6 รุ่นรถยนต์ที่มีชื่อเสียงด้านลบมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด

หาdจะมองจำนวนนักข่าวสายยานยนต์ในโลกนี้ คงเป็นเรื่องยากที่รถยนต์สักรุ่นหนึ่งจะได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดี ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรได้รับ แต่มันก็มีให้เห็นได้เยอะจริง ๆ

ถึงรถเหล่านี้จะมีการวางขายกันหลายเจนเนอเรชั่น แต่ก็ยังได้รับชื่อเสียงในทางลบอยู่ แม้จะแก้ปัญหาได้แล้วก็ตาม จนบางคันต้องเลิกขายไปเพราะกระแสจากสื่อ ทำให้คนไม่กล้าซื้อขับ

Toyota Prius

ตัวรถ Toyota Prius นั้นถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรก ๆ ของตลาด และประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียวด้วยการตั้งเป้ายอดขายและเทคโนโลยีที่เป็นไปได้จริง

หากไม่มีการบุกเบิกของ Prius นั้น ก็เป็นไปได้ว่าราคาของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะยังสูงอยู่ และคนทั่วไปก็คงไม่เปิดรับรถยนต์ไฮบริด จนเราอาจไม่มีทางเลือกแบบที่เรามีในวันนี้

สิ่งที่เป็นกระแสลบของพรีอุสในช่วงแรก ๆ นั้นเป็นปัญหาด้านภาพลักษณ์ ว่ากันว่ามีลูกค้าบางกลุ่มที่ถือตัวเป็นชนชั้นสูงทันทีเมื่อเปลี่ยนมาใช้รถไฮบริด

ส่วนอีกสาเหตุน่าจะเกี่ยวกับการออกแบบที่มีหน้าตาwม่สวยงามนักในยุคแรกจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีรุ่น TRD ก็ม่สามารถหลอกผู้คนให้ได้เชื่อว่ามันเป็นมากกว่ารถประหยัด แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวรถทำหน้าที่ของมันได้ดีจริง ๆ

Audi TT

ในช่วงยุคแรก ๆ ในสหรัฐ มีการเรียก Audi TT (อาวดี้ ทีที) ว่าเป็นรถของช่างทำผม เพราะดูเป็นรถที่เหมาะกับผู้หญิงและกลุ่มเพศที่ 3 มากกว่า กล่าวอีกนัยคือมันดูไม่เหมือนรถของผู้ชาย

ในความจริงแล้ว Audi TT ก็ถือเป็นรถที่มีขนาดเล็ก, โฉบเฉี่ยว และรถเปิดประทุนที่ดูมีสไตล์ แถมยังมีพละกำลังที่ดีอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันคำครหานั้นได้เริ่มจางหายไปแล้ว

แต่ก็ยังมีอีกปัญหา คือมันราคาค่อนข้างแพง

อ่านเพิ่มเติม Audi TT Final Icon รุ่นส่งท้ายก่อนจาก​ ราคา​ 3.599 -​ 3.899 ล้านบาท

Reliant Robin

ชาวไทยอาจไม่ค้นชินกับรถคันนี้นัก แต่ชาวอังกฤษยุคก่อนหรือคนที่เคยดูรายการ Top Gear จะจำ Reliant Robin ได้ในฐานะรถ 3 ล้อที่มักจะล้มขณะเข้าโค้งจนได้ชื่อว่าเป็นรถยอดแย่อยู่หลายปี แต่มันก็ยังมีเรื่องดีอยู่

ด้วยตัวรถที่ทำจากวัสดุไฟเบอร์กลาส, ขาดไปล้อหนึ่ง และไม่ต้องใช้เครื่องใหญ่ ทำให้มันมีน้ำหนักเบา ตั้งแต่วางขายจนถึงปี 2001 มันยังสามารถเข้าไปขี่ในเลนรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างถูกกฏหมาย และถูกเก็บภาษีและจดทะเบียนในอัตรารถจักรยานยนต์ในสหราชอาณาจักร

และในช่วงเวลาเศรษฐกิจตกต่ำในช่วง 1970-1980 มันยังเป็นรถที่ราคาเข้าถึงได้ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 25-34 กม./ลิตรเลยนะ

Pontiac Aztek

อาจจะยากหน่อยถ้าจะหาคนที่ชื่นชอบหน้าตาของ Pontiac Aztek จริง ๆ มันยังเป็นรถที่คนทั่วโลกต่างก่นด่าขนถึงขั้นที่ว่าก่อนปีที่จะเลิกขาย มันทำยอดขายได้เพียง 347 คันในสหรัฐ ส่วนปีสุดท้ายทำได้เพียง 69 คัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ยังเป็นรถที่ใช้งานได้ดีและลุยทางขรุขระได้ เป็นรถครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย หรือใช้ไปซื้อกับข้าวก็ได้

ถ้าหากมันมีการออกแบบที่หลุดโลกน้อยกว่านี้ และมีการโปรโมททางตลาดว่าเป็นรถแบบครอสโอเวอร์ แทนที่จะเป็น "สุดยอดรถของคนชอบผจญภัย" มันก็อาจจะขายได้ดีกว่านี้

อ่านเพิ่มเติม 5 รถ SUV ที่ชาวอเมริกันเสียดายเงินมากที่สุด

Nissan Juke

หากจะพูดถึงรถที่ถูกต่อว่าอย่างรุนแรงเกี่ยวกับหน้าตา จะขาด Nissan Juke ไปก็คงไม่ได้ ด้วยการเป็ครอสโอเวอร์ยุคแรก ๆ มีหน้าตาที่อาจดูแปลกสำหรับหลาย ๆ คน

เช่นเดียวกับรถคันอื่นในบทความนี้ มันก็เป้นรถที่ค่อนข้างทนทานตามแบบฉบับ Nissan (นิสสัน) และเป็นรถที่ขับสุกด้วยเครื่อง 1.6 ลิตรเทอร์โบในต่างประเทศ จึงเป็นรถที่มีสมรรถนะดูดีกว่าหน้าตา และโฉมปัจจุบันหน้าตาก็ดูดีทีเดียว

Toyota Celica

Toyota Celica เจน 6 ได้รับชื่อเสียงที่ว่า มันคือ Toyota Supra (โตโยต้า ซูปร้า) สำหรับคนจนหรือไม่มีเงินพอซื้อ จากนั้นมันก็ถูกเยาะเย้ยว่าเป็นรถที่อยากเป็นรถสปอร์ต เนื่องจากรูปลักษณ์ที่ดูฉูดฉาดในขณะนั้นและใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

ถึงจะมีรุ่นขับสี่เทอร์โบออกมา มันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมากนัก ซึ่งมันก็น่าเสียดายเพราะมันก็เป็นรถคูเป้ที่ขับสนุกคันหนึ่ง แชสซีมีความบาลานซ์ที่ดี, ภายในกว้างแม้จะคันเล็ก และมีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดี

มันมีราคาไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มา นอกจากนี้มันยังเป็นรถที่นิยมกันในหมู่นักแต่งอีกด้วย

รถทุกคันมีดี

เรามองว่าจริง ๆ แล้ว รถยนต์ทุกคันในโลกต่างก็มีข้อดีในตัวเอง เพียงแต่บางคันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็เท่านั้น บางทีรถที่ดูหน้าตาไม่สวยก็อาจจะถูกใจในการขับขี่ก็มี ต้องลองเปิดใจกันดูครับ