเตอรี่รุ่นต่อไป เราจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการเซลล์แบตเตอรี่ ตัวจะสามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้มากขึ้น”

อ่านเพิ่มเติม : ทำไม BMW ต้องเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ทรงกระบอก

อายุแบตเตอรี่ใหม่จะยังใช้ได้นานตามมาตรฐาน

สำหรับอายุการใช้งานของเซลล์แบตเตอรี่แบบใหม่นั้น ผู้เชี่ยวชาญของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นยังไม่ให้ตัวเลขที่ชัดเจน 

แต่ Albrecht ตั้งข้อสังเกตว่าการออกกฎหมายจะขยายการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้มากขึ้น เช่น กฎหมายในสหรัฐฯ แบตเตอรี่จะต้องมีประสิทธิภาพที่ 80% หลังการใช้งานไปแล้ว 10 ปี และแบตเตอรี่ของ BMW นั้น “สามารถทำได้ดีกว่านั้นแล้ว”

ลดต้นทุนแบตเตอรี่ แถมรีไซเคิลได้ด้วย

BMW ยังคาดหวังว่าการพัฒนาแบตเตอรี่ครั้งนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงกว่า 50% ซึ่งน่าสนใจเพราะในปัจจุบันต้นทุนของอีวีนั้นมาจากแบตเตอรี่ถึง 40% นอกจากนี้ จากนโยบายความยั่งยืนของค่ายในภาพรวมนั้น BMW ยังต้องการทำให้แบตเตอรี่นั้นสามารถรีไซเคิลได้มากขึ้น อย่างที่ von Srbik อธิบายว่า

“เรายังตั้งเป้าหมายสำหรับการทำให้เหล็กมีการใช้งานเป็นวัฏจักรในแบตเตอรี่ของเรา เราได้จัดการเพื่อให้สามารถครบรอบหนึ่งวงจรได้แล้วในการผลิตที่จีน แต่ในภาพรวมแล้ว มันเป็นวงจรที่ยาวมาก 

แบตเตอรี่นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเรายังต้องคิดไปยังอุตสาหกรรมทั้งระบบในคราวเดียว แต่ในที่สุดแล้ว เราก็สามารถไปถึงจุดที่โลหะที่มีค่าในแบตเตอรี่ของเราสามารถนำมาจากแหล่งที่มาแบบรีไซเคิลได้ในที่สุด” โดย BMW กำลังมองหาแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอรอนฟอสเฟตมาใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับเริ่มต้น

รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แพลทฟอร์มอีวีใหม่ Neue Klasse จะเปิดตัวในปี 2025 เราคงต้องมาคอยลุ้นกันว่า รถรุ่นแรกในแพลทฟอร์มใหม่จะเป็นรถแบบไหนกันแน่

อ่านเพิ่มเติม : BMW M ซุ่มทดสอบระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 4 ตัว - จุดเริ่มต้นของซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า?